2 วันนี้มีเรื่องเกิดขึ้นกับเราแบบงง ๆ หลายเรื่อง ซึ่งจะมาเล่ารายละเอียดให้ฟังดังนี้

1.เมื่อวานเรามาค้างบ้านเพื่อน กำหนดกลับคือศุกร์หน้า แล้วก็พาเปอร์ (นังแมวในตอนที่แล้ว) มาด้วย

2.บ้านเพื่อนเลี้ยงหมา 3 ตัว (พันธุ์เล็กทั้งหมด) เพื่อนก็จับหมาทุกตัวใส่กรง เราก็เอาตะกร้าที่ใส่เปอร์มาวางใกล้ๆ กะให้หมาดมสร้างความคุ้นเคย

3.ปรากฏว่าหมาเพื่อนตื่นเต้นมากเจอของแปลกใหม่ ทั้งกระโดด ทั้งเห่า เปอร์คงกลัวเลยมุดเข้าไปชิดตะกร้าและขู่ทำตัวพอง (ซึ่งตอนนั้นเราไม่เห็น)

4. เราคิดจะอุ้มเปอร์ออกมาเลยยื่นมือเข้าไปในตะกร้า แต่ปรากฏว่าโดนเปอร์งับแรงมากๆ แบบเลือดพุ่ง

5.หลังจากนั้นเลยแยกเปอร์กับหมา เปอร์ก็ไปซ่อนหลบในมุม เราก็เอาของไปบัง ๆ ไว้ไม่ให้หมาไปกวน เทข้าว เทน้ำ วางกระบะทรายไว้ให้ปกติ

6.ตกกลางคืนก็เอาเปอร์ไปไว้ห้องทำงานแฟนเพื่อนเพื่อแยกให้อยู่ตัวเดียว จะได้ใจเย็นลงและคลายเครียด ซึ่งก็ได้ผลพอแอบไปดูก็เห็นว่าข้าวแหว่งไป และมีร่องรอยการใช้กระบะทราย ก็โอเคสบายใจทิ้งเปอร์ไว้งั้น กะให้มันอยู่ตัวเดียว

7.ประมาณตี 3 กว่า ๆ เราลุกมาเข้าห้องน้ำและปรับแอร์เพราะหนาว เพื่อนเลยพลอยตื่นไปด้วย แล้วเพื่อนก็ออกไปเข้าห้องน้ำซักพักเพื่อนเปิดประตูห้องนอนเข้ามาบอกว่าเปอร์หาย

8.ปรากฏว่าเพื่อนกลัวเปอร์ไม่มีอากาศหายใจเลยแง้มหน้าต่างไว้ให้นิดนึงก่อนเข้านอน (เพื่อนลืมว่าแมวมันปีนลอดออกไปได้) ซึ่งมันเป็นเหล็กดัด เปอร์คงมุดออกไป

9.เพื่อนรีบปีนออกไปเดินดูบนหลังคาแต่ก็ไม่เจอ ตอนนั้นอากาศเย็นมาก คิดว่าเปอร์อาจมุดหลบอยู่ที่ไหนซักแห่งก็วิ่งหากันในซอยบ้าน แต่ก็ไม่เจอ เลยมาทำประกาศตามหาและเริ่มแชร์ต่อเท่าที่จะทำได้

10.ตอนนั้นก็ประมาณตี 5 แล้ว นอนต่อไม่หลับ ตาสว่างทั้งคู่ เลยนั่งคุยกัน คิดว่ารอคนในหมู่บ้านตื่นกันก่อนอาจมีคนโทรมา ส่วนมือที่โดนเปอร์กัดก็ปวดตั้งแต่เมื่อวาน คงเพราะพิมพ์รายงานทั้งวันด้วย

11.เวลาประมาณ 6 โมงกว่า จากคำแนะนำของหลายคน เราจึงคิดว่าควรไปฉีดวัคซีนกันพิษสุนัขบ้า

12.เราขึ้นไปแปรงฟัน แล้วตอนจะลงบันไดด้วยความที่นอนน้อยหรือเบลออะไรไม่รู้ เราก้าวพลาดตกบันไดมา 2 ขั้น เพื่อนกำลังอ้าปากถามว่าเป็นไรมั้ย พูดยังไม่ทันจบ เราก้าวพลาดอีกเท่ากับตกมาอีก 2 ขั้นติด ๆ ตอนนั้นรู้สึกเจ็บข้อเท้าขวาแต่ไม่มาก ก็ขำ ๆ งง ๆ แล้วก็ขึ้นรถไปรพ.กัน

13.พอไปถึงรพ. ก็ซักประวัติพยบ.ก็ให้ไปห้องฉุกเฉิน นี่ก็งงว่าขนาดนั้นเลยเหรอ แต่ก็ไป ก็โดนให้ขึ้นนอนบนเตียงมีหมอมาดูแผลถามรายละเอียด กรอกประวัตินั่นนี่ ใช้เวลานอนรอพักใหญ่ ๆ พยาบาลก็ถือเข็มฉีดยาบรรจุน้ำใส ๆ เข็มใหญ่มากมาเข็มนึง

14.พยบ.เอามือเราที่โดนกัดไปดูแผลแล้วบอกว่าฉีดไม่ได้ เพราะตำแหน่งมันยากอะไรซักอย่าง ต้องให้หมอมาฉีดให้แทน

15.หมอก็มาฉีดให้อธิบายว่ามันคือเซรุ่มหรืออะไรนี่แหละ (จำไม่ได้จริงๆ ถ้าข้อมูลผิดขออภัย) ซึ่งต้องฉีดบริเวณที่เป็นแผล แล้วหมอก็บอกว่าเจ็บนะ ถ้ากลัวก็อย่ามอง

16.เราก็หันหน้าหนีเลย หมอก็เริ่มฉีดทีละจุดที่โดนกัด ขอบอกว่าเจ็บแบบมือสั่นไม่เคยฉีดยาแล้วเจ็บเท่านี้มาก่อน ปรากฏพอฉีดครบ 5 จุดยายังเหลืออีกเยอะพอสมควร หมอเลยฉีดซ้ำที่มืออีก 3 จุด คือเราก็แบบหม๊อออออ ทำไมไม่ฉีดให้หมดตั้งแต่แรก หมอก็บอกว่ามันต้องค่อย ๆ ฉีด จนแบบเราไม่ไหวแล้วเจ็บมาก เลือดออกเต็มไปหมด ที่เหลือเลยให้ไปฉีดที่แขนแทน

17.จากนั้นพยาบาลก็มาฉีดพิษสุนัขบ้าให้ที่ต้นแขนขวาและบาดทะยักที่ต้นแขนซ้าย ซึ่งเมื่อผ่านไอ้เข็มแรกมาแล้ว 2 เข็มนี้อนุบาลไปเลย

18.ฉีดเสร็จก็เดินออกมาจากห้องฉุกเฉิน เพื่อนก็พากลับ (ทั้งขับรถให้ ไปเบิกยาให้ เพื่อนประเสริฐแท้) ก็ได้ยามากิน และพยาบาลบอกแขนจะปวดแบบรำคาญๆ ไปอีกซักพัก

19.ตอนข้ามถนนจะไปลานจอดรถ เราก็คิดว่าจะแวะซื้อลอตเตอรี่หน่อย เพราะคิดเอาเองว่าเจอเรื่องร้าย ๆ มาเยอะ อาจมีโชคเข้ามาบ้าง ปรากฏจู่ ๆ เราสะดุดอะไรไม่รู้ ล้มแบบไปนั่งกองที่พื้น ข้อเท้าขวาพลิก ซ้ำจุดเดิมกับที่ตกบันไดเป๊ะแต่คราวนี้เจ็บมาก แบบต้องตั้งสติแปปนึงถึงลุกขึ้นมาได้

20.สุดท้ายก็กะเผลกไปซื้อลอตเตอรี่ ซื้อข้าวเช้า แวะซื้อสเปรย์พ่นแก้ปวด และเพื่อนก็พากลับบ้านอย่างปลอดภัย แต่ตอนล้มคืออายมาก เพราะมือก็ถือทั้งกระเป๋า ซองยา โทรศัพท์ แล้วทั้งรปภ. ทั้งคนที่เดินผ่านมาก็พยายามจะเข้ามาช่วยเพราะเห็นที่มือมีผ้าพันแผล เพื่อนก็ตกใจมากว่าแบบล้มอีกแล้ว แต่ตอนนั้นนี่ขำนะไม่ได้หกล้มมาหลายปีมากแล้ว

21. แต่เรื่องทั้งหมดยังไม่จบแค่นี้ เรื่องต่อมาคือเราสะดุดทางลาดหน้าบ้านเพื่อน ข้อเท้าซ้ายพลิก ซึ่งมันบวมแบบหน้ากลัวมาก ก็ได้นั่งรถร่วมกตัญญูไปหาหมอ เพราะเพื่อนเอาคอมไปซ่อม แล้วเราขับรถไม่ไหว

22. หมอก็ x-ray ดูแล้วว่ากระดูกไม่หัก ก็ให้ยา พันเท้า แล้วให้กลับบ้าน

23. แต่จนเรากลับมาบ้านตัวเองแล้วเท้าก็ยังบวม แถมไม่หายเจ็บ พอกลับบ้าน เลยไปหาหมอโรงพยาบาลเอกชนอีกที่นึง แล้วหมอเค้าดูฟิล์มแล้วคิดว่าเส้นเอ็นน่าจะขาดเลยส่งไปทำ MRI สรุปคือหมอเก่งมาก เราเส้นเอ็นขาดจริง ๆ ก็เลยได้ยามากิน พร้อมท่าบริหารข้อเท้า นับถึงเวลาปัจจุบันก็เป็นปีแล้วถึงแม้จะแอบอู้บ้าง แต่ข้อเท้าเราก็ดีขึ้นมากแล้ว

24. แต่สิ่งที่น่ากลัวอีกอย่างคือสำหรับคนที่เคยล้มมาแล้วครั้งนึง โอกาสที่จะข้อเท้าพลิกอีกมันมีมาก แล้วมันก็มีพลิกอีกจริงๆ 5555
 
และเรื่องวุ่นวายทั้งหมดทั้งมวลก็จบลงด้วยประการฉะนี้
 
*ขออัพเดตเพิ่มเติม สรุปในคืนนั้นนังเปอร์ก็มุดหน้าต่างกลับเข้ามาทางเดิม5555 ทำเค้าวุ่นวายกันไปหมด ไอ้เด็กแสบ ส่วนเพื่อนเรารีบปิดล็อคหน้าต่างเลย 

- จบ -