วิโดว์เมคเกอร์ไม่เคยมีข้อสงสัยเมื่อมาถึงเรื่องของอุปกรณ์จากทาลอน เธอใช้มันมาหลายครั้ง ถูกทดลองมากับตัวก็บ่อย เธอเองก็อาจจะถูกนับเป็นหนึ่งในอุปกรณ์เหล่านั้นด้วยก็ได้ จึงไม่เคยมีกังขาว่ามันจะไม่ดีเท่าราคาคุยจากฝ่ายวิจัย วิโดว์คิสคืออาวุธที่ถูกออกแบบและสร้างเพื่อฆ่า มีประสิทธิภาพทั้งระยะใกล้และไกล อุปกรณ์ต่าง ๆ ก็มีไว้เพื่อสนับสนุนจุดประสงค์นั้น ฮุคตะขอกับสลิง กล้องอินฟาเรดกำลังขยายสูง รวมไปถึงของเล่นโปรดของเธอ, เวน่อมไมน์– ระเบิดยาพิษ
ภาพของทหารหลายต่อหลายนายที่พุ่งเข้ามาโดยไม่ทันระวัง, กลุ่มควันสีม่วงที่ห้อมล้อมพวกเขาไว้เมื่อเข้าใกล้พอ, เสียงหอบหายใจและไอ, ตามด้วยเสียงล้มลง เป็นภาพที่แสนเพลินตา เหมือนแมลงโง่ ๆ ที่บินเข้ามาติดใยแมงมุม
ไม่ต่างอะไรกับ– อะไรนะ? อ้อ เทรเซอร์– ลีน่า อ็อกซ์ตันคนนี้ หญิงสาวที่มีเซ้นส์พอจะรู้ตัวว่าเกิดอะไรขึ้น กล้าพอจะบุกขึ้นมาหาเธอตัวต่อตัว นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่พวกเราได้พบกัน แต่ครั้งนี้, หล่อนไม่มีเจ้าลิงน่ารำคาญนั่นคอยช่วยเหลืออีกแล้ว เช่นเดียวกับเธอ แต่ก็ไม่เกินมือนัก แค่หลอกล่อซักนิด หล่อนก็ตกอยู่ในสภาพไม่ต่างกับคนอื่น ๆ (นี่คือเหตุผลที่วิโดว์เมคเกอร์ไม่นับว่าหล่อนฉลาด) ถูกพิษจากเวน่อมไมน์เล่นงานจนลงไปนอนคุดคู้อยู่ที่พื้น ไอจนตัวโยน
“ช่างเป็นสาวน้อยที่โง่เขลา..” เธอเอ่ยเย้า มือลากปลายกระบอกปืนชี้ไปที่ขมับของร่างที่ขดอยู่ใต้เท้า ทำให้ดวงตาสีน้ำตาลกลมนั้นตวัดวูบมาด้วยความตกใจ
นั่นทำให้เธอชะงัก
และนั่นคือข้อผิดพลาด เธอไม่ควรจะชะงัก วิโดว์เมคเกอร์ไม่แน่ใจนักว่าเกิดอะไรขึ้น ทุกสัญชาติญาณตะโกนให้เธอลั่นไกซะ โอกาสทองที่กำจัดทั้งเป้าหมายและศัตรูของทาลอนไปพร้อม ๆ กันในภารกิจเดียว แต่ไม่ เธอเปิดโอกาศให้เทรเซอร์ได้ย้อนเวลาหนีไป เปิดช่องโหว่ให้อีกฝ่ายมีจังหวะลงมือ ยังดีที่เธอเรียกสติกลับมาทันเห็นระเบิดที่ถูกขว้างเข้ามา
และมันก็เกิดขึ้นอีกครั้ง หลังจากที่เธอดึงตัวเองขึ้นไปกลางอากาศ ในวินาทีที่ปลายกระบอกเล็งตรงไปที่ร่างของหญิงสาวในชุดแปลกประหลาด ดวงตาของเทรเซอร์ปิดสนิท ทะลุไปข้างหลังนั่น– เป้าหมายของเธอ มอนดัตต้า โอกาสกำลังตะโกนบอกเธอให้ลั่นไก ให้ขยับปลายนิ้ว–
แต่เธอไม่ขยับ ไม่แม้แต่ปลายนิ้ว
และมันก็เกิดขึ้น เทรเซอร์ได้สติ ดวงตาจ้องเป๋งมาทางเธอ, ม่านตาขยายในจังหวะที่เธอยิงออกไป เทรเซอร์รีคอลหนี ไม่รู้ตัวว่าเพิ่งมอบความตายให้มอนดัตต้าโดยตรง
หลังจากที่เท้าแตะพื้นไม่นาน เธอถูกเทรเซอร์กระโจนเข้าใส่ วิโดว์เมคเกอร์ไม่ได้ตอบโต้ ไม่ได้ให้คำตอบอะไรกับอีกฝ่าย เธอเพียงแค่จ้องมอง ถูกอะไรบางอย่างในดวงตาของเทรเซอร์สะกดเธอไว้ นั่นอะไร? เธอนึกสงสัย ทำไมถึงทำหน้าแบบนั้น? เป็นอีกอารมณ์ที่เธอจะไม่มีวันเข้าใจรึเปล่า? แต่เธอก็สลัดมันทิ้งไปพร้อม ๆ กับร่างของเทรเซอร์เมื่อยานของทาลอนมาถึง
หลังจากที่ประตูของยานปิด และระบบอัตโนมัติได้รับเป้าหมายปลายทาง ตอนนั้นเองที่มันเริ่มแสดงอาการ วิโดว์เมคเกอร์ทรุดลงกับพื้น สองมือยกขึ้นกุมหัวตัวเอง ความเจ็บเสียดแทงขึ้นมาจนเธอร้องตะโกนลั่น ขมับเต้นตุบจนเหมือนหัวกำลังจะระเบิดออกเป็นเสี่ยง ๆ แยกออกเพื่อให้บางอย่างออกมา เห็นสีขาววูบวาบอยู่หลังเปลือกตา เธอกัดฟัน รู้สึกถึงเหงื่อที่ไหลโชก มือข้างหนึ่งทุบลงกับพื้นรัวเร็ว แต่ความเจ็บปวดนั้นไม่ได้จางหายไปแม้แต่นิดเดียว
สิ่งสุดท้ายที่วิโดว์เมคเกอร์จำได้ก่อนเธอจะหมดสติ คือเสียงหัวเราะที่คุ้นเคย
‘คุณชมฉันเกินไปแล้วอะเมลี!’
‘จริงเหรอ? คุณ– กำลังจะได้เป็นสมาชิกของโอเวอร์วอชที่อายุน้อยที่สุด! แต่คุณกลับบอกว่าฉันชมคุณมากไป? หืม?’
‘แค่อาสาสมัครทดลอง–’
‘–ให้กับโอเวอร์วอชอยู่ดี’ ครั้งนี้เป็นเสียงหัวเราะที่.. คล้ายกับเธอ ‘อย่าเถียงฉันเลย ลีน่า’
‘ได้ค่ะ ท่าน’
‘อย่ามาท่านกับฉันน่า’
พวกเขาบอกว่ามันเป็นผลกระทบจากการเจอคนที่เคยรู้จัก
และเสนอให้เธอเข้ารับการล้างความทรงจำอีกรอบ, ถ้าหากมันกระทบถึงสภาพจิตใจและอาจมีผลกับภารกิจ
เธอปฏิเสธ
ความทรงจำจะทำให้เธอหาจุดอ่อนของโอเวอร์วอชได้ง่ายขึ้น ไม่ได้ระบุถึงความเจ็บปวดที่เธอได้เจอ
และพวกมันเชื่อ
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in