นวนิยายเรื่อง : ก่อนตะวันรอน
ตอนที่ 2 : ย้อนอดีตกับเดอลาสาวน้อยจากดินแดนที่ราบสูง
#กลับบ้านเราลาบรออยู่
...................................................................
เดอลาในวัยเด็กเธอรับหน้าที่เป็นตัวแทนซื้อของกินของใช้เข้าบ้าน ตามรายการของพ่อแม่และญาติ ๆ อยู่เสมอ ในเช้าวันนี้ก็เช่นกัน
"แม่จ่อย…..หนูซื้อเนื้อแนจ้า "
เสียงเล็ก ๆ ของเดอลาออกสำเนียงภาษาถิ่นอีสานบ้านเกิดของเธอ เพื่อสั่งซื้อเนื้อกับจ่อยหญิงวัยกลางคน ซึ่งเป็นแม่ค้าเนื้อหอมที่สุดของหมู่บ้าน
"เอาจักขีดอิหล่า" แม่จ่อยถามด้วยใบหน้าอาบยิ้ม...เพราะเงินลอยมาแต่เช้ามืด
"เอา 3 ขีดจ้า...เอาหอมใส่ลาบนำแน"
เดอลาตอบแม่ค้า สายตาก็พลางสำรวจสินค้าไปทั่วร้าน เผื่อมีอะไรใหม่ ๆ ที่เธอยังไม่เคยเห็น
แววตาของสาวน้อยยังคงใสปิ๊ง เพราะเธอรู้ดีว่าเช้านี้จะได้กินลาบแสนอร่อยฝีมือพ่อ ซึ่งนาน ๆ บ้านเธอจะลงมติซื้อเนื้อมาทำกิน ก็ที่บ้านมีทั้งเป็ด ไก่และปลาอีกมากมายในบ่อน้ำอีกตั้ง 3 บ่อรอบบ้านเธอ
เดอลาจำได้ดีเมื่อก่อนกว่าจะได้กินลาบก็เดือนละครั้งเวลาแม่ไปรับเงินเดือนพ่อที่ส่งมาให้จากเมืองนอกเท่านั้น หรือมากหน่อยก็สองครั้งเวลามีงานแต่งงานหรืองานศพที่หมู่บ้าน เจ้าของงานจะจัดถุงใส่ลาบไว้เพื่อเป็นการตอบแทนแขกที่ไปร่วมงาน
“เอ้อ ! นึกออกแล้ว เอื้ิอยต้อยจะแต่งงานแล้วนี่นา”
เดอลาพึมพำกับตัวเองที่ด้วยแววตาเปล่งประกาย เพราะนึกขึ้นได้ว่าอีกไม่กี่วันนี้ ต้อยลูกพี่ลูกน้องของเธอจะแต่งงานกับหนุ่มหมู่บ้านใกล้ ๆ กัน
นึกได้อย่างนี้สาวน้อยก็ยิ้มกว้างเลย เพราะนอกจากจะได้กินลาบบ่อย ๆ แล้วเธอยังจะได้ฟังหมอลำ ม่วน ๆ เสียงดัง ๆ ราวกับงานบุญเดือนสี่ ยิ่งคิดเธอก็ยิ่งสนุกอยากจะให้ถึงงานแต่งต้อยไว ๆ
“อีหนู ! ยืนยิ้มหยังคักแท้ นี่ถุงเนื้อเอาไป บ่สั่นสิได้กินสวยแทนเด้" แม่จ่อยเย้าเดอลาเล่น หลังจากที่เห็นเธอยืนยิ้มน้อยยิ้มใหญ่กับตัวเองเป็นนานสองนาน โดยไม่สนใจถุงเนื้อที่นางยื่นให้สักที บอกว่าถ้าไม่รีบรับถุงเนื้อไป อาจจะสายจนต้องทำกินเป็นมื้อเที่ยงแทน
เดอลาส่งยิ้มให้จ่อยและรีบรับถุงเนื้อจากแม่ค้าเนื้อหอมของหมู่บ้านอย่างไว
ไม่ทันที่นางจ่อยจะได้พูดอะไร ร่างน้อย ๆ ของเดอลาก็กระโดดโลดเต้นออกห่างร้านไปซะแล้ว นางจ่อยได้แต่หัวเราะและร้องตะโกนไล่หลังเธอไปว่า
“กินให้แซ่บ ๆ เด้อหนู”
หลังจากที่เดอลาส่งถุงเนื้อให้กับพ่อสีพ่อของเธอเพื่อนำไปสับทำลาบ สาวน้อยก็รู้งานรีบปีนบันไดลิงลงไปเก็บหอมที่สวนครัวข้างบ้าน ที่แม่ปลูกไว้มาให้พ่อใส่ลาบทันที
“อย่าลืมเก็บใบหูเสียกับใบบักตูมมากินนำเด้อหล่า” พ่อเดอลาร้องกำชับเธอให้เก็บผักที่ตัวเองชอบกินคู่กับลาบ เพื่อเพิ่มรสชาติให้อร่อยยิ่งขึ้น
โป๊ก ! โป๊ก ! โป๊ก !
เสียงมีดโต้กระทบกับเขียงได้ยินไปไกลถึงสามบ้านแปดบ้าน ที่แน่ ๆ ผู้คนในคุ้มเดียวกันรู้เลยว่าบ้านหลังไหนทำลาบกิน แต่ก็มีบ้างเวลาได้ยินเสียงสับเขียงดังโป๊ก ๆ อาจจะเป็นเมนูแจ่วบองก็ได้ แต่ถ้าเสียงโป๊ก ๆ ดังหนักหน่วงและนานหน่อย ก็เป็นที่รู้กันว่าเสียงแบบนี้ต้องเป็นเมนูลาบแน่นอน
"ป้าด ! แจแมนได้กินลาบเนาะมื้อนี้ อักอยู่อักกินบ่เอิ้นบ่ปาก" เสียงน้าเอ็ดหญิงวัยกลางคน ลูกพี่ลูกน้องของแม่ร้องตะโกนข้ามรั้วมาแหย่เดอลาเล่น หลังจากได้ยินเสียงสับเขียงดังมาจากบ้านของเธอ
“มาเด้อน้าเอ็ดมากินลาบนำกัน" เดอลาร้องชวนให้ผู้เป็นน้ามาร่วมวงกินลาบกับเธอที่บ้าน ด้วยน้ำเสียงเบิกบาน
“พากันกินโลดหนู น้ากินแล้วหล่ะ” เอ็ดตอบด้วยแววตาที่เอ็นดู
“เอ้ออีหนูกินข้าวแล้วไปหาหน่อไม้กับน้าบ่ ?” เอ็ดไม่ลืมที่จะชวนเดอลาออกไปหาหน่อไม้ช่วงสายด้วยกัน
“จ้าน้า ถ่าหนูแนเด้ออย่าฟ่าวไปเด้อ" เดอลาตอบน้าสาว พลางวิ่งกุลีกุจอปีนบันไดขึ้นบ้านเอาหอมไปล้าง ก่อนจะส่งให้พ่อหั่นใส่ลาบต่อไป
“นางหล่ามาแต่งพาข้าว พ่อไปเอิ้นแม่กับน้องก่อน” พ่อร้องบอกเดอลามาเตรียมสำรับข้าว หลังจากที่ตัวเองทำลาบทั้งแบบสุกและแบบดิบเสร็จเรียบร้อยแล้ว
“อิแม่ หนูกินข้าวแล้วสิไปหาหน่อไม้ทางห้วยแดงกับน้าเอ็ดเด้อจ้า” เดอลาเอ่ยบอกกับแม่และสมาชิกในบ้าน ก่อนที่จะส่งคำข้าวเหนียวพร้อมลาบสุกเข้าปากเคี้ยวต่ออย่างเอร็ดอร่อย
...........แล้วพบกันใหม่นะคะ........
ด้วยฮัก : งามดอกบัว
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in