เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
Vijarn | Filmsvijarnxoxo
Spider-Man: Into the Spider-Verse (2018) แมงมุมดำตัวนั้น คือฉันเพียงหนึ่งเดียว
  • 'best superhero movie of 2018 so far.'

    ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า spider-man ฉบับ raimi สร้างมาตรฐานไว้ดีงามเหลือเกิน (หลายคนอาจไม่เห็นด้วยแต่หลายสถาบันนักวิจารณ์ก็หันเหไปในทิศทางเดียวกัน) การมาของฉบับ into the spider-verse จึงสร้างความคาดหวังครั้งใหญ่อีกครั้งถัดจาก homecoming (ซึ่งเราเองยังไม่ได้มีโอกาสดู) ว่าจะทำได้เทียบเท่าหรือไม่ … ตอนนี้ได้ปราศจากข้อกังขาแล้วว่าไม่ได้ทำได้ลดน้อยถอยหลัง หนำซ้ำอาจเรียกได้ว่าเป็นหนัง spider-man ที่ดีงามนับจากภาคสองของ raimi เลยก็ว่าได้.

    ไมล์ เด็กหนุ่มผิวสีธรรมดา ๆ คนหนึ่ง (ที่ครอบครัวยังไม่มีใครตาย) ถูกแมงมุมอาบรังสีกัดจนทำให้เขากลายเป็น spider-man อีกคนในเมืองที่มี original spider-man ซึ่งก็คือ peter parker อยู่… กระทั่งวันหนึ่งเขาพบว่าตัวร้าย kingpin ได้ทำการฆ่า peter parker ได้สำเร็จ… แต่นั่นเป็นเพียงจุดเริ่มต้นของเรื่องราวสุดมันส์เท่านั้น.




    จะขอแยกสองส่วนระหว่างคนที่ดูแล้วกับยังไม่มีโอกาสได้ดูนะครับ (ฉายจริง) จะขอเขียนถึงส่วนแรกก่อน

    1. หนังได้สร้างคาแร็กเตอร์ไมล์ได้แข็งแรงมาก ๆ คือเป็นหนังเดี่ยวของไมล์ที่เราไม่มีครหาในการเปรียบเทียบกับเวอร์ชั้น peter parker เลยเพราะว่านอกจากสัดส่วนของการมีบทบาทในจอระหว่าง mile กับ peter จะสามารถทำได้ดีแล้ว ธีมของไมล์เองเนื่องจากเป็นคนผิวสี เพลงประกอบอะไรต่าง ๆ รวมถึงบริบทของครอบครัวยังเป็นในแบบของไมล์ที่ไม่ทับซ้อนความรันทดอดสูของ parker นอกจากนี้ตัวละครยังมีความสดใสในแบบของวัยรุ่นเอง... มันจึงแข็งแรงในจุดนี้

    2. ด้วยความที่หนังมันเป็น animated เลยทำให้หลายฉากมันมี tempo ที่ฉับ ๆๆๆ หวือหวา ดูแล้วสนุกมาก (แต่สำหรับบางคนอาจเวียนหัวโฟกัสไม่ทัน) โดยเฉพาะ action scene ที่เรียกได้ว่าถ้าเป็น live-action อาจไม่ให้อารมณ์ "ดีด" เท่า คือมันทำตัวเป็นหนัง animated ที่ดี คือหลายครั้งด้วยกัน animated film มักไม่ได้ใช้ข้อดีของ genre ตัวเองในการสรรค์สร้างฉาก คือว่าง่าย ๆ สามารถทำแบบ live-action ได้ แต่สำหรับ into the spider-verse เหมือนรู้จักตัวเอง เลยงัดแง่ creative, ความ fantasy ในท้ายเรื่องอย่างจัดหนักจัดเต็ม มันเลยอดสนุกมาก ๆ ไม่ได้เลย

    3. ข้อเสียของหนังคือหนังให้เวลากับตัวร้ายน้อยไปทำให้ตัวร้ายค่อนข้างแบนราบ แม้ว่าจะมีปูมหลังที่เจ็บปวดแต่ยังไม่ได้ทำให้รู้สึกว่าตัวละครมีมิติเพิ่มขึ้นอย่างใด แต่กระนั้นมันก็เป็นตัวร้ายที่พอสมน้ำสมเนื้อกับ spider mile อยู่บ้าง

    4. หนังมัน playful มาก ๆ คือด้วยความที่มัน produce โดย phil lord กับ chris miller (คนแรกร่วมเขียนบทด้วย) ที่ทำ 21&22 jump street ได้แสบสันดี mood ของหนังมันเลยออกมาก๋ากั่น มุกตลกต่าง ๆ หลายมุกตรงจังหวะไม่เจื่อน เป็นความบันเทิงชั้นดีที่เรามักไม่ค่อยได้เห็นใน spider-man movies แบบ live-action มาก่อนเท่าไรนัก.




    *****spoiler alert*****

    5. อย่างที่บอกไปว่าตัวละครมันแข็งแรงมาก ๆ ด้วยตัว personality ของไมล์เองและครอบครัวที่ต่างจากแบบ peter ทำให้มันแทบไม่ต้องการการสูญเสียมาเพิ่มมิติตัวละคร แต่สุดท้ายก็มี เมื่ออาตัวเองเป็นหนึ่งในลูกน้องตัวร้ายแล้วโดนฆ่า ซึ่งกว่าหนังจะพาไปถึงจุดนั้นทุกอย่างมันลงตัวแทบไม่ต้องใส่อะไรมาเพิ่ม (แต่มีมาเพิ่มก็ไม่ได้มีปํญหาอย่างไรให้หนังแย่ลง ก็มัน signature ของ spidey อะเนอะที่ต้องมีคนตาย)

    6. มันเป็นหนังของ spidey จริง ๆ มันรวม spidey จากหลาย comic version มาผนวกใส่ ซึ่งแต่ละตัวก็สร้างพื้นที่โดดเด่นได้ไม่แย่งขัดกัน ที่ว่าแม้จะมีตัวหนึ่งโดดเด่นซึ่งก็คือ peter parker ที่มาจากมิติที่เขาเป็น loser ก็ตาม และตอนสุดท้ายเราก็ได้รู้จริง ๆ ว่าไม่มีใครเข้าใจ spidey ด้วยกันไปมากกว่า spidey ด้วยกันเอง…

    7. end credit ปั่นมาก ว้อยยยยยยยย คือมันไม่มีนัยอื่นใช่มั้ย แต่มันจี้มาก

    /จบ




    ปล. เพลงประกอบดีมาก ดีดแบบ ดีดจริง ๆ

    (ฉายจริง 10 ม.ค. 2562)

    ติดตามต่อได้ที่เพจ คนวิจารณ์หนังฝรั่ง
Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in