เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
My StoryWisawa Job Tiyamanee
01 - แฟนเพลง
  •             “ขอบคุณทุกคนที่ชอบเพลง 'คิดถึง' นะครับ ตอนนี้พวกเราเล่นเพลงที่ทุกคนอยากฟังแล้วเพลงต่อไปขอเล่นเพลงที่พวกเราอยากเล่นบ้าง”

                เพลง “คิดถึง”เป็นเพลงที่ได้รับคะแนนโหวตผ่านทางหน้าเว็บไซต์สูงสุดในช่วงประมาณหนึ่งเดือนก่อนหน้าคอนเสิร์ตบอดี้แสลมสิบสามประโยคข้างต้นนี้พี่ตูน บอดี้แสลม พูดด้วยความรู้สึกอย่างไรผมไม่รู้หรอกแต่คอนเสิร์ตของบอดี้แสลมครั้งนี้เป็นคอนเสิร์ตที่ผมเหนื่อยและสนุกที่สุดในชีวิต

    บอดี้แสลมเป็นหนึ่งในวงดนตรีที่คนเกิดปี199xหลาย ๆ คนชื่นชอบที่สุดวงหนึ่ง แน่นอนว่ารวมถึงผมและเพื่อน ๆ ด้วย สมัยมัธยมผมชอบไปร้องคาราโอเกะกับเพื่อนที่ดิโอลด์สยามเป็นประจำเนื่องจากค่าเช่าห้องถูกมากเมื่อเทียบกับในห้าง(ประมาณชั่วโมงละ 60 บาท)หรือถ้ามีเวลาว่างน้อยไม่อยากเหมาจ่ายรายชั่วโมง ก็อาจเลือกเป็นเพลงเพลงละ 10บาทเท่านั้น จำได้ว่าแทบทุกครั้งของการร้อง เพลงของพี่ ๆวงบอดี้แสลมจะถูกพวกผมเลือกมาร้องประมาณครึ่งหนึ่งของเพลงที่พวกผมร้องทั้งหมด

                ทั้งนี้ผมไม่ได้เป็นแฟนคลับตัวยงอะไรมากมายไม่เคยขอลายเซ็น ไม่เคยเจอพี่ตูนในระยะประชิดถึงขนาดขอถ่ายรูปด้วยได้ ในสมัยที่ youtubeยังไม่เป็นที่นิยมนัก ผมก็โหลดเพลงของพวกพี่ฟรี ๆ (ขอโทษครับ)พอระยะที่พอมีเงินเก็บบ้างก็เริ่มจากการซื้อดีวีดีคอนเสิร์ตจนปีนี้พอมีรายได้บ้างจากการสอนพิเศษจึงมีโอกาสดูคอนเสิร์ตใหญ่เป็นครั้งแรก

                ความสุขและความประทับใจที่เราเคยเห็นในแผ่นดีวีดีเกิดขึ้นจริงๆ กับเราเอง ผมเข้าใจในการกระโดด การร้องไห้ การถือสมาร์ทโฟนขึ้นมาถ่ายรูปลงอินสตาแกรมฯลฯ แต่สิ่งที่ประทับใจที่สุดคือช่วงเวลาหลังจากที่พี่ตูนพูดประโยคต้นบทความนี้จบ

    ช่วงนั้นมีเพลงหลายเพลงในอัลบัมล่าสุดที่ไม่ได้โปรโมทถูกเล่นขึ้นบางเพลงผมเพิ่งฟังในรถก่อนมาเพื่อให้พอคุ้นทำนองจะได้สนุกกับมันได้ แต่เนื้อร้องนี่สำหรับคนความจำแย่อย่างผมคงไม่วายต้องดำน้ำไปพร้อมชาวบอดี้แสลมละแวกนั้นบางคนเป็นเด็กมัธยมที่รู้จักแต่เพลงในอัลบั้มหลัง ๆ แต่เพลงอัลบั้มแรก ๆร้องไม่ค่อยได้ เนื่องจากช่วงนั้นขนในที่ลับอาจจะยังไม่ขึ้น (หมายถึงรักแร้)ช่วงนั้นที่วงเล่นเพลงเก่า ๆ จึงเป็นช่วงให้สาวกในรุ่น ๆเดียวกันกับผมได้แสดงความรักต่อวงโดยการร้องเพลงนี้ออกมาดัง ๆคล้ายกับเป็นการบอกน้อง ๆ ว่า เพลงนี้ดังมากนะสมัยกู มึงกลับบ้านแล้วรีบไปฟังด่วนๆ เลย

    แต่ความเป็นแฟนเพลงไม่ได้แบ่งแยกกันด้วยอายุเพศ ศาสนา หรืออะไรก็ตาม อย่างที่ว่ากันไว้ว่า ดนตรีไม่มีขอบเขต ผมเชื่อว่าคงมีแฟนเพลงไม่น้อยที่ร้องตามเพลงทุกเพลงที่เล่นในคอนเสิร์ตนี้ได้และมีไม่น้อยเช่นกันที่ร้องตามได้แค่บางเพลง เช่นผมเป็นต้นแต่สิ่งที่เกิดขึ้นตลอดเวลา 4 ชั่วโมงคือ ไม่ว่าคนนั้นจะร้องได้หรือไม่ไม่ว่าเพลงนั้นจะมีคนร้องได้มากน้อยขนาดไหน บรรยากาศของการตบมือหรือกระโดดตามจังหวะที่พี่ตูนนำยังคงเกิดขึ้นสม่ำเสมอในความรู้สึกผมคือ บางเพลงเราไม่ได้อินขนาดนั้นนะ แต่เราก็ยังทำตาม

    ผมย้อนกลับมาคิดว่าทำไมเราถึงต้องทำตามทำไมเราถึงเรียกตัวเองว่าเป็นแฟนเพลง บางทีคำตอบของคำถามทั้งสองอาจเป็นคำถามเดียวกัน

    คำว่า “แฟนเพลง”มีคำว่า “แฟน” อยู่ หมายความว่าการที่เราเป็นแฟนเพลงได้เราต้องรักในตัวศิลปินระดับหนึ่ง ซึ่งก็เหมือนกับความรักโดยทั่วไปการยอมรับในตัวคนที่เรารักได้ เราไม่จำเป็นต้องชื่นชอบในทุกสิ่งที่เขาทำเช่นเดียวกับบทเพลงที่บางครั้งเราไม่ได้ชอบเพลงทุกเพลงของศิลปินที่เรารักเราตัดสินใจซื้ออัลบัม หรือไปดูคอนเสิร์ตเพราะเราชอบในตัวเขาหรือพูดให้ถูกคือชอบผลงานของเขาส่วนใหญ่

    สำหรับบางศิลปินแม้ว่าเขาจะมีการเติบโต มีการเปลี่ยนแปลงแนวทางของเพลงไปบ้างหรือไม่ได้ออกอัลบัมมายาวนาน แต่เมื่อเขามีคอนเสิร์ตหรือเขากลับมาอีกครั้งเราก็ยังจะไปดูหรือยังชื่นชอบเขาอยู่

    บางทีความรักก็เป็นเช่นนั้น

    แตกต่างกันหน่อยตรงที่“แฟนเพลง” มันเลิกเป็นกันยากกว่าการเป็น “แฟน” พอสมควร
Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in