Title: Inconceivable | รักอนันต์พันธสัญญา
Author: anitana_ & sean.
Pairing: King Nereus x (Prince) Orm Marius | #NerOrm
Fandom: Aquaman (2018)
ติชม คอมเมนท์และเป็นกำลังใจได้ที่ #พันธสัญญารัก
ออร์มถูกพากลับมายังคุกหลวงแห่งเดิมที่เขาเคยจำต้องโทษ บรรยากาศแสนมืดมนพาลทำให้หัวใจของเจ้าชายหนุ่มนั้นหม่นหมองตามลงไปด้วย - ร่างสูงโปร่งขององค์ชายทรุดตัวลงนั่งกอดเข่าที่มุมหนึ่งของห้องสี่เหลี่ยม น้ำตาแห้งเหือดหาย.. แต่มันก็พร้อมที่จะไหลออกมาได้ทุกเมื่ออีกเช่นกัน
ไม่นานนัก ทหารยามก็นำพระกระยาหารมาวางไว้ให้ตามหน้าที่ มีชั่วครู่หนึ่งที่ออร์มเบือนหน้าหนี เขาไม่อยากจะแตะต้องอะไรทั้งสิ้นในตอนนี้.. แต่เมื่อได้นึกถึงสิ่งมีชีวิตตัวน้อยในพระครรภ์.. ลูกเขาไม่มีความผิดใด เขาจะทำร้ายตัวเองและลูกไม่ได้
ลูกของออร์มจะต้องเกิดมาแข็งแรงสมบูรณ์ทุกประการ..
เพื่อรอวันที่เขาและเนเรียสได้กลับมาอยู่ด้วยกันอีกครั้ง
ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น แต่ออร์มก็ยังคงเชื่อมั่น..ว่าทุกอย่างมันจะต้องเรียบร้อย..
“ไม่ว่าอะไรก็ตาม.. เราจะต้องได้เจอพระบิดาของเจ้าอีกครั้ง.. เจ้าตัวเล็ก..”
ออร์มให้สัญญาเลย
ผ่าน
เนเรียสยังคงส่งราชทูตมาคอยเป็นสายสืบข่าวขององค์รัชทายาทอยู่เช่นเดิม หากแต่ข้อมูลของแอตแลนติสที่ไม่มีวัลโก้คอยช่วยเหลืออยู่ตรงนั้นกลับเป็นเรื่องที่ยากเย็นแสนเข็ญเหลือเกิน
ส่วนอาณาจักรแอตแลนติสที่กลืนกินเจ้าชายออร์มไว้ใต้ผืนท้องสมุทรนั้นก็ยังคงเป็นไปเหมือนทุกวัน
มีเพียงแค่อย่างเดียวที่แตกต่างออกไป
เจ้าชายออร์มยังคงทรงพระครรภ์อยู่.. และทุกอย่างก็ยังคงครบถ้วนสมบูรณ์ทุกประการ – นับเป็นเดือนที่เก้าแล้ว ที่ออร์มนั้นได้ตั้งครรภ์ให้กับองค์กษัตริย์แห่งอาณาจักรเซเบล.. ทุกอย่างดูยากลำบาก แต่ก็ไม่มีอะไรยากไปเท่ากับการต้องอยู่ใต้มหาสมุทรในคุกหลวงเพียงลำพัง
สิ่งที่ดีที่สุดสำหรับคนตั้งครรภ์คือกำลังใจใช่ไหม
ใช่.. แต่มันก็คงเป็นเพียงได้แค่คำกล่าวขานก็เท่านั้น
ออร์มลุกขึ้นพร้อมกับหยิบหนังสือบนหัวเตียง.. การทรงพระครรภ์ทำให้การใช้ชีวิตขององค์รัชทายาทนั้นแตกต่างไปจากเดิมอยู่มากโข จากที่เคยเหาะเหินเดินอากาศได้อย่างมิต้องสนใจใคร ตอนนี้กลับต้องคอยอุ้มท้องลูกอยู่เสมอเพื่อป้องกันการกระทบกระเทือน – แต่ถึงอย่างนั้น ออร์มก็ยังมีความสุขที่ไม่มีใครมาพรากหัวใจดวงน้อยๆไปจากเขาได้..
ฝ่ามือสวยลูบหน้าท้องที่เต่งตึงของตัวเอง - เขายังไม่ได้นึกชื่อของลูกในครรภ์ไว้เลย หากเนเรียสได้เห็นหน้าลูกจะเป็นอย่างไรบ้างนะ.. เขาจะตื่นเต้นไหมหากรู้ว่าตนนั้นกำลังจะได้มีลูกตัวเล็กๆร่วมกันกับเขา
ออร์มตั้งใจจะเคลื่อนตัวไปยังชั้นวางหนังสือที่อยู่ปลายเตียงแต่สิ่งหนึ่งกลับทำให้เขาหยุดชะงัก
น้ำอุ่นสีใสรินไหลออกมาจากเบื้องล่าง สิ่งที่ออร์มรับรู้ได้ก็คือความเจ็บปวดที่กำลังก่อตัวบริเวณช่องคลอดของเขา - หลังสือที่อยู่ในมือหลุดร่วงลงบนพื้น ฝ่ามือทั้งสองข้างกุมท้องของตัวเองไว้แน่น
“ทหาร..” เจ็บจนแทบเอ่ยอะไรออกมาไม่ได้ - น้ำตารินไหล “..ตามหมอหลวงเร็วเข้า.. ข้า.. ข้ากำลังจะคลอดแล้ว..”
ออร์มเจ็บเจียนแทบขาดใจประหนึ่งเข็มนับพันเสียดแทงตามร่างกายซ้ำแล้วซ้ำเล่า เขาทรุดตัวลงกับพื้นห้อง - ทหารยามนายหนึ่งรีบเข้ามาประคองร่างของออร์มเอาไว้ ในขณะที่ทหารอีกนายหนึ่งรีบบึ่งออกไปแจ้งข่าวกับองค์กษัตริย์และตามหมอหลวงในทันที
นายทหารคนนั้นประคององค์รัชทายาทกลับไปที่เตียงกว้าง ร่างงามบิดเร่าไปมาด้วยความเจ็บและทรมาน ในใจของออร์มในตอนนี้นึกถึงเพียงแต่ใบหน้าขององค์กษัตริย์เนเรียส.. อยากให้พระองค์ได้กลับมาอยู่ด้วยกันในตอนนี้ คิดถึงอุ้งอันแสนอบอุ่นที่คอยปลอบประคอง และบอกกับออร์มว่าเขากับลูกนั้นจะต้องปลอดภัย..
แต่ภาพตรงหน้ากับมีเพียงแค่ความว่างเปล่า
มีเพียงแค่ออร์มเท่านั้นที่อยู่กับความลำพัง..
“ว่าอย่างไรนะ!?
“ไปตามหมอหลวงเร็วเข้า!” เสียงทรงอำนาจตรัสสั่งกับทหารยามผู้นั้น ก่อนจะรีบรุดไปยังคุกหลวงทันที..
“ท่านพ่อ...” ออร์มมองเห็นองค์กษัตริย์ผู้เป็นพ่อซึ่งรุดหน้าตั้งเข้ามายังคุกหลวงที่ตนใช้พำนักอยู่.. แต่ความเจ็บเหล่านั้นที่แล่นผ่าน ทำให้ออร์มต้องซุกหน้าลงกับหมอน มือกำแน่นบนผ้าคลุมเตียง “..ข้าเจ็บเหลือเกิน”
กษัตริย์ออร์แวกซ์มองเห็นลูกชายที่กำลังทุกข์ทนทรมานอยู่แบบนั้น ก็คงต้องยอมรับอยู่ดีว่าเขาเองก็สงสารและเห็นใจออร์มอยู่ไม่ใช่น้อยเลย.. อย่างน้อยออร์มก็ยังเป็นลูกในไส้ของเขา..
มือใหญ่กร้านของชายชราเอื้อมจับฝ่ามือขององค์รัชทายาทเอาไว้แน่น ทรุดตัวลงนั่งข้างผืนเตียง “อดทนอีกนิดลูกข้า.. ข้าตามหมอหลวงมาให้เจ้าแล้ว.. อดทนอีกนิดเดียว” ฝ่ามืออีกข้างวางลูบเรือนผมสีอ่อนของลูกชายตนเพื่อปลอบประโลม
ออร์มเจ็บเหลือเกิน.. เจ็บจนแทบขาดใจ – มือสวยที่กุมอยู่ใต้ฝ่ามือของผู้เป็นพ่อกำแน่นจนแทบจะบีบให้แตกละเอียด เสียงกรีดร้องทรมานขององค์ชายนั้นเสียดแทงเข้าไปในหัวใจอันแสนเยือกเย็นของออร์แวกซ์เสียจนแทบทนไม่ไหว
“หมอหลวงมาหรือยัง!?
“หมอหลวงกำลังเดินทางมาพะยะค่ะ” ทหารที่เฝ้ายามแทบจะทำอะไรไม่ถูก เขาไม่เคยเห็นเหตุการณ์แบบนี้มาก่อน แต่ไม่นานหมอหลวงก็มาถึง
“พระองค์ท่าน.. กระหม่อมคงต้องขอลดปริมาณมวลน้ำในห้องออกให้หมดเสียก่อน เพื่อให้สะดวกต่อการทำคลอด--” หมอหลวงกล่าว พร้อมกับวางสัมภาระลงข้างเตียง
“จะทำอะไรก็ทำ” ออร์แวกซ์เอ่ยด้วยน้ำเสียงร้อนรน ฝ่ามือคู่นั้นยังคงกุมมือขององค์รัชทายาทเอาไว้ไม่ห่าง “ทหารพวกนั้นออกไปก่อน!”
ออร์มกรีดร้องลั่นเจ็บแทบขาดใจ .. ทหารเหล่านั้นออกไปแล้วตามคำสั่งขององค์กษัตริย์ ซึ่งออร์แวกซ์เองก็หวาดวิตกไม่แพ้กัน - หมอหลวงจัดท่าทางให้องค์ชายพร้อมจนเสร็จสรรพ ขาสวยนั้นอ้าออกกว้างและตั้งชัน มีผ้าผืนใหญ่คลุมเอาไว้
“องค์ชายฟังสัญญาณจากกระหม่อมนะพะยะค่ะ.. พอกระหม่อมบอกให้พระองค์เบ่ง พระองค์ก็เบ่งเลยนะพะย่ะค่ะ” หมอหลวงเอ่ยกล่าว - ออร์มพยักหน้า ยินดีที่จะทำทุกอย่างเพื่อให้ความเจ็บปวดแสนทรมานเหล่านี้หายไปโดยเร็วที่สุด
มือสวยกำผ้าคลุมเตียงเอาไว้แน่นเหงื่อสีใสผุดซึมขึ้นเต็มหน้าผาก..
เนเรียส.. ท่านอยู่ไหนข้าต้องการท่านเหลือเกินที่สุดในยามนี้
“เบ่งเลยพะยะค่ะฝ่าบาท!” หมอหลวงว่าอย่างนั้น – ออร์มเบ่งจนสุดแรง นิ้วขึ้นข้อขาว เขาตัวยันขึ้นเหนือพื้นเตียง เส้นเลือดที่ขมับเต้นตุบ ก่อนจะทิ้งตัวลงนอนอีกครั้ง
ความเจ็บปวดไม่จางหาย น้ำตาไหลอาบใบหน้างามขององค์รัชทายาทแห่งแอตแลนติส
“อีกนิดพะยะค่ะกระหม่อมเห็นหัวเด็กแล้ว..” ออร์มยิ่งน้ำตารื้น ตื่นเต้นเหลือเกินที่จะได้พบกับลูกน้อยที่อยู่ในครรภ์มาหลายเดือน
หมอหลวงบอกสัญญานให้เบ่งอีก.. ครั้งแล้วครั้งเล่าท่ามกลางสายตาของพระบิดาที่ทั้งลุ้นและห่วงลูกชายของตน
“คราวนี้สุดแรงเลยฝ่าบาท” หมอหลวงว่าเช่นนั้น.. พอส่งสัญญาณ ออร์มก็ทำตามทันที
ก่อนที่เสียงเด็กร้องจ้าจะดังขึ้น ออร์มยิ้มกว้าง ทิ้งตัวลงนอนด้วยความเป็นสุขใจ พร้อมๆกันกับเรี่ยวแรงที่หายไป
“ลูก.. ลูกข้า...”
“พระองค์..พระองค์ทรงเป็นพระโอรสพะย่ะค่ะ..”
“ขอข้าดูหน้าเขาหน่อย..” ออร์มน้ำเสียงดูอ่อนแรง กว่าเจ้าตัวเล็กจะคลอดออกมาได้ก็ทำเอาหมดแรงเลย .. ออร์มไม่มีแม้แต่แรงจะขยับยกตัวขึ้นเสียด้วยซ้ำ แต่เขาก็ยังอยากเห็นหน้าของลูกมากที่สุดอยู่ดี
หมอหลวงพยักหน้าพร้อมกับใช้ผ้าขนหนูผืนเล็กที่เตรียมพร้อมมาด้วยห่อองค์ชายตัวเล็กจิ๋วในอ้อมแขน - ชายชราส่งพระโอรสให้กับเจ้าชายออร์ม
“ลูกข้า...” เสียงร้องไห้ได้หายเงียบไปแล้ว เมื่อเด็กน้อยได้กลับคืนสู่อ้อมอกของผู้เป็นแม่ - ออร์มแตะปลายนิ้วลงบนริมฝีปากของลูกชายในอ้อมแขน
ดวงตากลมโตสีฟ้าสดและริมฝีปากสวยของเขาได้ออร์มมา.. ส่วนผมสีแดงเพลิงและจมูกจิ้มลิ้มนั้นได้เนเรียสมาเสียเต็มๆเลยล่ะ.. - องค์รัชทายาทก้มจูบลงบนกระหม่อมสวยของเจ้าเด็กน้อย
ออร์แวกซ์เห็นภาพนั้นก็ได้แต่ยืนเงียบอยู่สักพักก่อนจะตัดสินใจออกไปจากห้อง แต่ก็ถูกเสียงของออร์มเรียกเอาไว้เสียก่อน
“ท่านพ่อ.. ท่านอยากลองอุ้มเขาดูไหม”
แม้เขาจะอยากอุ้มชูมากสักเพียงไหน แต่ก็ต้องหักห้ามใจของตัวเองเอาไว้ - ออร์แวกซ์ส่ายศีรษะ ใบหน้านั้นหันกลับมาเพียงแค่เสี้ยวเดียว
“เจ้าพักผ่อนเสียเถอะ.. ข้ามีงานที่ต้องทำต่อ”
ออร์มไม่ว่าอะไร.. เพราะในครานี้เขาเป็นสุขใจเหลือเกินที่มีเจ้าตัวเล็กอยู่ในอ้อมกอดของตน มองใบหน้านั้นด้วยความแสนรัก.. พร้อมกับก้มลงจูบหน้าผากเล็กนั้นไปอีกครั้งหนึ่ง..
ก่อนหมอหลวงจะขออนุญาตพาเจ้าชายน้อยไปทำความสะอาดร่างกาย เพียงไม่นานเขาก็ได้กลับเข้ามาสู่อ้อมอกของผู้เป็นแม่อีกครั้ง..
ลูกชายของเขางดงามสมดั่งที่เป็นตัวแทนแห่งความสัมพันธ์ที่เชื่อมระหว่างสองอาณาจักรเข้าหากัน เนเรียสต้องดีใจแน่.. หากเห็นหน้าของเด็กคนนี้..
และอีกทางด้านหนึ่งของอาณาจักรใกล้ผิวน้ำ - กษัตริย์แห่งเซเบลเองก็รู้สึกเหมือนมีลางสังหรณ์อะไรบางอย่างในขณะที่อ่านเอกสารงานราชการ.. ความรู้สึกหนึ่งที่ทำให้เขาก็รู้สึกอุ่นวาบไปทั่วทั้งหัวใจ ราวกับว่ากำลังมีเรื่องดีๆอะไรสักอย่างกำลังเกิดขึ้นอยู่ในตอนนี้
ออร์แวกซ์กลับมายังบัลลังก์ประจำตำแหน่งของพระองค์เอง..
ภายใต้หัวใจอันแสนเย็นชา เขารู้สึกเหมือนรอยยิ้มไร้เดียงของเด็กคนนั้นที่อยู่ในอ้อมอกของผู้เป็นแม่กำลังหลอมละลายหัวใจของเขาอยู่.. องค์กษัตริย์ครุ่นคิดอยู่ไม่ตกเลยว่าเหตุการณ์ใดควรจะเกิดขึ้นต่อไปดี
หากคนทั่วไปได้รู้เข้าว่าองค์รัชทายาทแห่งแอตแลนติสทรงพระครรภ์ อีกทั้งยังคลอดบุตรออกมาเป็นเจ้าชายน้อยที่หน้าเหมือนองค์กษัตริย์แห่งเมืองมังกรทะเล คงต้องมีข่าวเล่าข่าวลือเสียหน้าให้หนาหูเป็นแน่แท้
“ทหาร..” แน่นอนว่าตอนนี้ออร์แวกซ์คงตัดสินใจการใหญ่แบบนี้เพียงคนเดียวไม่ได้แน่ อย่างน้อยเขาก็ต้องมีที่ปรึกษา .. ถึงแม้ว่าที่ปรึกษาผู้นั้นจะเคยเป็นคนที่หักหลังออร์แวกซ์พร้อมกับลูกชายตัวดีของเขาก็เถอะ
แต่เก้าเดือนที่ผ่านมาก็ถือว่าเป็นบทลงโทษที่พอจะทำให้หลาบจำอยู่บ้างล่ะ “ไปเอาตัววัลโก้มาให้ข้า..”
เพียงไม่นานหลังออกคำสั่ง ทหารก็นำตัวที่ปรึกษาอย่างวัลโก้เข้ามายังท้องพระโรงแห่งพระราชวังแอตแลนติส .. ใบหน้าของชายชรายังคงเรียบเฉย ไม่มีวี่แววแห่งความโกรธเคืองหรือเคียดแค้นอยู่เลย แม้จะถูกสั่งขังมาเป็นเวลาหลายเดือนแล้วก็ตาม
“การอยู่ในคุกหลวงคงช่วยให้เจ้าเปลี่ยนความคิด หรือคิดอะไรได้เยอะขึ้นมาบ้างใช่หรือไม่วัลโก้..”
วัลโก้น้อมศีรษะรับคำไม่เอ่ยคำใด เพราะท้ายที่สุดแล้วเขาก็ยังคงภักดีต่อออร์มเช่นเคย
ออร์แวกซ์เห็นเช่นนั้นจึงกล่าวต่อไปแต่ก็ยังคงจับอาการท่าทางของชายชราตรงหน้าไปด้วย
“ลูกข้าให้กำเนิดบุตรออกมาแล้วแถมยังเป็นชายเสียด้วย ราชวงศ์ของข้าก็มีรัชทายาทสืบบังลังก์ไปอีกคน..” แม้เลือดอีกครึ่งหนึ่งจะเป็นของเซเบลก็ตามที..
ดวงตาคู่นั้นของวัลโก้ดูไหวหวั่นและองค์กษัตริย์ออร์แวกซ์เองก็สังเกตเห็นได้เช่นเดียวกัน .. รอยยิ้มเพียงน้อยนิดแต่งแต้มบนมุมปากของชายชรา “นั่นเป็นเรื่องที่น่ายินดีเหลือเกินพะยะค่ะ”
“ใช่..” ถ้าหมายถึงการมีองค์รัชทายาทคนต่อไป ก็ใช่.. อย่างน้อยตอนนี้ออร์แวกซ์ก็ตายตาหลับได้แล้วเรื่องที่ราชบัลลังก์มีผู้สืบทอดด้วยเลือดเนื้อเชื้อไขของเขา “..แต่ยังมีสิ่งหนึ่งที่ข้ายังอยากสานต่อประสงค์อีกสักนิด”
ราชครูวัลโก้เงยหน้าขึ้นมององค์กษัตริย์ที่อยู่เบื้องหน้า ด้วยแสงสว่างจากเบื้องบนที่สาดส่องอยู่เบื้องหลังจึงทำให้ชายชรานั้นไม่สามารถคาดเดาได้เลยว่าองค์กษัตริย์นั้นกำลังคิดหรือรู้สึกอย่างไรอยู่
องค์กษัตริย์ทรงลุกขึ้น.. พระวรกายสูงใหญ่ค่อยๆเคลื่อนตัวลงมาจากบัลลังก์ “เรื่องราวของทารกที่เกิดใหม่ จะถูกแพร่งพรายออกไปมิได้ว่าเป็นพระโอรสในกษัตริย์แห่งเซเบล”
“เพราะอย่างนั้นข้า.. จึงอยากจัดงานอภิเษกสมรสให้กับลูกของข้าเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้หลังจากที่เขานั้นฟื้นตัวเรียบร้อยแล้ว..” องค์กษัตริย์เอ่ยด้วยพระพักตร์อันเรียบนิ่ง แต่ลึกๆแล้วกลับเปี่ยมไปด้วยรอยยิ้ม “..และหลังจากนั้นจึงแต่งตั้งองค์รัชทายาทให้ขึ้นเป็นกษัตริย์พระองค์ใหม่แห่งแอตแลนติสสืบต่อไป”
วัลโก้ถึงกับเบิกตากว้าง.. จะให้ออร์มอภิเษกสมรสเช่นนั้นหรือ.. แต่ถึงอย่างไร แม้จะเห็นใจออร์มสักเพียงใดแต่คำของกษัตริย์ก็ถือเป็นคนที่แสนศักดิ์สิทธิ์
“แล้วพระองค์.. ประสงค์จะให้องค์รัชทายาทอภิเษกสมรสกับผู้ใดหรือพะย่ะค่ะ” ชายชราเอ่ยถาม - เขารู้ดีว่าหากออร์มได้รับรู้เรื่องนี้เข้าเจ้าตัวคงได้เสียใจอีกครั้งเป็นแน่ การถูกบังคับให้แต่งงานไม่ใช่เรื่องที่ดีเลยแม้แต่น้อย..
“ข้าจึงอยากให้เจ้าเป็นธุระจัดหา.. ว่าลูกสาวคนขุนนางใดเหมาะหมาย ที่จะมาเป็นราชินีองค์ต่อไปแห่งแอตแลนติส..”
เพราะการแต่งงานคือการที่ต้องใช้ชีวิตกับคนผู้นั้นจนไปวันตาย นั่นคือสิ่งที่วัลโก้กังวล.. และเขาก็รู้ดีว่าองค์ชายออร์มนั้นรักองค์กษัตริย์แห่งเซเบลเพียงแต่พระองค์เดียว
อย่างน้อยให้เขาได้คุยกับเจ้าชายออร์มสักครั้งก็ยังดี
“ถ้าพระองค์จะกรุณา.. ข้าคงต้องขอเข้าเฝ้าองค์รัชทายาทอีกสักครั้ง จะได้หรือไม่พะยะค่ะ” วัลโก้กราบทูล - เรื่องการหาสตรีที่เหมาะสมกับตำแหน่งราชินีแห่งแอตแลนติสไม่ใช่เรื่องยากเกินความสามารถของวัลโก้ แต่ที่ยากมากกว่าคือการต้องฝืนใจของออร์มเสียมากกว่า
“ได้อยู่แล้ว..” เพราะกษัตริย์ออร์แวกซ์รู้ดีว่าวัลโก้คงจะสามารถกล่อมออร์มให้เชื่อฟังได้ หากไม่นับองค์กษัตริย์แห่งเซเบล ซึ่งกษัตริย์ออร์แวกซ์จะไม่มีทางใช้เป็นตัวเลือกอย่างแน่นอน “..ตามที่เจ้าต้องการ”
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in