ผู้เขียน : Steven Gerrard with Donald McRae
ผู้แปล : จีรวรรณ ด้วงนาม แฮร์เรียต, พันทิวา ศรีประสงค์, อมรรัตน์ ก่อกิจพูนผล และ
ศรัณญา พานิชสกุล
สำนักพิมพ์ : Move Publishing
จำนวนหน้า : 519 หน้า
ราคา : 425 บาท
สวัสดีวันศุกร์ค่ะคุณผู้อ่าน
วันนี้เป็นวันก่อนคริสต์มาสสองวัน เพราะฉะนั้น Merry Xmas ล่วงหน้านะคะ
พี่ไทยเราก็เฮได้กับทุกเทศกาลนะคะ แม้ว่าพวกไทยแท้ๆเลยจะไม่เคยหยุดคริสมาสอะไรกับเขาก็ตาม(ตอนเด็กๆ 25 ธันวา นี่ วันสอบทุกรอบฮ่ะ//วิถีโรงเรียนรัฐบาล+พุทธ) แต่ก็ชอบบรรยากาศอยู่ดีเนอะ
ถ้าได้ข่าวดีเรื่องพระอาการประชวรของ "พระองค์ภา" และข่าวเรื่องการรอดชีวิตของบุคคลใน "เรือหลวงสุโขทัย" ก็จะถือเป็นของขวัญคริสต์มาส ที่น่าจดจำยิ่ง
ส่วนวันนี้ เนื่องจากเพิ่งพ้นเทศกาลฟุตบอลระดับโลกมาหมาดๆ
มาอ่านหนังสือเกี่ยวกับฟุตบอลกันดีกว่าค่ะ เล่มนี้เลย สตีเวน เจอร์ราร์ด ตำนานตลอดกาลแห่งแอนฟิลด์
..แม้อาจเป็นเวลาที่ไม่ค่อยเหมาะสม เนื่องจาก ณ วันที่โพสต์เรื่องนี้ ลิเวอร์พูลจะเพิ่งถูกแมนซิตี้ เตะตกรอบ(ถ้วยรอง..ซักถ้วยอ่ะ)มาสดๆร้อนๆก็ตาม..
ก่อนเข้าเนื้อหา ขออนุญาตอวด แม้ราคาปกจะสี่ร้อยกว่า แต่เราได้หนังสือเล่มนี้มาในราคา 100 บาท เท่านั้น!!
ปลื้มปริ่มมากค่ะ
มีใครเป็น The Cop หรือภาษาไทยคือ
แฟนทีมลิเวอร์พูล(ชื่อเล่น : หงส์แดง) ไหมคะ?
ใครก็ตามที่เป็นแฟนหงส์หรือติดตามฟุตบอลมานาน คุณคงจะรู้จัก สตีเวน เจอร์ราร์ด อดีตผู้เล่น กัปตันทีมลิเวอร์พูล และกัปตันทีมชาติอังกฤษ
หนังสือเล่มนี้คือชีวประวัติเกี่ยวกับเจอร์ราร์ด โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในเส้นทางอาชีพนักเตะของเขา
เราเริ่มการเดินทางกันด้วยเหตุการณ์ที่สตีเวน(ขออนุญาตพิมพ์ชื่อนะ นามสกุลมันมีการันต์เยอะ พิมพ์ยากกว่า) ลื่นล้มในนัดที่เจอกับเชลซี ในฤดูกาล 2014 และนั่นก็ทำให้หงส์แดงชวดแชมป์พรีเมียร์ลีคไปอย่างน่าเสียดาย
หลังจากนั้นเรื่องราวในหนังสือก็จะกลับไปกลับมาระหว่างเหตุการณ์ปีนั้นปีนี้ แต่ยังคงเนื้อหาหลักๆนั่นคือ การเข้าสู่อาชีพ และการเดินทางในเส้นทางนักฟุตบอลของสตีเวน ตั้งแต่ก่อนเริ่มค้าแข้งกับลิเวอร์พูล จนกระทั่งย้ายไปเล่นที่ลีคในประเทศสหรัฐอเมริกาในที่สุด คั่นเรื่องราวเป็นระยะด้วยภาพของสตีเวนและบุคคลรอบตัวในเหตุการณ์ต่างๆที่น่าจดจำ เป็นภาพสี่สีสวยสด คนในรูปหน้าตาหล่อเหลาใช้ได้
นี่ถ้าเป็นเรื่องและรูปของนักเตะเยอรมัน ยัยคนเขียนจะฟินกว่านี้...
อ่านหนังสือเล่มนี้แล้วรู้สึกเหมือนกำลังนั่งอยู่กับสตีเวน เจอร์ราร์ด จริงๆ แล้วนั่งฟังสตีเวนเล่าเรื่องของตัวเองไปเรื่อยๆ และเรื่อยๆ สิ่งที่เขาพบเจอ ความเจ็บปวดที่เขาเคยประสบ ความคิดเห็นของเขาต่อเพื่อนร่วมทีมและโค้ชแต่ละคน ตลอดจนมุมมองที่มีต่อวงการฟุตบอลอังกฤษและวงการฟุตบอลชาติอื่นๆ เช่น เยอรมัน
มีมุมมองเปรียบเทียบระหว่างฟุตบอลอังกฤษและฟุตบอลเยอรมันอย่างหนึ่งที่น่าสนใจ นั่นคือที่เขาเล่าประมาณว่า ในอังกฤษ คนจะมองนักเตะเป็นคนดังแล้วไม่ว่าจะมีผลงานประจักษ์หรือไม่เพียงใด แต่ในเยอรมัน คุณจะต้องประสบความสำเร็จหรือคว้าชัยอะไรสักอย่างก่อน คุณจึงจะได้รับการชื่นชมอย่างล้นหลามได้ อ่านแล้วก็...อืม มั้ง
นอกจากนี้ สตีเวนยังกล่าวถึงบุคคลในวงการบอลอังกฤษอีกหลายคน บางคนเราก็ไม่รู้จัก เพิ่งมารู้จักตอนอ่านเล่มนี้ เช่น จิมมี่ คาราเกอร์ (ชื่อถูกมั้งนะ) ไรงี้ หลังจากนั้นก็เริ่มจะได้ยินชื่ออีตาคาราเกอร์นี่บ่อยขึ้นในฐานะผู้ออกมาวิจารณ์โน่นนี่เกี่ยวกับฟุตบอล ได้ยินแล้วก็...อ่อ อีตานี่เอง
ตอนที่สนุกคือตอนที่บรรยายถึงการแข่งขันแต่ละแมตช์ อ่านแล้วนึกภาพตาม มันส์มากค่ะ เหมือนเรากำลังชมการแข่งขันนัดนั้นไปด้วย เพียงแต่เป็นการชมด้วยการอ่านหนังสือ อย่างไรก็ดี พอสตีเวนพูดถึงเรื่องเกี่ยวกับบุคคล เราก็อ่านข้ามๆไปบ้าง คือ ถึงจะอินกะฟุตบอล แต่ไม่อินกะทีมและนักเตะ...เท่าไหร่นัก
ให้พ่ออ่านพ่อก็อารมณ์เดียวกัน ชอบดูบอลนะ แต่ไม่ได้เชียร์หงส์แดง อ่านได้ แต่ไม่ได้ดี๊ด๊ามาก
จริงๆแล้ว ตั้งแต่ดูบอลมา เราก็รู้จักสตีเวนมาบ้าง และแม่เราก็ค่อนข้างสงสารนางอยู่พอสมควร เหตุผลคือ ตลอดระยะเวลาที่อยู่กะลิเวอร์พูล สตีเวนเคยได้แค่แชมป์ยูฟ่า แต่ไม่เคยได้ถือถ้วยแชมป์ลีคในประเทศตัวเองเลย
จะว่าไป ความรุ่งเรืองของลิเวอร์พูลในยุคนี้ ต้องยกความดีความชอบให้เจอร์เก้น คลอปป์ และคนที่มีวาสนามากสุดจากคลอปป์ ก็คงจะเป็นจอร์แดน แฮนเดอร์สัน ได้ชูหลายถ้วยมากจริงๆ
และคลอปป์ก็เป็นเยอรมันเช่นกัน ^_^ (เยอรมันมีทุกตำแหน่งยกเว้นตัวยิงประตู//ถอนใจ)
อ่ะ กลับมาก่อน ก่อนที่ยัยคนเขียนจะทำให้บทความนี้กลายเป็นบทความการพร่ำเพ้อเรื่องฟุตบอล เราว่าหนังสือเล่มนี้เหมาะกับคนที่เป็นแฟนบอลทีมลิเวอร์พูล และชอบสตีเวน เจอร์ราร์ด ตลอดจนคนที่เรียกตัวเองว่า เป็นแฟนพันธุ์แท้ฟุตบอลอังกฤษ เราว่าหนังสือเล่มนี้เป็นหนึ่งสิ่งที่น่าเก็บสะสมไว้อย่างยิ่งเลยล่ะ
ยิ่งไปกว่านั้น หากคุณเป็นคนรุ่นเดียวกับสตีเวน ที่โตมาพร้อมๆกับยุคอันรุ่งโรจน์ของสตีเวน ด้วยแล้วล่ะก็ เราว่า คุณอ่านหนังสือเล่มนี้ ต้องอินมากแน่ๆ เพราะมีทั้งรายละเอียดการแข่งขันในสนาม ตลอดจนนักบอลและโค้ช อีกหลายหลาก น่าจะเป็นชื่อที่คุณคุ้นเคยแน่ๆ
ขนาดเราซึ่งไม่ได้อยู่ในยุคนั้นหรือตามลีคอังกฤษมากนักอ่านแล้วยังมีอารมณ์ร่วมไปกับเหตุการณ์ด้วย คนที่โตมากับลิเวอร์พูล, สตีเวน หรือพรีเมียร์ลีค อ่านแล้วน่าจะสนุกไปกับหนังสือได้ไม่ยาก
ถ้าสนใจก็ลองหาที่ร้านหนังสือนะคะ และหากต้องการจะได้ครอบครองด้วยราคาเดียวกับเราแล้วล่ะก็
...เอาชื่อไปค้นใน shopee ได้เลยค่า (หวังว่าจะยังอยู่นะ เล่มนี้หมดเร็วมากเลยแหละ)
ขอให้สนุกนะคะ สวัสดีค่ะ
ก่อนจบ ขออนุญาตประชาสัมพันธ์ เนื่องจากตั้งแต่ประมาณ 2 กุมภาพันธ์ 2566 เป็นต้นมา ทาง minimore เปลี่ยนรูปแบบเว็บใหม่ ผลที่เกิดขึ้นคือ งานเขียนเรา...ไม่มีคนอ่านเลย (คาดว่าหาเจอยาก)ตั้งแต่วันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2566 เป็นต้นไป เราจึงตัดสินใจกลับไปเขียนเรื่องราวในบล็อกเดิมของเราแทน คุณผู้อ่านที่ถูกจริตในงานเขียนของเรา สามารถติดตามไปอ่านได้ที่
ขอบพระคุณสำหรับการติดตาม และขอบคุณทาง minimore ที่ให้พื้นที่เราได้ขีดๆเขียนๆเรื่องราวตั้งแต่วันแรกจนถึงวันนี้
จนกว่าจะพบกันใหม่
สวัสดีค่ะ
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in