เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
Novelber 2017fdfeefa
Day 7 – Motion (กริยาท่าทาง // การกระทำ) : 07/11/2017
  • Day 7 – Motion (กริยาท่าทาง// การกระทำ) : 07/11/2017

                  

    “สวัสดียามเช้าครับคุณทอม”

                  

    “คุณมาเจอผมได้จริงๆ ด้วย แม้เราจะไม่ได้นัดกัน”

                  

    “แน่นอนสิครับ ผมก็ต้องมั่นใจว่าผมจะได้ค่าหนังสือพิมพ์คืนผมถึงกล้าที่จะพูดกับคุณไปแบบนั้น”

                  

    “สงสัยว่าคุณคงจะได้ค่าหนังสือพิมพ์บวกกับค่ากาแฟจริงๆนั้นแหละครับ ผมยอมแพ้ครับ”

                  

    เขายื่นหนังสือพิมพ์ฉบับเมื่อวานคืนให้กับคุณจอห์นคุณจอห์นรับมันคืนไปจากมือของเขาด้วยสีหน้าของความไม่เข้าใจเป็นอย่างแรกแล้วทันทีที่คุณจอห์นเปิดไปหน้าของเกมส์นั้นสีหน้าของความแปลกใจก็ปรากฎตามขึ้นมา

                  

    “คุณแกล้งยอมแพ้รึเปล่าครับ?ทำไมมันถึงได้ว่างขนาดนี้?”

     

    “...”

     

    “เอ๋ หรือว่าคุณไม่ว่าง? ถ้าเป็นแบบนั้นผมถือว่าผลการแข่งยังไม่เป็นทางการนะครับมันคงไม่ยุติธรรมถ้าผมจะว่างเล่นอยู่คนเดียว”

                  

    “ไม่ใช่แบบนั้นหรอกครับผมลองเล่นดูแล้วแต่ผมทำไม่ได้ดูสิครับตรงมุมกระดาษยังมีรอยปากาหลงเหลืออยู่เลย”

                  

    “งั้นผมไม่เกรงใจแล้วนะครับ เพราะงานนี้ผมชนะคุณขาดลอย”

                  

    คุณจอห์นยื่นหน้าจอมือถือที่โชว์ถึงการเติมคำในช่องว่างมาจนครบแทบทุกช่องเมื่อเขาเห็นถึงความเอาจริงเอาจังในการแข่งขันแล้วเขาก็ไม่สามารถกลั้นเสียงหัวเราะของเขาเอาไว้ได้

                  

    “ผมเปิดรูปอะไรผิดรึเปล่า?”

                  

    “ไม่หรอกครับคุณก็เปิดรูปตารางเติมคำนั่นให้ผมดูแหละครับ”

                  

    “แล้วไป โล่งใจผมนึกว่ามือจะพลาดแล้วไปเปิดอะไรที่ไม่สมควรให้คุณดูเสียอีกเห็นคุณขำแบบนี้ใจหายหมดงั้นคุณขำอะไรน่ะครับ?”

                  

    “ผมขำความคิดตัวเองนิดหน่อยน่ะครับคุณไม่ได้ทำอะไรตลกหรอก”

     

    “แต่มันก็ต้องเกี่ยวกับผม?”

     

    “ผมว่าเราไปสั่งกาแฟกันดีกว่าสายกว่านี้เดี๋ยวจะคิวยาว”

     

     

    “ฮ่าๆๆๆๆๆ”

     

    “มีอะไรรึเปล่าครับคุณจอห์น?”

     

    ขณะที่เขาสองคนกำลังต่อแถวเพื่อสั่งกาแฟจากร้านเจ้าประจำอยู่ๆ คุณจอห์นที่ยืนอยู่ข้างกันกับเขาก็หัวเราะขึ้นมาเสียงดังเขาสะดุ้งตกใจจนกระเป๋าสตางค์ที่อยู่ในมือของเขาเกือบหล่นลงที่พื้น

     

    “คุณอยากรู้เหรอครับว่าผมหัวเราะอะไร?”

     

    “ก็...ครับ เมื่อกี้ผมก้มลงหยิบเงินในกระเป๋าสตางค์ผมพลาดอะไรไปรึเปล่าครับ?”

     

    “ถ้าคุณอยากรู้ คุณก็บอกเรื่องที่คุณหัวเราะออกมาก่อนสิครับเอามาแลกกัน”

     

    “โอเคๆ”

     

    “คุณจะเล่าแล้ว?”

     

    “ผมจะบอกว่า...งั้นผมไม่อยากรู้ก็ได้ครับ”

     

    “คุณทอมนี่นะ ผมล่ะยอมแพ้จริงๆ ผมเองก็ไม่รู้เรื่องที่คุณหัวเราะก็ได้ครับ”

                  

    จ้างให้เขาก็ไม่มีวันที่จะบอกกับคุณจอห์นว่าตัวเขาคิดอะไรอยู่ในตอนนั้นถึงได้หัวเราะออกมาเพราะมันคงหน้าอายน่าดูที่คนอย่างเขาแอบคิดอะไรไปไกลมากแต่จะว่าไปก็เป็นเพราะ ‘ท่าทาง’ของคุณจอห์นเองนั้นแหละที่ชวนทำให้เขาคิด ไหนจะเมื่อเช้าที่มารอเขาที่ตรอกที่เขาใช้เดินมาเป็นประจำก่อนที่จะถึงร้านกาแฟโดยที่เขาก็ไม่เคยบอกว่าเขาเดินมาทางนี้ไหนจะเรื่องที่อยู่ๆ ก็มายกหนังสือพิมพ์ให้เขา เพราะแบบนี้เมื่อเช้าเลยมีอยู่แวบนึงที่‘การกระทำ’ ที่เขาแอบแปลการกระทำทั้งหมดคุณจอห์นว่าคุณจอห์นกำลังสนใจในตัวเขา

                  

    แต่ความคิดนั้นก็ล้มลงไม่เป็นท่าในนาทีที่คุณจอห์นยื่นหน้าจอโทรศัพท์ออกมาเพราะถ้าคุณจอห์นสนใจในตัวเขาจริง คุณจอห์นเองก็ควรที่จะออมแรงยอมแพ้และขอเป็นเจ้ามือเลี้ยงกาแฟเขาในเช้านี้สิไม่ใช่เล่นเอาชนะอย่างเอาเป็นเอาตายโดยไม่ออมมือเลยสักนิด

                  

    “คุณยิ้มได้แล้ว”

                  

    “ครับ?”

                  

    “นี่เป็นรอยยิ้มแรกของคุณเลยนะครับสำหรับเช้านี้”

                  

    “ปกติผมก็ไม่ได้เป็นคนยิ้มเก่งอยู่แล้ว”

                  

    “แต่วันนี้ตาของคุณเศร้ากว่าทุกวันยิ่งรวมกับรอยขีดในหน้าหนังสือพิมพ์ที่ขีดเบาๆวนอยู่ที่เดิมแบบนั้นแล้ว ถ้าให้ผมเดาผมว่าคุณคงกำลังมีเรื่องไม่สบายใจอยู่”

                  

    “คุณเป็นจิตแพทย์ หรือ หมอดูครับ?”

                  

    “หว่า ผมโดนเลี่ยงไม่ตอบคำถามอีกแล้วสินะครับ”

                  

    ทอมได้แต่ยิ้มตอบให้กับคุณจอห์นโดยที่ไม่เอ่ยพูดอะไรออกมาบทสนทนาระหว่างเขาทั้งสองคนคงไม่สามารถไปได้ต่อและคงเกิดความเงียบที่อึดอัดถ้าเกิดคุณจอห์นรอเค้นคำตอบเอาจากเขาแต่มันตรงกันข้ามเพราะทันที่เขาเงียบไม่ตอบอะไรออกไปคุณจอห์นกลับสามารถเปลี่ยนเรื่องคุยไปได้อย่างไม่สะดุดไม่ว่าจะเป็นเรื่องดินฟ้าอากาศจนลามไปจนถึงเรื่องของหนังและอาหารที่ชอบ

                  

    “ผม...ก็มีเรื่องให้คิดจริงๆ อย่างที่คุณว่าครับ”

                  

    ทั้งๆ ที่คุณจอห์นก็เปลี่ยนเรื่องคุยเป็นเรื่องอื่นไปแล้วแต่ไม่รู้ว่าอะไรมาดลใจให้เขาอยากที่จะพูดถึงเรื่องนี้กับคุณจอห์นคุณที่เขาเพิ่งรู้จักได้เพียงแค่24 ชั่วโมงเท่านั้น

     

    ทอมพยายามหาคำตอบให้กับ ‘การกระทำของตัวเอง’ แต่ไม่ว่าอย่างไรเขาก็ไม่สามารถให้คำตอบที่แน่ชัดกับตัวของเขาเองได้ไม่ว่าจะเป็นเหตุผลที่ว่าเมืองนี้เขามองไปก็ไม่เห็นใครอื่นหรือเหตุผลที่ว่า“ท่าทางและการกระทำ” ของคุณจอห์นมันทำให้เขารู้สึกสบายใจมากกว่าใคร

                  

    “ถ้าคุณพร้อมที่จะเล่าคุณรู้ไหมครับว่าผมพร้อมที่จะฟัง?”

                  

    “ปัญหาคือผมยังไม่พร้อมบอกใคร”

                  

    “แต่คุณก็เริ่มแบกเอาไว้ไม่อยู่”

                  

    “ผมควรที่จะเริ่มกลัวคุณรึเปล่า? ทำไมคุณดูเดาอะไรเก่งไปหมดสรุปแล้วคุณคือใครกันแน่ครับ?”

                  

    “ผมก็แค่พนักงานบริษัทธรรมดานี้แหละครับ เพียงแค่สังเกตุจากท่าทางของคุณ”

                  

    “แค่นั้น?”

                  

    “ใช่ครับ ไม่รู้ว่าคุณทอมเคยได้ยินคำพูดที่คนในเมืองนี้ชอบพูดกันไหมว่า‘การกระทำ’ และ ‘ท่าทาง’ ของคนเรามันจะส่งเสียงดังมากกว่าคำพูด”

                  

    “เคยได้ยินอยู่บ้างครับ”

                  

    “นั้นแหละครับและตอนนี้ท่าทางที่ออกมาจากตัวคุณทอมก็กำลังฟ้องว่าคุณทอมกำลังมีเรื่องให้คิดและกำลังจะแบกเรื่องนั้นมันไม่ไหวอีกแล้ว”

                  

    “ไว้ผมพร้อม”

                  

    “ครับ ไว้เมื่อคุณทอมพร้อม”

                  

    “ขอบคุณครับนะครับคุณจอห์น”

                  

    “ด้วยความยินดีเป็นอย่างยิ่งครับ”

                  

                  

                  

                  

     

Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in