ไม่รู้ว่าผมคิดไปเองรึเปล่า... ช่วงนี้ระหว่างทางกลับบ้าน ผมจะรู้สึกเสียวสันหลังเหมือนกับมีคนแอบตามจนต้องหันไปมองบ่อยๆ
ทุกทีพอหันไป มันมักจะเป็นหมาแมวที่เดินตามมาน้วยหรือนกที่บินมาเพื่อขออาหาร แต่ช่วงนี้มันต่างออกไป.. บางทีมันรู้สึกเหมือนมีความประสงค์ร้ายจนไม่กล้าหันไป หรือบางทีก็รู้สึกถึงสายตาคุกคามแปลกๆ
แต่..ก็ยังไม่เคยเจออะไร ก็ได้แต่คิดว่ามันคงเป็นความระแวงที่คิดไปเองเท่านั้น เพราะด้วยรูปลักษณ์ที่สักเต็มตัว ตาที่ออกจะขวางๆ แถมยังชอบเจาะนั่นเจาะนี่เพราะรสนิยมส่วนตัวแล้ว อาจจะไม่แปลกที่แค่บังเอิญสบตากันก็นึกว่าโดนหาเรื่องอยู่
นิ้วผอมสีม่วงเลื่อนไถหน้าจอมือถือมาพักใหญ่ เสียงน้ำจากแม่น้ำเข้าตีกระทบกับโป๊ะที่ลอยคอไร้ผู้คน การมานั่งทอดอารมณ์เงียบๆหลังเลิกงานในยามดึกตรงท่าน้ำที่ไม่มีผู้คนเคยเป็นงานอดิเรกของบาก แต่ตอนนี้มันเป็นจุดนัดพบไปแทนซะแล้ว
เสียงเครื่องยนตร์ขนาดใหญ่ดังเข้ามาใกล้มากขึ้น จนนกที่เกาะอยู่ตามโคมไฟเล็กๆบนโป๊ะบินหนีไป
เหมือนกับเป็นสัญญาณ ทมิฬกดปิดหน้าจอมือถือแล้วเก็บมันลงกระเป๋ากางเกง
“รอนานยังวะมึง” ยักษ์ผมแดงที่ใส่เสื้อเชิ้ตแบบลวกๆก้าวเท้าลงมาจากรถแต่งคันใหญ่พร้อมกับหอบลังโฟมเล็กๆไว้ข้างเอวลงมาด้วย
“ไม่”
บากตอกส้นเท้าเพื่อให้รองเท้าเข้าที่และล้วงจะหยิบของจากกระเป๋าหลัง พลางเหลือบไปเห็นน้ำหยดจากกล่องโฟมในมือสีเขียวเข้มตรงหน้า
“เฮ้ย ของล๊อตนี้โอเคป่าวเนี่ย ไม่ใช่ใส่ไว้นานจนเสียของไปแล้วนะ” ร่างสูงผอมเอียงคอถามแบบเหนื่อยใจเล็กๆกับความผิดพลาดที่อาจจะเกิดขึ้นอีก คราวนี้เวลาน้อย เขาไม่อยากจะเสียเวลาด้วยเรื่องไร้สาระ
“วะ มึงนี่เชื่อใจกันมั่งซิวะ รอบนี้กูอัดมาเยอะ รับรอง!” ทารคาดันกล่องโฟมเล็กนั่นไปที่อกของบาก
“ชดเชยครั้งที่แล้ว คราวนี้มึงอยู่ช่วยกูเลย”
คนสูงกว่ารับไว้อย่างเบามือ พร้อมเดินนำไปทางซุ้มประตูวัด ระหว่างที่เดินไปก็เริ่มมีหมาแมวในตลาดข้างวัดเริ่มออกมาออกันรอบทางที่เดินมากขึ้นเรื่อยๆ คงเพราะความสามารถของเผ่าทมิฬล่ะมั้งถึงทำให้สัตว์เล็กสัตว์น้อยพากันชอบเข้ามาหาเขาเองเรื่อยๆแบบนี้
ไม่ไกลจากจุดที่ทั้งสองคนยืนอยู่ ยังมีเงาดำที่ซ่อนตัวอยู่ในหลืบของตลาดที่รกร้างผู้คน
...โอเค...มันแลกของกันแล้ว...แต่ยังไม่มีการแลกเงิน เรายังเข้าไปตอนนี้ไม่ได้…..
เสียงกระซิบดังแผ่วพร้อมกับแสงจุดสีแดงของเครื่องรับสื่อสารที่ดับไปเมื่อได้รับข้อมูล
“เฮ้ย นี่กูชิ่งออกมานะเว้ย อยู่ได้แป๊บเดียว” ทารคาปิดประตูรถดังอย่างหัวเสียนิดๆที่โดนสั่ง
“ก็โทรไปบอกน้องมึงซิ ว่ายางแตกรถเสียอะไรก็ได้ ยังไงก็ไม่ได้อยากกลับไปทำงานต่ออยู่แล้วนิ” บากพูดโดยไม่หันกลับไปมองคนหัวเสียข้างหลังอย่างรู้ดี พร้อมกับอุ้มแมวสีส้มที่กำลังคลอเคลียที่ขาเขาอยู่ พลางเกาคอให้มันไปด้วย
“เออ แล้วหยิบเงินจากกระเป๋าหลังกูไปได้เลย กูใส่ซองไว้แล้ว” เขาวางกล่องโฟมลงบนโต๊ะตัวใหญ่ตัวหนึ่งที่กางวางไว้ใต้เต้นท์ผ้าใบ ประหนึ่งมีคนจัดที่ทางไว้ให้แล้ว
ทารคาเอื้อมมือไปหยิบซองที่ว่าออกมาจากกระเป๋ากางเกงด้านหลังของบาก พร้อมกับเปิดซองนับเงิน พลันก็เห็นแสงไฟฉายนับสิบส่องมาที่มือคู่เขียวของเขาที่กำลังเปิดซองอยู่
“เอ๊ะ”
“หืม” บากที่กำลังเตรียมยาอยู่หันมาตามแสงไฟและเสียงแปลกใจของเพื่อนยักษ์ข้างๆ. หมาแมวที่ห้อมล้อมอยู่แตกกระเจิงกันไปคนละทิศละทาง
“หยุด!! อย่าขยับ!! การซื้อขายของพวกคุณถูกบันทึกไว้แล้ว! ให้ความร่วมมือกับการจับกุมด้วยครับ!” ยังไม่ทันสิ้นเสียง นายตำรวจน้อยใหญ่ก็เข้ามากดหัวบากล้มลงแนบกับโต๊ะแล้วเอามือไขว้หลัง
ส่วนทารคาก็โดนพุ่งเข้าชาร์ทจนล้มหน้าคว่ำลงกับพื้น เพราะทันทีที่สิ้นเสียง ”หยุด!” จากนายตำรวจอ๊อด เขาก็หันตัวออกวิ่งหนีอย่างเร็ว จนนายตำรวจสี่นายต้องพร้อมใจกันสกัดไว้
“เดี๋ยว!!นี่มันอะไรกัน!!” ร่างผอมสีม่วงตะโกนขึ้นมาใส่นายตำรวจอ๊อดที่ดูจะเป็นคนสั่งการ
“คุณมีสิทธิ์ที่จะไม่พูดนะครับเพราะทุกคำพูดจะถูกใช้ดำเนินการในชั้นศาล เราตามคุณมาหลายอาทิตย์แล้วตามการแจ้งเบาะแสการซื้อขายยาเสพติดจากจมื่นพันธ์”
“หลายอาทิตย์…..มึงนี่เองที่ตามกู!!” คนผิวม่วงโวยวาย
หมากับแมวแทบจะทั้งวัดมารุมล้อมอยู่รอบตัวคนเผ่าทมิฬที่โดนจับอยู่ ทั้งข่วนทั้งเห่าเจ้าหน้าที่ตำรวจจนเสียงระงมไปทั่วทั้งวัด
“ยาเสพติดพ่อง พวกกูเป็นจิตอาสามาฉีดวัคซีนพิษสุนัขบ้าโว้ย!! มึงไปเปิดลังโฟมดูโน่น!” ยักษ์เขียวที่โดนกดอยู่ที่พื้นทนไม่ไหว ว้ากขึ้นมาบ้าง
นายตำรวจอ๊อดชะโงกลงไปมองในกล่อง
“อืม เป็นแบบน้ำซินะ”
“มึงช่วยดูชื่อยาข้างขวดด้วย กูขอร้องงง” คนผมแดงสะบัดตัวกะให้หลุด แต่สิ้นหวังเพราะตอนนี้โดนใส่กุญแจมือแล้ว...
“คุณจะปลอมแปลงยังไงก็ได้นี่ครับ แล้วถ้าบริสุทธิ์ใจจริงทำไมต้องวิ่งหนี ขอบตาคล้ำแถมขี้โมโหขนาดนี้มันมีข้อให้สงสัยครับ✨
เอาตัวไปสอบสวนที่ ส.น.ต่อเลย” นายตำรวจไฟแรงหันไปสั่งลูกน้องกะปิดจ๊อบผลงานชิ้นใหญ่
“ไอ้บาก!! โทรหาน้องกูด้วยยยยย”
ทารคาตะโกนบอกก่อนโดนยันเข้ารถไป
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in