02.31 น.
มันเป็นเวลาที่ใครหลายคนควรจะหลับใหลไปเเล้วตอนนี้ เเต่กลับเขามันไม่ใช่ เขาพึ่งกลับมาจากบาร์แห่งหนึ่งเเถวคอนโดที่เขาอยู่ในสภาพที่กึ่งจะลากขาตัวเองมาด้วยซ หลัง ๆ มานี้เขาเข้าไปเเวะเวียนที่บาร์แห่งนั้นบ่อย อาจเพราะคุยกับบาร์เทนเดอร์ที่เเล้วถูกใจ หรือ อาจเป็นเพราะบาร์นั้นทำให้เขาได้เจอใครคนหนึ่ง คนที่เคยยิ้มเเละหัวเราะร่วมกันกับเขาเมื่อเดือนก่อน
เขาสลัดความคิดฟุ้งซ่านนั้นออกก่อนที่เขาจะได้น้ำตกเสียก่อน ความมืดของห้องทำให้เขาเผลอไปชนกรอบรูปที่โต๊ะหน้าประตูตก เขาสบถให้กับความซุ่มซ่ามของตัวเอง เเละคลำหาสวิตช์ไฟ
"อ่า เจอสักที" เหมือนคนแก่ที่พอหาอะไรเจอเเล้วส่งเสียพึงพอใจออกมายังไงยังงั้น
"ว่ายังไง เลออน ยังไม่นอนหรอหื้ม"
เขาถามเจ้าเเมวหน้าโง่พันธ์หิมาลายันที่ป้าเขาซื้อมาเเต่ไม่มีเวลาที่จะเลี้ยง เเละยกให้เขาด้วยเหตุผลว่า เห็นช่วงนี้เขาอยู่คนเดียวเป็นข้ออ้างในการยกภาระมาให้ เขาก้มตัวลูบหัวเจ้าเลออนก่อนจะอุ้มมันไปวางไว้ที่โซฟากลางห้อง
"กินน้ำสักหน่อยดีกว่าเรา"
ในขณะที่เขากำลังจะเดินไปรินน้ำในตู้เย็น เสียงข้อความโทรศัพท์ของเขาก็ดังขึ้น ครั้งเเรกเขาไม่ได้สนใจหรือเอะใจอะไรสักเท่าไร เเต่พอมีครั้งที่สามเเละสองตามมา มันก็ทำให้เขาถึงกับขมวดคิ้วสงสัยว่าใครกันน่ะ ที่ส่งข้อความมาหาตอนเวลาแบบนี้ มันควรจะเป็นเวลาที่คนส่วนใหญ่เขานอนกัันไม่ใช่หรอ
คำถามอยู่ในหัวของเขาได้รับคำตอบทันทีที่เขาเอื้อมมือไปหยิบโทรศัพท์ที่เจ้าเลออนนอนทับอยู่ขึ้นมาดู ชื่อของคนที่ส่งมาเกือบทำให้ใจเขาหยุดเต้นไปเเล้ว เขามองข้อความที่ส่งมาอย่างพิจารณา
'นอนรึยัง เป็นยังไงบ้าง สบายดีรึป่าว '
คำถามรัวๆ ของบุคคลที่หายหน้าหายตาไปจากเขาเมื่อเดือนที่เเล้วถูกส่งมา จะตอบว่ายังไงดี ควรจะตอบดีรึป่าว หรือไม่ควรดี ถ้าไม่ตอบจะดูเป็นการเสียมารยาทรึป่าว เขาคิดหาคำตอบมาตอบไม่ได้เลย เหมือนจะเป็นบ้าไปเเล้ว
ให้ตายเถอะ .. หมอนั้นหายไปจากชีวิตเขาเมื่อเดือนที่เเล้วโดยการที่นอกใจเขาไปมีคนใหม่ เเต่ตอนนี้หมอนั้นส่งข้อความมาหาเขาด้วยคำถามที่อยากรู้ว่าเขาเป็นอย่างไรเนี่ยน่ะ? ถ้าเป็นเขาตอนที่ยังไม่มีแอลกอฮอล์เข้าสู่ร่างกาย คงจะเข้าไปอ่านเเล้วไม่ตอบ หรือ ไม่ก็ตอบกลับไปว่าสบายดีกว่าตอนที่คบกัน
เเต่นี่ในร่างกายเขาเต็มไปด้วยแอลกอฮอล์ที่วันนี้เขาตั้งใจที่จะมอมเมาตัวเองโดยเเท้ เเย่ชะมัดเลย ทำไมถึงทักมาในเวลาแบบนี้นะ ฤทธิ์ของแอลกอฮอล์ที่อยู่ในร่างกายเขาตอนนี้ถ้าให้เอาแท่งปรอทวัดอุณหภูมิมาวัดคงร้อนจัดราวกับคนไข้ขึ้น เขาไม่เคยคิดถึงเหตุการ์ณเเบบนี้เลยไม่รู้จะตอบกลับยังไง
.
.
.
.
.
เหมือนสมองสั้งงานเขาเล่นตลก เมื่อสายตาเจ้ากรรมของเขาดันไปเห็นกรอบรูปที่ตกอยู่หน้าประตูทางเข้าห้องที่เขาคิดว่า เดียวเก็บกวาดพรุ่งนี้ รูปนั้นเป็นรูปที่เขาตัดใจทิ้งไม่ได้เสียที รูปคู่ของเขาเเละหมอนั้น คนที่เขาเคยรัก เหมือนสมองจะเล่นตลกกับเขาอีกรอบ เมื่อจู่ก็มีน้ำใส ๆ ไหลออกมาจากตาของเขา
' อ่อนแอ จมปัก คิดถึง ยังรัก ' คำเหล่านี้วนเวียนเข้ามาในหัวของเขาเเทบจะทันทีที่มีของเหลวใส ๆ ไหลออกมาจากตาเขา เขาเดินไปเก็บกรอบรูปนั้นขึ้นเเล้ววางไว้ตำแหน่งเดิมที่เขาเคยวาง เขากำโทรศัพท์ในมือเเน่น เเต่ก็ยังไม่ยอมเขาไปอ่านหรือจะตอบอะไรกลับไป
' ทำไมถึงรักเขาขนาดนี้นะ ' เขาตั้งคำถามกับตัวเอง เหมือนเรื่องราวทั้งหมดที่ผ่านเป็นเเค่เพียงความฝัน เสมือนฝันนั้นเป็นฝันดีของเขา ฝันที่เขาไม่อยากตื่น อยากนอนหลับเเละไม่ต้องคิดอะไร เพียงปล่อยให้ฝันดำเนินการต่อ เเต่ฝันก็ต้องมีตื่น การตื่นจากฝันสำหรับเขามันคือการถูกทอดทิ้งจากคนที่รัก เจ็บปวด เสียใจ ทรมาน ที่สำคัญมันคือเรื่องจริง ราวกับคนบ้า พร่ำเพ้อไปเรื่อย สงสารตัวเองที่รักเขาได้ขนาดนี้ เเต่เเค่ตอบว่าสบายดีคงไม่เป็นไรหรอกมั้ง เขาที่กำลังจะกดเข้าไปตอบเเชทของอดีตคนรัก เเต่ยังไม่ทันได้กดส่ง ข้อความของอีกฝ่ายก็เด้งสวนเข้ามาก่อน
'ขอโทษที่ทักหาตอนเมานะไปละ'
ราวกับกำเเพงประการสุดท้ายของเขาพังทลาย เขาร้องไห้ออกมาอย่างไม่อายอะไรทั้งสิ้น เเค่เมาสิน่ะ เเค่เมาเท่านั้น เขาทั้งร้องไห้เเละหัวเราะเยาะเย้ยตัวเองไปด้วย บ้าจริงๆที่ไปคิดว่า หมอนั้นจะคิดถึงเขา บ้าจริงๆ ที่คิดว่าหมอนั้นจะยังรุ้สึกเหมือนเขา ราวกับคนเสียสติ เขาที่ปาดน้ำตาจากหน้าซ้ำเเล้วซ้ำเล่า เเต่ดูถ้าคงอีกนานกว่าที่เขาจะเลิกร้องไห้ ตอนนี้ห้องที่เคยเงียบสงัดกลับมีเเต่เสียงปล่อยโฮของเขาเอง
ทั้งนี่เขาจะจดจำความฝันนี่ไว้ ไม่ได้ทิ้งให้มันไปไหน เเต่จะคอยจดจำเเละย้ำซ้ำๆ ให้เป็นเรื่องที่คอยเตือนเขาว่า อย่าพลาด ไม่สิ จะให้เป็นเรื่องที่คอยเตือนว่า ถ้าจะรักใครอย่าทุ่มให้จนหมดขนาดนั้นอีก อย่ารักเขาจนตัวเองไม่รักตัวเองอีก .
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in