23 กรกฏาคม
วันนี้พวกเรามีภารกิจช่วงบ่าย ในการไปหาท่านฑูตไทยประจำUNที่เจนีวาค่ะ ตอนเช้าหลังจากเข้าเรียนตามปกติ ตอนบ่ายมานั่งทำงานต่อเล็กน้อยเพื่อหารือกับSupervisorเกี่ยวกับการเขียนReportส่งปิดท้าย แล้วจึงขอออกเร็วหน่อยเพื่อให้ไปพบท่านฑูตทันภายในเวลาราชการ
เมื่อไปถึงก็ได้มีการแนะนำตัวและพูดอธิบายเกี่ยวกับโครงงานที่มาทำที่นี่พอสังเขป แต่ละคนก็อธิบายในแบบของตัวเอง มิ่งก็พยายามอธิบายในภาษาที่ให้คนทั่วไปสามารถเข้าใจได้มากที่สุด
เราได้ลงชื่อถวายพระพรในหลวงรัชกาลที่10 ถ่ายรูปรวม แล้วค่อยกลับไปหาอะไรกินเป็นมื้อเย็นในเจนีวากันค่ะ
แต่วันศุกร์นี้ผาก็จะไม่อยู่กับเราแล้ว (หมดcontractแล้ว ไปเที่ยวได้) อาจารย์พัดเลยถือโอกาสเลี้ยงส่งด้วยอาหารญี่ปุ่นชุดใหญ่จัดหนักจัดเต็มค่ะ
ก็อิ่มอร่อยกันไปตามระเบียบ พอให้หายคิดถึงอาหารญี่ปุ่นที่ไทยได้บ้าง แต่ก็ได้ตระหนักว่าอาหารญี่ปุ่นที่ไทยนี่ช่างถูกยิ่งนัก ในคุณภาพที่ดีกว่าด้วย
เมื่ออิ่มท้องก็ขอไปเดินย่อยที่บริเวณทะเลสาบเจนีวา เราเดินไปตรงสันกั้นน้ำที่ยื่นลงไปในทะเลสาบ แม้จะเป็นวันอังคารตอนเย็น กลางสัปดาห์ แต่ก็ยังเห็นคนมากมายมาว่ายน้ำเล่นกันเต็มไปหมดราวกับว่าพรุ่งนี้เป็นวันหยุดซะอย่างนั้น
แต่วันนี้ร้อนจริงค่ะ สัปดาห์ที่แล้วก็นึกดีใจคิดว่าอากาศจะเย็นลงแล้ว แต่ดูเหมือนจะยังเหลือHeat waveอีกระลอกที่จะถาโถมเข้ามาในสัปดาห์นี้ มิ่งนี่แทบจะร้องไห้ เศร้ายิ่งกว่าการจากไปของผาเสียอีก(ถถถ)
ด้วยความที่ว่ามันร้อนมาก ผาก็เลยบอกว่า
“ไม่ไหวละ ไปหาชานมไข่มุกกินกันเถอะ”
แล้วปฏิบัติการณ์ตามล่าร้านชานมไข่มุกก็เริ่มต้นขึ้น
ร้านที่ผาเลือกจะไปนี้ ปิดตอน5ทุ่มค่ะ แต่ช่างหาหน้าร้านยากเสียเหลือเกิน เพราะว่าพิกัดร้านดันไม่ตรงกับที่ระบุไว้ในGoogle map มันคือร้านที่่อยู่ติดกับร้านอาหารจีนที่เราเคยมากินกันเมื่อคราวที่แล้วค่ะ ถ้ายังจำได้กันอยู่ คือแทบจะเป็นร้านเดียวกันเลย
ก็เลยสั่งกันมากินค่ะ ค่อยเย็นสดชื่นขึ้นมาหน่อย
ในตอนกลางคืนนั้น มิ่งไม่เคยตระหนักถึงความสำคัญของพัดลมจิ๋วมากขนาดนี้มาก่อน
เพราะว่าแม้แต่ตอนพระอาทิตย์ตกดินแล้ว อากาศก็ยังคงร้อนอบอ้าวอยู่ดี มิ่งก็ตากพัดลมนอนสิคะ จะรออะไร หลับสนิทตลอดคืน
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in