ปัญหาส่วนตัวจากปีที่แล้วคือเพลงไหนเพราะก็โยนใส่ playlist 2016 จนปลายปีมีเพลงอยู่ในนั้นประมาณเกือบ 400 เพลง (บ้าไปแล้ว) สุดท้ายก็งงว่าเพลงไหนมันเพราะ เพลงไหนที่ชอบนะ เพลงไหนที่ฟังแล้ว เพลงไหนที่ยังไม่ฟัง เพราะงั้นปีนี้เลยจะแก้ปัญหาด้วยการมาโยนเพลงที่ชอบใส่ในมินิมอร์แทน เราฟังเพลงไม่ค่อยสน genre  แต่ว่าจะมีบีทอยู่สองจังหวะที่ชอบมาก จะเป็น hiphop, indie rock, electronic ก็ฟังได้หมดขอให้อยู่ในช่วงจังหวะที่ชอบก็พอ หรือไม่งั้นเราจะฟังเพลงจากเนื้อเพลง ถ้าเนื้อเพลงมีความโหด จะเป็นดนตรียังไงก็ได้หมด  แพ้ให้เนื้อเพลงมากกว่าดนตรีทุกครั้ง 

  ถ้าใครชอบเหมือนกันแวะมาคุยกันได้ในทวิตนะคะ

1. Rook1e - Love Letters 

เป็น Beat tape แนวดนตรีชิวๆสลับกับ narration เกี่ยวกับความรัก  เราไม่รู้เหมือนกันว่า Beat tape นี่ควรจะฟังยังไง แต่เพลงนี้สำหรับเราเป็นเหมือนวงจรของความรักที่เริ่มตั้งแต่แรกเจอ ตกหลุมรัก คาดหวัง หวาดกลัว สารภาพ ความรักเบ่งบาน ไปด้วยกันไม่ได้ เลิก ขอโทษและเข้าใจ ไม่มีเนื้อเพลงอะไรแต่ดนตรีกับnarration ทำให้เรารู้สึกว่ามันเป็นบทเพลงรักที่บอกเล่าเรื่องราวทุกอย่างได้อย่างสมบูรณ์แบบ

2.  Joni Mitchell - California 

เพิ่งเริ่มฟัง Joni เพราะ Oh wonder บอกว่ามี Joni เป็นแรงบันดาลใจในการทำเพลง  Joni ไม่เหมือนนักแต่งเพลงแต่เหมือนนักเล่าเรื่องที่เก่งมากๆ ชอบฟิลลิ่งเพลงนี้ที่บรรยายฉากการเที่ยวของตัวเองในยุโรปเป็นช็อตๆ แล้วบอกว่าถึงแบบนั้นก็คิดถึงบ้าน ท่อนสุดท้ายถามว่า California, Will you take me as I am ? เป็นคำถามที่คนที่จากบ้านไปนาน เรียนรู้และเติบโตขึ้นถามตัวเองตอนที่กำลังจะกลับบ้าน อยากกลับแต่ก็ไม่แน่ใจว่าจะกลับไปได้รึเปล่า ให้ความรู้สึกหลากหลายมาก ในเพลงมีอ้างถึง Vietnam war ด้วยเข้ากับยุค 70s ที่เพลงนี้ปล่อยออกมา เป็นเพลงที่อัดแน่นด้วยหลายๆอย่างจริงๆ 

3. Junko Ohashi - Telephone Number 

ขยับมาที่ปี 80s แล้วย้ายมาฝั่งญี่ปุ่น โคตรชอบดนตรีแนว Vaporwave แบบนี้เลย เป็นเพลงที่ฟังได้ทุกเวลา ตอนเช้าๆ ตอนขับรถ ตอนกลับบ้านแล้วอยากเต้นรำกับตัวเอง 

4.  Glass Animals - Season 2 Episode 3 

เพลงนี้สงวนไว้สำหรับคืนวันศุกร์ที่อยากนอนเปื่อยๆเหมือนโลกนี้จะมีแต่เสาร์อาทิตย์และวันจันทร์จะมาไม่ถึงอีกแล้ว ฟังแล้วไม่อยากทำอะไรสักอย่าง ชอบซาวน์ดนตรีแนวเกมส์กดแบบนี้ดวย คิดถึงการนั่งเล่นมาริโอ้โง่ๆตอนอยู่ประถม  ดนตรีของ Glass Animals มันสดใหม่มาก เหมือนเป็นคนคิดเครื่องดนตรีใหม่ขึ้นมาเองแล้วเล่นเอง นี่คือความรู้สึกตอนได้ฟังเพลงของวงนี้ 

5. Konoba - On our Knees 

ดนตรี Electronic แนวR&B เป็นวงที่ดีงามมากๆอีกวง ใครชอบ the xx น่าจะชอบวงนี้ ส่วนตัวชอบการไต่อารมณ์ในเพลงมาก ตอนแรกมาแนว R&B ใสๆ ลอยๆ พยายามคุกเข่าอ้อนวอนไม่ให้เธอไป ก่อนจะเริ่มลงเสียงกลองหนักหน่วง ร้องออกเสียงชัดเจนขึ้นกลายเป็นความรักที่โคตรเจ็บปวดจนออกจะถึงขั้นไซโคหน่อยๆ ดูสิ่งที่เธอทำไว้กับฉันสิ ไม่คุกเข่าแล้วแต่จะกลับมาแก้แค้น เป็นการใช้ดนตรีเล่าเรื่องที่ดีมากๆ 

6. Adib Sin & Cae - From here 

มาแนว Electronic ใสๆ น่ารักๆ กันบ้าง เพลงนี้พูดถึงฝันดีที่ฝันเห็นเธอแต่ต้องตื่นแล้วอ่ะ ทำไงดี ฟังแล้วคิดถึงผู้หญิงที่งอแงแล้วน่ารักเหมือนลูกแมว เป็นเพลงสีลูกกวาดที่ฟังแล้วสดใสสุดๆ ชอบเนื้อเพลงด้วย

Though it’s suffocating me everyday, though I know you’re so far,
you told me, “Dear, be brave. 
Always.

7. Men I Trust - Lauren 

ชอบตั้งแต่เสียงเบสตอนขึ้นต้นเพลง ใครชอบ Tame Impala น่าจะชอบคนนี้นะคะ ดนตรีใกล้กันมากเลย 

8. Kisum - 2 beer 

 K-hiphop ของปีนี้เริ่มที่ Kisum รู้จักตั้งแต่ Unpretty rapstar แต่ก็ไม่ได้ตามต่อเลย อยู่ๆเปิดไปเจอ   แรปเท่มาก เสียงคีซอมเข้ากับเพลงสายแมนๆ  แรปล้วนๆหนักๆแบบนี้มาก เพลงอื่นๆเสียงแรปดีแต่ว่าดนตรีดู pop ไปหน่อยไม่ค่อยเสริมกับเสียงแมนๆ ของนางเลย

9.  Baek Yerin - That's why 

ขอ K-pop อีกสักเพลง ส่วนตัวชอบเสียงเยรินอยู่แล้ว ขุดมาเจอเพลงนี้แล้วชอบมากฟังแล้วคิดถึงท้องฟ้าสีวนิลาหลังพระอาทิตย์ตก เหมือนจะเศร้าแต่เป็นเศร้าแบบนิ่งๆ ไม่ร้อง ไม่งอแง เศร้าแบบยอมรับว่าเศร้าอ่ะ ฟังแล้วรู้สึกอึนๆยังไงไม่รู้

10. Swim Deep - The Sea 

เพลงล่าสุดที่เสพติด รู้จัก Swim Deep จากมินิมอร์เลย ไปอยู่ไหนมาทำไมเพิ่งรู้จัก มันแนวมากอ่ะ เป็น  dreampop ผสม British rock การรวม genre ที่เรารอคอยมานาน