อ่านแล้วเล่า : คิดแบบคนธรรมดาไปทำไม คิดแบบคนที่สำเร็จง่ายกว่า - อ่านแล้วเล่า

ผู้เขียน : กองบรรณาธิการนิตยสาร the secret
สำนักพิมพ์ : อมรินทร์ ฮาว-ทู
จำนวนหน้า : 305 หน้า
ราคา : 225 บาท

เป็นคนที่ไม่อินกับการติดตามอ่านชีวประวัติคนโน้นคนนี้ เพราะคิดว่า ความสำเร็จมันเป็นเรื่องส่วนบุคคล คือคิดเอาเองว่า การที่คนๆหนึ่งประสบความสำเร็จขึ้นจนมาเขียนหนังสือขายได้เนี่ย ใช่ ส่วนหนึ่งเพราะเขามีวิธีจัดการชีวิตและจัดการการเงินที่ดี แต่...มันอาจมีปัจจัยอื่นๆ ที่ทำให้คนๆหนึ่งสำเร็จได้ เช่น จังหวะชีวิต โชคชะตา หรือบุคคลรอบข้าง เป็นต้น มันไม่ใช่ว่าคนร้อยคนขยันเท่ากันแล้วจะรวยได้เท่ากันน่ะ บางคนทำงานตัวเป็นเกลียวสิบปียี่สิบปีผ่านไปก็ยังย่ำต๊อกอยู่ที่เดิมก็มีถมถืด

แล้ววันหนึ่งข้าพเจ้าก็กระทำการฉีกกฎตัวเองทิ้งด้วยการซื้อหนังสือ "คิดแบบคนธรรมดาไปทำไม คิดแบบคนที่สำเร็จง่ายกว่า" มาอ่าน ไม่รู้เหมือนกันว่านอกจากเหตุผลว่า มันลดราคา ซื้อห้าเล่มขึ้นไปลด 70% (ร้านนายอินทร์ again ค่าโฆษณาก็ไม่ได้..อีกแล้ว) แล้วนั้น...จะซื้อมาทำไม?
เอาล่ะ ไหนๆก็ซื้อมาแล้ว ลองอ่านเสียหน่อย

โอเค ไม่แย่ เป็นชีวประวัติฉบับย่อของคนห้าสิบคน (บางคนก็รู้จัก บางคนก็ไม่รู้จัก) ว่าทำไมคนเหล่านั้น จึงก้าวมาอยู่ ณ จุดที่สามารถเป็นแบบอย่างให้คนทั่วไปได้


อันที่จริง ตัวเล่มไม่ได้เล่าแบบเป็นพืดไล่ตั้งแต่ชื่อ ก.ไก่ ถึง ฮ.นกฮูก หรอกนะคะ แต่จะแบ่งเป็นห้าหมวด คือ คมความคิดของนักสู้(1) นักคิดนอกกรอบ(2) ผู้สร้างแรงบันดาลใจ(3) ผู้สร้างความเปลี่ยนแปลง(4) และ ผู้ให้(5) แต่ละหมวดก็จะมีคนดังๆอยู่ด้วย เดากันได้ไหม ว่าคนดังคนไหนอยู่หมวดไหน

เดี๋ยวยกตัวอย่างให้ละกัน
- นักสู้คนดัง เช่น สตีเฟน ฮอว์กิน (สู้กับโรคร้ายและสามารถสร้างทฤษฎีต่างๆได้ ก็น่าชื่นชมจริง)
- นักคิดนอกกรอบคนดัง เช่น สตีฟ จ๊อบส์ (ไม่ต้องอธิบายมากเนาะคนนี้)
- ผู้สร้างแรงบันดาลใจคนดัง เช่น องค์ทาไลลามะ (จำได้ลางๆว่าท่านเคยกล่าวถ้อยคำชวนคิดไว้หลายประโยค นี่อ่านแล้วทึ่งมากกับประวัติของท่าน)
- ผู้สร้างความเปลี่ยนแปลงคนดัง เช่น เนลสัน แมนเดลลา (ผู้เรียกร้องสิทธิให้คนผิวดำในประเทศแอฟริกาใต้) และ
- ผู้ให้คนดัง เช่น เฉิน หลง (คืองงตอนแรก เนื่องจากจะรู้จักเขาแค่ในฐานะนักแสดง พอมาอ่านประวัติก็แบบ โอ้ ไม่เคยรู้เรื่องมุมนี้เลย)

นอกจากนี้ก็มีอีกหลายๆท่านที่ เรารู้จักผลงานของเขา แต่ไม่รู้จักตัว เช่น ประวัติคนสร้างเปียโน(รายละเอียดอยู่ในหนังสือค่ะ อิอิ) ที่อ่านแล้วแบบ เฮ้ย จริงเหรอ ไม่เคยรู้เลย (ก็เราไม่ใช่นักดนตรีอะ//อ้างข้างๆคูๆ) หรือท่านโคเอนก้า ผู้เป็นที่มาของสำนักโคเอ็นก้า อ่านแล้วแบบ อ้าว มีที่มาจากตัวบุคคลเหรอ

ขอบคุณหนังสือเล่มนี้ที่ทำให้ข้าพเจ้าทราบว่า ตัวเองยังมีความรู้น้อยนิด เมื่อเทียบกับความรู้ในโลกใบนี้

อีกจุดที่ชอบในหนังสือคือ คำคม หนังสือจะจัดคำคมมาให้ 1 คำคม ต่อบุคคล 1 คน ซึ่งคำคมพวกนี้ก็ใช่อื่นไกล แต่เป็นคำที่บุคคลสำคัญในแต่ละบทเป็นผู้กล่าวไว้ด้วยตนเอง และมีบางคำคมที่เราๆท่านๆคุ้นกันด้วยนะคะ เช่น

"จงฝันราวกับว่าคุณจะมีชีวิตนิรันดร์ แต่จงใช้ชีวิตให้เหมือนกับว่า วันนี้เป็นวันสุดท้ายของคุณ"

คุ้นไหม เราคุ้นนะ คุ้นว่าเคยเจออะไรคล้ายๆแบบนี้ ที่ไหนสักแห่งในโลกออนไลน์นี่แหละ

แม้จะไม่ใช่ทุกคนที่ทำสิ่งเดียวกันแล้วประสบความสำเร็จ แต่การมีอยู่ของผู้ประสบความสำเร็จเหล่านี้ ก็เป็นสิ่งยืนยันได้ว่า ความสำเร็จเป็นสิ่งที่จับต้องได้ และเกิดขึ้นได้จริงจากสองมือของเรา ไม่ว่าอีกเหตุผลอีกครึ่งหนึ่งของคนที่สำเร็จคืออะไร แต่ครึ่งหนึ่งที่ต้องมีแน่ๆ คือจิตใจและการลงมือกระทำของเจ้าตัวเอง
และหนังสือเล่มนี้ก็เป็นหลักฐาน และเป็นแรงบันดาลใจได้ดีมากเล่มหนึ่ง

ถึงแม้จะซื้อหนังสือเล่มนี้มาแบบผิดแผนไปสักหน่อย แต่ความรู้ที่ได้ก็ไม่เลวนัก บางที คนเราก็ต้องเดินออกนอกกรอบเดิมๆบ้าง เพื่อเสริมสร้างประสบการณ์ใหม่ๆให้ชีวิต

ถ้าใครชอบศึกษาประวัติคนสำคัญอยู่แล้ว หรืออยากได้คำคมความคิด/แรงบันดาลใจ ในการสร้างสรรค์สิ่งต่างๆ

ลองอ่านหนังสือเล่มนี้ดูไหมคะ

ก่อนจบ ขออนุญาตประชาสัมพันธ์ เนื่องจากตั้งแต่ประมาณ 2 กุมภาพันธ์ 2566 เป็นต้นมา ทาง minimore เปลี่ยนรูปแบบเว็บใหม่ ผลที่เกิดขึ้นคือ งานเขียนเรา...ไม่มีคนอ่านเลย (คาดว่าหาเจอยาก)ตั้งแต่วันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2566 เป็นต้นไป เราจึงตัดสินใจกลับไปเขียนเรื่องราวในบล็อกเดิมของเราแทน คุณผู้อ่านที่ถูกจริตในงานเขียนของเรา สามารถติดตามไปอ่านได้ที่

   https://alwaysfay.blogspot.com/2023/02/blog-post.html
ขอบพระคุณสำหรับการติดตาม และขอบคุณทาง minimore ที่ให้พื้นที่เราได้ขีดๆเขียนๆเรื่องราวตั้งแต่วันแรกจนถึงวันนี้
จนกว่าจะพบกันใหม่
สวัสดีค่ะ

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น