เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
อ่านแล้วเล่าFayathi Sorap
อ่านแล้วเล่า : wanich 60
  • ผู้เขียน : วาณิช จรุงกิจอนันต์
    สำนักพิมพ์ : openbooks
    จำนวนหน้า : 264 หน้า
    ราคา : 295 บาท


         สวัสดีวันหยุดค่ะคุณผู้อ่าน 

         หกปีแล้วนะคะนับแต่ในหลวงรัชกาลที่ ๙ เสด็จสวรรคต..
         นี่เพิ่งตระหนักว่าตัวเองยังอ่อนแอมากๆค่ะ แค่ดูสารคดีตอนห้าโมงเย็นของวันที่ ๑๓ ตุลาคม เกี่ยวกับรัชกาลที่ ๙ ก็ร้องไห้น้ำตาเป็นเผาเต่าเลยค่ะ
         ...เวลาแค่หกปียังไม่มากพอให้ทำใจเลยจริงๆค่ะ

         ด้วยความที่สมองตื้อๆ ก็เลยแต่งแค่กาพย์ยานี 11 เป็นการระลึกถึงท่าน เพราะกาพย์แต่งง่ายกว่ากลอนค่ะ ทุกคนมีวิธีแสดงความอาลัยในแบบของตัวเอง เราก็ขอแสดงความอาลัยในแบบของเราเช่นกัน

         พอดีกว่า ก่อนที่ยัยคนเขียนจะร้องไห้ออกมาอีกรอบ มาพูดถึงหนังสือที่ยัยคนเขียนอ่านจบไปและจะเล่าให้อ่านวันนี้ดีกว่า

         วันนี้จะมาพูดถึง "Wanich 60" ซึ่งเป็นผลงานการเขียนของคุณ วาณิช จรุงกิจอนันต์ ค่ะ


         คนรุ่นนี้อาจไม่รู้จักนักเขียนที่ชื่อ "วาณิช จรุงกิจอนันต์"

         แต่ถ้าไปถามนักอ่านรุ่นเราหรือเก่ากว่านั้น อาจรู้จักเขาในหลายๆบทบาท บ้างก็ว่าเขาเคยอยู่สำนักพิมพ์มติชนมาก่อน บ้างรู้จักเขาในฐานะผู้เขียนเรื่อง "รัก..ออกแบบไม่ได้" หรือ "ซอยเดียวกัน"
      
         ถ้าถามเรา เรารู้จักคุณวาณิชครั้งแรกในฐานะ เจ้าของหนังสือที่ชื่อ "กระเทียมเจียว" แล้วเราก็ซื้อหนังสือของเขามาอ่านอีกสองเล่ม นั่นคือ "สวัสดีครับคุณผู้หญิง" และ "อกหักไม่ยักกะตาย"
      
         มีคนเห็นเราอ่านเล่มหลังแล้วถามว่า อกหักเหรอ
         "เปล่าค่ะ ชอบคนเขียนค่ะ" เราตอบยิ้มๆ


         วันเวลาผ่านไป คุณวาณิชถึงแก่ความตาย เราก็ระลึกถึงเขาในฐานะ นักเขียน ที่เขียนหนังสือซึ่งทำให้เราหัวเราะได้ คนหนึ่ง
         แล้วเราก็ซื้อหนังสือเล่มนี้มาอ่าน


         Wanich 60 เป็นหนังสือรวบรวมบทความเป็นตอนๆที่คุณวาณิชได้เขียนไว้ แล้วมีการรวมเล่มขึ้นมาเป็นหนังสือเล่มนี้เมื่อตอนที่คุณวาณิชมีอายุครบรอบหกสิบปี บทความแต่ละบทความเป็นเรื่องที่เธอเขียนเกี่ยวกับตัวเองในแง่มุมต่างๆ ช่วงเวลาต่างๆกัน แล้วก็มารวมไว้เป็นเล่มเดียว ด้วยสไตล์การเขียนที่...แทบไม่ต่างกับหนังสือสามเล่มบนที่เราเคยอ่านมา

         อ่านแล้วก็รู้สึกว่านี่เป็นประวัติย่อแบบมินิ ที่เธอเขียนเกี่ยวกับตัวเองและครอบครัว ดีมั่ง ไม่ดีมั่ง เรียบเรียงออกมาให้อ่านกัน ผสมปนเปไปกับความคิดเห็นต่อสิ่งต่างๆรอบตัว ตามแต่ที่เธอจะรังสรรค์ขึ้นมา เรียกได้ว่าอ่านจบสามารถสรุปย่อประวัติของเธอได้ ว่าเรียนจบอะไร เรียนต่อที่ไหน ทำอะไรมาบ้าง อะไรแบบนั้น


         มีอย่างหนึ่งที่สังเกตได้ตอนอ่านสำนวนการเขียนของคุณวาณิช นั่นคือ เธอคงเป็นคนเจ้าบทเจ้ากลอนพอตัว เพราะมีบางช่วงของบทความ ที่แม้จะเป็นร้อยแก้ว แต่เหมือนตั้งใจให้คำคล้องจองกัน เช่นว่า
         "..โล่งอกยกภูเขา หมดเรื่องหมดราวกันไปเสียที.."
         "..หุงข้าวซักผ้าตกปลาพายเรือ..."
         เป็นที่ถูกอกถูกใจคนอ่านผู้เป็นนักเลงกลอนเหมือนกันยิ่ง

         นอกจากถ้อยคำที่สัมผัสสอดคล้องกันแล้ว ที่สะกิดใจก็จะมีพวกถ้อยคำชวนคิดแฝงอยู่ในเล่ม อย่างเช่น
         "..มนุษย์เรานั้นเป็นมากกว่าอะไรแบบเหรียญนะครับ เหรียญมันมีอยู่สองด้าน แต่คนเรานั้นมีมากกว่าสองด้าน.."
         "..ไม่ต้องเกษียณก็เหงาได้.."
         อ่านๆไปก็ เออ จริงว่ะ


         ถ้าจะให้บรรยายสไตล์การเขียนของคุณวาณิชแบบคร่าวๆ เราว่าเธอเขียนหนังสือให้อารมณ์เหมือนว่า เธอมานั่งข้างๆ แล้วเล่าโน่นนั่นนี่ให้ผู้อ่านฟังไปเรื่อยๆโดยใช้ภาษาที่เข้าใจง่าย ไม่ซับซ้อน ใช้คำพูดที่เป็นกันเอง โดยเธอจะเรียกตัวเองว่า "ผม" ผมอย่างนั้น ผมอย่างนี้ แม้จะเป็นการพูด(เขียน)ที่เหมือนจะพูดอยู่ฝ่ายเดียวแบบไม่เปิดโอกาสให้ผู้ฟัง(อ่าน)โต้ตอบอะไรก็ตาม แต่เมื่อไล่สายตาตามตัวหนังสือไปเรื่อยๆ มันก็เพลินนะ เหมือนฟังทอล์กโชว์ เราก็จะเผลอพยักหน้าหงึกๆตามไป จำได้บ้าง ไม่ได้บ้าง แต่ถามว่ารู้เรื่องไหมในสิ่งที่เธอถ่ายทอดมา ก็รู้เรื่อง

         หนังสือเล่มนี้มีบทความทั้งสิ้น 30 บทความ บวกกับอีกหนึ่งบทความพิเศษที่ อ่านแล้วก็ยังไม่แน่ใจว่า มันพิเศษยังไง แต่ถามว่าอ่านรู้เรื่องไหม ก็รู้เรื่องนะ

         เหมือนเป็นหนังสือที่เปิดโอกาสให้ผู้อ่านเข้าไปเผือก เอ๊ย เข้าไปรับทราบความเป็นมาเป็นไปในบางช่วงตอนของชีวิตคุณวาณิช จรุงกิจอนันต์
         สาระอาจไม่มาก และก็ไม่ได้ตลกโปกฮาให้หัวร่องอหายอะไร

         คิดเสียว่า อ่านพอให้หายคิดถึง เจ้าของสไตล์การเขียนหนังสือชื่อ "กระเทียมเจียว" ที่ในปัจจุบันนี้ ไม่สามารถเขียนอะไรให้คนอ่านคนนี้อ่านได้อีกต่อไป

         ...ก็แล้วกัน...


         ถ้าใครสนใจบทความแนวๆนี้ หรือชอบงานของคุณวาณิช จรุงกิจอนันต์ อยู่แล้ว ก็ลองหาข้อมูลเพิ่มเติมดูนะคะ ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าหนังสือเล่มนี้ยังมีขายไหม และขายที่ใดบ้าง

         ...เพราะเราเองก็ยังจำไม่ได้เลยว่า ซื้อหนังสือเล่มนี้มาจากที่ใด แหะ แหะ


         ก่อนจบ เนื่องในวันหยุดยาวแบบนี้ เชื่อว่าคงมีหลายคนไปท่องเที่ยวตามที่ต่างๆ ทั้งในและนอกประเทศ ไม่มากก็น้อย จึงอยากอวยพรนักเดินทางทุกคนว่า ขอให้สนุกและปลอดภัยนะคะ เที่ยว ถ่ายรูปสวยๆ และทักทายตุ๊กตาตามที่ต่างๆแทนเราด้วย 
         มีโอกาสเราจะไปเที่ยวเหมือนกัน แต่ขอเคลียร์งานและรอให้ชาวบ้านเขารบกันให้เสร็จไปก่อน 
         ระหว่างนี้จะเตรียมตัว เตรียมกล้อง ไปพลางๆก่อน เดี๋ยวไปเที่ยวได้จะได้มีรูปเจริญหูเจริญตากลับมาเก็บในคอมฯเพิ่ม จริงๆฝีมือการเก็บภาพสวยๆเราไม่ห่วงตัวเองหรอก การถ่ายรูปเป็นหนึ่งในทักษะที่เรามั่นใจมากที่สุด(ไม่เชื่อก็ไปส่องภาพประกอบหัวข้อที่เราลงในเว็บนี้ได้ ผลงานเราเองง//ขี้อวด) อย่างไรก็ดี หนังหน้าตากล้องเป็นอีกเรื่องหนึ่ง หุหุ

         ขอให้ทุกๆคนมีความสุขในวันหยุดยาวนี้ อย่าลืมรักษาสุขภาพกายและสุขภาพใจของตนเองและคนรอบข้างด้วยนะคะ 


         สวัสดีค่ะ 

      
         ก่อนจบ ขออนุญาตประชาสัมพันธ์ เนื่องจากตั้งแต่ประมาณ 2 กุมภาพันธ์ 2566 เป็นต้นมา ทาง minimore เปลี่ยนรูปแบบเว็บใหม่ ผลที่เกิดขึ้นคือ งานเขียนเรา...ไม่มีคนอ่านเลย (คาดว่าหาเจอยาก)ตั้งแต่วันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2566 เป็นต้นไป เราจึงตัดสินใจกลับไปเขียนเรื่องราวในบล็อกเดิมของเราแทน คุณผู้อ่านที่ถูกจริตในงานเขียนของเรา สามารถติดตามไปอ่านได้ที่
         https://alwaysfay.blogspot.com/2023/02/blog-post.html
         ขอบพระคุณสำหรับการติดตาม และขอบคุณทาง minimore ที่ให้พื้นที่เราได้ขีดๆเขียนๆเรื่องราวตั้งแต่วันแรกจนถึงวันนี้
         จนกว่าจะพบกันใหม่
         สวัสดีค่ะ

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in