แล้วก็มีดอกเตอร์ทาล บอกว่า ไม่จริง เราเลือกได้ที่จะมีความสุข ทุกอย่างอยู่ที่เราเลือกทั้งนั้นแหละ แล้วเธอก็ยกวิธี 101 วิธี มาสาธยายให้ผู้อ่านฟัง เอ๊ย อ่าน ว่า ในสถานการณ์แบบเนี้ย คุณจะเลือกยังไง คุณน่าจะเลือก xxx มั้ย หรือคุณอยากเลือก yyy ล่ะ? ซึ่งในแต่ละสถานการณ์ ก็จะมีคำคมให้อ่าน มีบทความปกติ และมีบทความในกรอบสีเขียว(ฉบับที่เราอ่านเป็นกรอบสีเขียวนะ แต่ไม่รู้ตอนนี้เขาเปลี่ยนแล้วหรือยัง) ที่ดอกเตอร์แกเลือกเรื่องราวโน่นนี่นั่นมาเล่าไว้

     มีหลายประเด็นเชียวแหละ ครอบคลุมทุกสิ่งในชีวิตหรือเปล่าก็ไม่รู้ แต่ก็...เข้ากับในหลายๆแง่มุมของชีวิตอยู่ไม่น้อย เช่นเรื่องแรกน่ะ มีใครบ้างไม่เคยตำหนิตัวเอง(ยกเว้นพวกหลงตัวเอง) อย่างไรก็ดี การเอาแต่โทษตัวเองโดยไม่หาวิธีแก้ไข ไม่ใช่การแก้ปัญหาที่แท้จริง เพราะเราจะไม่สามารถพัฒนาและเติบโตได้ การเตือนตัวเองและชี้แนะตัวเอง(บางครั้งก็ต้องหาคนอื่นมาช่วยชี้แนะ) อาจเป็นทางเลือกที่ดีกว่า เพราะทำให้เราได้ปรับปรุงตัวเองให้ดีขึ้นได้ อะไรประมาณนี้

     แต่จริงๆบางอย่างก็ไม่สามารถทำได้ เช่นเรื่องอาชีพ บางทีเราก็ไม่สามารถทำในงานที่เราใฝ่ฝันได้ เพราะงานเหล่านั้นไม่มั่นคงและไม่สามารถทำเงินได้ดีเท่างานที่เราทำอยู่ในตอนนี้ และเมื่อเป็นแบบนั้น คงต้องเลือกอีกทาง คือ ยอมรับ และหาความสุขไปกับงานที่ทำให้ได้

     เป็นหนังสือที่อ่านไปได้เรื่อยๆ พอไปอ่านประวัติของคนเขียน อ่อ เธอเป็นอาจารย์(เป็นดอกเตอร์เชียวนะ) อยู่ที่มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด สอน "วิชาความสุข" อ่านแล้วก็ โอ้โห มีวิชานี้สอนกันด้วยเหรอ

     บางทีเราก็คิดว่าความสุขนั้นเป็นสิ่งที่จับต้องได้อยู่แล้ว ไม่ต้องร่ำเรียนอะไรหรอก แต่พอคิดอีกมุมหนึ่ง การที่คนมากมายไม่สามารถค้นพบความสุขได้ แสดงว่า... บางที เราอาจต้องร่ำเรียนและฝึกฝนตัวเองเสียก่อน เราจึงจะมีความสุขได้

     แม้จะไม่ได้เห็นด้วยไปทั้งหมดกับทุกทางเลือกในหนังสือ แต่ยอมรับว่า หนังสือเล่มนี้เป็นหนังสือที่สร้างกำลังใจได้ดี เล่มหนึ่ง เพราะทำให้คนอ่านได้เห็นมุมมองที่ต่างออกไปของโลกใบนี้ เหมาะที่จะอ่านเวลาอยู่ในอารมณ์อยากเดินในทุ่งลาเวนเดอร์ หรือไม่ก็อยู่ในอารมณ์ที่เหนื่อยๆ อยากได้กำลังใจเชิงบวก ลองเปิดหนังสือเล่มนี้ดู คุณอาจได้พลังใจในการดำรงชีวิตเพิ่มขึ้นก็เป็นได้