เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
น้องคอนzy_lar
DO YOU LIKE IT
  • ฉลองพี่เอกเล่นจบนะคะ (น้องกับคุณพี่รอด กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดด)
    เหมือนเดิมนะคะ Writer regrets nothing.


    ***WARNING FOR CUTENESS ATTACK***

    ****WARNING FOR EXPLICIT SEXUAL CONTENT****

    ****SO MANY KINK BELOW****



    Continue from I don’t like it and Stop doing that.



    Fan fiction >> DETROIT : Become Human
    OTP >> Markus/Conner #marnor
    Rate 18


    DO YOU LIKE IT?




    สุดท้ายก็มาสวนสนุกตอนบ่ายในวันเดียวกันอยู่ดี


              “มาร์คัส?”


              ละสายจากบรรดาเครื่องเล่นและเหล่าผู้คนตรงหน้าหันมามองแอนดรอยด์ข้างกายที่กำลังเอียงคอมองเขาด้วยสายตาเป็นกังวล


              “นิ่งไปเป็นอะไรรึเปล่าครับ”

              “เปล่าครับ แค่คิดถึงเรื่องเมื่อเช้าอยู่”

              “มาร์คัส!” หัวเราะมองอีกฝ่ายที่เขินเดินหนีไปซื้อตั๋วก่อนจะรีบเดินตามไปคว้ามือเรียวมาจับไว้


              คอนเนอร์ชะงักแล้วหยุดมองมือตัวเองก่อนจะเงยหน้าขึ้นมามองร่างสูงที่ยังคงมีรอยยิ้มประดับหน้าอยู่จนอดไม่ได้ที่จะต้องมองค้อนใส่แล้วพยายามที่จะดึงมือตัวเองออกแต่อีกคนกลับจับไว้แน่นกว่าเดิม


              “จับไว้จะได้ไม่วิ่งหนีหายไปไหน”

              “ผมไม่ใช่ซูโม่นะ!” ดึงเอวเล็กเข้ามากอดแล้วก้มลงไปกระซิบข้างหู


              “แต่ฉันว่าปลอกคอเหมาะกับนายนะ”


              หัวหน้าเจริโค่มองแอนดรอยด์ในแขนที่นิ่งไปแล้วเป็นที่เรียบร้อย วงแหวนLEDข้างหัวกระพริบสีเหลืองราวกับว่ากำลังประมวลผลสิ่งที่เขาพูดไป

              มาร์คัสยิ้มกว้างก่อนจะจูงมืออีกคนให้เดินไปซื้อตั๋วด้วยกัน พนักงานซึ่งเป็นมนุษย์ยิ้มให้เขาแล้วยื่นตั๋วให้ซึ่งร่างสูงก็ยิ้มตอบพร้อมเอ่ยขอบคุณเบาๆ

              ตั้งแต่เกิดการปฏิวัติทุกอย่างก็ดูจะไปเป็นไปได้ด้วยดี มนุษย์และแอนดรอยด์เริ่มปรับตัวเข้าหากัน อยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข ไม่มีการกดขี่ การเป็นทาสที่ถูกข่มเหงอีกต่อไป เห็นแบบนั้นแล้วก็อดภูมิใจไม่ได้ที่สิ่งที่ทำมาทั้งหมดไม่ได้สูญเปล่า

    แถมยังทำให้เขาได้เจอคนที่รักอีกด้วย..


              “ถ้าเหมาะ..”

              “หืม?”


              “ถ้าเหมาะแล้วทำไมถึงไม่ซื้อให้ใส่หล่ะครับ”


              คอนเนอร์พูดพึมพำพอให้ได้ยินกันสองคนก่อนช้อนตามองเขาพร้อมเอียงคอเล็กน้อยแบบที่ชอบทำเป็นประจำเวลามีข้อสงสัย

              คราวนี้กลายเป็นแอนดรอยด์ผิวเข้มที่ยืนค้างอยู่กับที่มองแอนดรอยด์ตรงหน้าแบบตาไม่กระพริบในขณะที่ภายในหัวนั้นก็จิตนาการภาพอีกฝ่ายไปจนถึงไหนต่อไหนแล้วก็ไม่รู้


    กว่าจะรู้ตัวอีกทีก็เผลอสั่งปลอกคอทางออนไลน์ไปแล้ว…


              มาร์คัสไม่เคยรู้สึกอยากกลับบ้านขนาดนี้มาก่อนเลยเพราะอยู่ๆก็รู้สึกคิดถึงห้องนอนขึ้นมาทันทีอย่างบอกไม่ถูกโดยเฉพาะเตียงและมันคงจะดีมากขึ้นไปอีกถ้าคอนเนอร์อยู่ที่นั่นด้วย

    แบบ NO CLOTHES ON


              “ในฐานข้อมูลของผมนิยามอาการของมาร์คัสตอนนี้ไว้ว่าคนหื่นกามครับ”


              กระพริบตาสองสามครั้งมองไปยังดวงตาสีเข้มที่มองหน้าเขาอยู่ก่อนจะเลื่อนไปยังมือที่ยังคงประสานกันอยู่เพียงแค่ตอนนี้มันไม่ใช่ผิวหนังสังเคราะห์แบบมนุษย์แต่เป็นผิวสีขาวที่แท้จริงของแอนดรอยด์


    แบบนี้ในฐานข้อมูลของมาร์คัสเขาเรียกว่า จับได้แบบคาหนังคาเขา


    “พวกเรามาเที่ยวกันนะครับ เรื่องแบบนั้นไว้คิดหลังเที่ยวเสร็จสิ”


    ส่วนแบบนี้ในฐานข้อมูลเรียกว่า ให้ท่า…


              “เอ่อ..เราไปเล่นเครื่องเล่นตรงนั้นกันดีกว่านะ” มาร์คัสรีบเปลี่ยนเรื่องแล้วเดินนำไปยังเครื่องเล่นที่ว่าทันทีเพราะถ้าขืนคุยต่ออาจจะไม่ได้เล่นอะไรเลย


              “มาร์คัสครับ ทำไมคนๆนั้นถึงมีแต่คนเข้าไปกอดหล่ะครับ” หันมองตามมืออีกฝ่ายไปเจอกับมาสคอตที่กำลังยืนถ่ายรูปกับนักท่องเที่ยวคนอื่นๆอยู่

              “นั่นเขาเรียกว่ามาสคอตครับ เด็กๆเขาชอบกัน”

              “ผมเข้าไปกอดบ้างได้ไหมครับ เขาดูนุ่มนิ่มดี”


    นุ่มไม่เท่าใครบางคนหรอก..


              “คิดเรื่องหื่นกามอีกแล้วนะครับ” แอนดรอยด์นักสืบหันมามองคนข้างๆหน้านิ่งก่อนจะเดินเข้าไปหามาสคอตหนูในชุดเอี๊ยมสีแดงที่น่าจะชื่อว่ามิกกี้เมาส์

              มาสคอตตัวยักษ์โบกมือให้คอนเนอร์อย่างร่าเริงแล้วดึงร่างเล็กเข้าไปกอดพร้อมกับโยกไปโยกมาแล้วก็กระโดดขึ้นลงเบาๆจนคอนเนอร์หัวเราะเกาะเจ้าหนูมิกกี้ไว้แน่น เป็นภาพที่น่ารักจนมาร์คัสต้องบันทึกวิดีโอและเก็บไว้ในระบบ

              แอนดรอยด์ผมเข้มเดินกลับมาพร้อมกับลูกโป่งสีสันสดในมือ รอยยิ้มกว้างบนใบหน้าอีกฝ่ายทำเอาเขาอดไม่ได้ที่ต้องยิ้มตามไปด้วย


              “คุณมาสคอตใจดีมากเลยครับให้ของพวกนี้มาด้วย” ชูที่คาดผมหูมิกกี้เมาส์ในมือก่อนจะหยิบขึ้นมาสวมแล้วหันกลับมาหาแอนดรอยด์ร่างสูงพร้อมเอียงคอ

              “เป็นยังไงบ้างครับ”


              ระบบถ่ายภาพและอัดวิดีโอเขาจะเต็มก็วันนี้แหละ..


              “น่ารักมากเลยครับคุณนักสืบมิกกี้เมาส์”

              “ถ้าตอนนี้ผมเป็นมิกกี้เมาส์ งั้นมาร์คัสก็ต้องเข้ามากอดผมถูกไหมครับ” เอียงคอพร้อมกางแขนออกแล้วแบบนี้มาร์คัสจะปฏิเสธแอนดรอยด์สุดน่ารักตรงหน้าได้ยังไงกัน

              ร่างสูงดึงคุณนักสืบมิกกี้เมาส์เข้ามากอดก่อนจะโน้มลงไปจูบอีกคนก่อนจะผละออกมาไม่ได้ทำอะไรมากไปกว่านั้น คอนเนอร์มองอีกคนตาใสก่อนจะเขย่งบนปลายเท้าขึ้นมาหอมแก้มแอนดรอยด์ตัวสูง


              “รางวัลเด็กดีครับ เพราะผมไม่มีลูกโป่งให้เหมือนคุณมาสคอต” พูดจบก็ลากให้เขาเดินตามไปด้วยอีกทาง


    น่ารักแบบไม่สามารถบรรยายออกมาเป็นคำพูดได้หมด…


              หลังจากเล่นเครื่องเล่นไปเรื่อยๆจนเริ่มเบื่อพวกเขาก็เปลี่ยนมาเดินเล่นตามร้านค้าต่างๆที่ตั้งเป็นโซนอยู่อีกฝากหนึ่งตรงข้ามกับโซนเครื่องเล่น

              ร้านค้าตั้งเรียงรายไม่ใหญ่มากแต่ก็เต็มไปด้วยเอกลักษณ์เฉพาะตัว เหล่าแอนดรอยด์และมนุษย์เดินยิ้มพูดคุยทักทายกัน บางคนที่จำพวกเขาสองคนได้ก็จะเข้ามาคุยด้วยไม่ก็ขอถ่ายรูปโดยเฉพาะตัวเล็กของเขาที่ดูจะป๊อปปูล่าในหมู่สาวๆหนุ่มๆไม่ว่าจะหุ่นหรือคน ส่วนเขาก็คอยมองอยู่ห่างๆหากมีใครรุ่มร่ามเกินควรก็ไม่รอช้าที่จะเข้าไปขวาง


    นั่นแหละครับ…แฟนน่ารักต้องทำใจ


              ในขณะที่กำลังทำหน้าที่บอดี้การ์ดให้คุณนักสืบมิกกี้เมาส์ที่ดูจะเล่นอย่างเพลิดเพลินก็มาหยุดอยู่หน้าซุ้มทดสอบความแม่น หากยิงถูกเป้าจะได้รับของรางวัลเป็นสิ่งตอบแทน
    มาร์คัสขมวดคิ้วมองว่ามาทำอะไรที่ซุ้มนี้แล้วก็ขมวดคิ้วหนักกว่าเดิมเมื่อคนที่เดินมาด้วยหายเข้าไปในซุ้มก่อนจะกลับออกมาพร้อมกับตุ๊กตาหมีหนึ่งตัวแถมยังตุ๊กตาหมีหน้าโกรธซะด้วย


              “คุณหมีหน้าเหมือนมาร์คัสมาก ผมก็เลย…”


    มาร์คัสโน้ตไว้ในระบบว่าเขาจะไปเหมาตุ๊กตาแบบนี้มาให้หมดเมือง…


              “ผมทำหน้าแบบนั้นหรอ” ชี้ตัวเองแล้วชี้ไปยังตุ๊กตาที่อีกคนกอดอยู่ คอนเนอร์พยักหน้ารับหงึกหงัก

              “ครับ ขมวดคิ้วเหมือนกันเลยแต่ผมว่าคุณหมีน่ารักกว่า”


    เปลี่ยนจากซื้อเป็นเผาแทนละกัน…


              “หน้าดุกว่าเดิมอีก ผมล้อเล่นหรอก มาร์คัสต้องดีกว่าคุณหมีอยู่แล้ว”


    จงดีใจไว้ซะเถอะเจ้าหมีวันนี้แกรอดชีวิตไปอีกหนึ่งวัน…


              คอนเนอร์หัวเราะมองแอนดรอยด์ผิวเข้มที่จ้องตุ๊กตาในมือตัวเองราวกับอยากจะให้มันไฟลุกขึ้นมาซะตรงนั้น เดินเข้าไปกอดคอร่างสูงพร้อมเอียงคอแบบที่ชอบทำ


              “อิจฉาคุณหมีหรอครับ” มาร์คัสทำหน้ามุ่ยแล้วยกแขนขึ้นกอดอีกคนไว้แน่น

              “เปล่าซะหน่อย”

              “ผมรักมาร์คัสนะ”


              ดวงตาสองสีมองจ้องตอบดวงตาสีน้ำเข้มก่อนคลี่ยิ้มออกมาบางๆ ก่อนจะก้มล้งไปจูบอีกคนแล้วปล่อยให้หน้าผากชนกันอยู่แบบนั้นสักพัก


              “รักคอนเนอร์เหมือนกันครับ”






              หลังจากเที่ยวจนพอใจและพระอาทิตย์เริ่มคล้อยต่ำลงทั้งสองก็ตัดสินใจกลับบ้านโดยมีเจ้าหมีติดไม้ติดมือกลับมาด้วยแต่กว่าจะมาถึงก็มืดแล้วเพราะคอนเนอร์ต้องแวะไปให้อาหารซูโม่ก่อนจากนั้นถึงเดินทางต่อไปที่บ้านของมาร์คัส


    มุกชวนไปดูหนังที่บ้านยังใช้ได้อยู่นะครับทุกคน…


              “มาร์คัสมีพัสดุมาส่งครับ” ร่างสูงกำลังนั่งเลือกหนังที่จะดูตอนที่ได้ยินเสียงของคนรักก่อนจะเดินออกไปหน้าประตูบ้านซึ่งอีกคนก็ยืนรออยู่ก่อนแล้วพร้อมกับกล่องพัสดุในมือจากนั้นก็ยื่นให้เจ้าของตัวจริง


              “ดูเหมือนว่าของที่สั่งไว้จะมาส่งเร็วเหมือนกันนะครับ” แอนดรอยด์นักสืบว่าพลางหมุนตัวเดินกลับเข้าไปในบ้าน


              “ผมไปรอที่ห้องนะครับ”


              ยังไม่ทันที่จะได้ตอบอะไรอีกฝ่ายก็หายไปเสียแล้วทิ้งเขาให้ยืนอยู่หน้าประตูพร้อมกับกล่องในมือ


    ไม่ต้องเดาก็รู้ว่าอะไรอยู่ในกล่อง…ปลอกคอหนังสีดำพร้อมกับจี้สีเงินสลักตัวอักษรที่เขาสั่งไปเมื่อเช้า


    ถ้าเหมาะแล้วทำไมถึงไม่ซื้อให้ใส่หล่ะครับ


              เดินตามอีกคนที่บอกว่าจะไปรอที่ห้องพร้อมกับปลอกคอในมือโดยที่ไม่ลืมจะปิดทีวีก่อนเพราะดูท่าแล้ววันนี้คงไม่ได้ดูหนังแน่นอน

              ประตูเลื่อนเปิดอัตโนมัติเมื่อเขาเดินมาถึงหน้าห้อง หายใจเข้าลึกถึงแม้ว่าจะไม่จำเป็นก่อนจะก้าวเข้าไป รอบๆห้องนั้นก็เป็นอย่างเดิมเหมือนตอนที่เขาออกไปเมื่อเช้าที่ต่างออกไปก็คงจะเป็นแอนดรอยด์ผมเข้มที่นั่งอยู่บนเตียง

              ดวงตาสีน้ำตาลมองตามร่างสูงที่เดินเข้ามาในห้องพร้อมกับสั่งล็อคประตูก่อนที่จะเดินตรงมาที่เตียง ดวงตาสองสีไม่เคยละสายตาจากร่างเล็กตรงหน้าราวกับราชสีห์ที่เล็งเหยื่อเรียบร้อยแล้วจนมาอยู่อยู่ปลายเตียง

              คอนเนอร์ขยับมาอยู่ตรงหน้าอีกคนแล้วลุกขึ้นนั่งบนเข่า มองสิ่งของในมือกับใบหน้าของคนถือก่อนจะค่อยถอดเนคไทของตัวเองออกพร้อมกับเสื้อยูนิฟอร์มรวมไปถึงปลดกระดุมเม็ดแลกออกเผยให้เห็นลำคอขาวเนียนที่ยังคงมีรอยจากเมื่อเช้าอยู่


              “นายไม่ได้ลบรอยพวกนี้” พูดพลางยื่นมือออกไปสัมผัสเบาๆก่อนจะหันกลับมาสบตากับดวงตาสีเข้มที่มองเขาอยู่แล้ว


              “ก็มาร์คัสบอกว่าชอบนี่ครับ”

              “เด็กดี” คนถูกชมยิ้มเล็กๆตรงมุมปากราวกับเด็ก


              มาร์คัสยื่นมือออกไปลูบแก้มอีกคนเบาๆก่อนจะสวมปลอกคอให้ สีดำตัดกับคอขาวออกมาเป็นภาพที่น่าชม เขายืนมองอีกฝ่ายแบบไม่อาจละสายตา คอนเนอร์เหมาะกับปลอกคอจริงๆ


              “เขียนว่าอะไรหรอครับ” เขายิ้มกับคำถาม


              “Markus’s มันเขียนว่า Markus’s” 


              พูดจบก็ผลักอีกคนให้ล้มไปนอนหงายอยู่บนเตียงส่วนตัวเองก็ไม่รอช้าตามไปคร่อมตัวร่างเล็กไว้พร้อมกับก้มลงไปครอบครองริมฝีปากนุ่มนั่นอีกครั้ง กัดที่ริมฝีปากล่างของอีกฝ่ายเบาๆก่อนจะเข้าไปรุกล้ำด้านใน มือก็ค่อยลูบไล้ไปตามตัวก่อนจะค่อยๆล้วงเข้าไปในเสื้อเชิ้ตแล้วเปลี่ยนเป็นสีขาว แต่แล้วก็ต้องชะงักและผละออกมามองหน้าอีกคน


              “นายเปิดระบบนั่นไว้อยู่แล้ว” รอยยิ้มเล็กๆตรงมุมปากยืนยันคำตอบของเขาได้เป็นอย่างดี

              “Such a good boy for me today.” ไล่พรมจูบไปทั่วใบหน้าแล้วค่อยๆไล่ลงมาตามคางไปจนถึงซอกคอขาวเพิ่มรอยที่มีอยู่แล้วให้ชัดและมากขึ้นกว่าเดิม


              “อะ..Only for you, Daddy.”

              “Fuck! You gonna be the death of me.”


              ไม่ละจากหน้าที่ที่กำลังถามอยู่แต่มันก็อดไม่ได้ที่จะถามออกไปในขณะที่มือก็จัดการกับเม็ดกระดุมก่อนจะเลื่อนไปที่เข็มขัด


              “ไปเอามาจากไหน หื้ม?”

              “ห-เห็นแบบนี้…ผมก็เป็นแอนดรอยด์นักสืบนะครับ” หัวเราะแล้วโยนเข็มขัดของอีกฝ่ายไปตรงมุมใดมุมหนึ่งของห้องแล้วเงยหน้าขึ้นมามองแอนดรอยด์นักสืบที่กำลังยิ้มกรุ้มกริ่มอยู่


              “Do you like it?, Daddy”


              “I going to fucking ruined you tonight.”



              คอนเนอร์อ้าปากข้างเมื่อสัมผัสได้ว่าตอนนี้เขาไม่มีเสื้อผ้าอยู่บนร่างกายเลยแม้แต่ชิ้นเดียวยิ่งไปกว่านั้นคือสัมผัสของนิ้วที่ลูบวนอยู่ตรงช่องทางด้านล่างระหว่างขาของเขา


              “ม-มาร์คัส”

              “Nope, that’s not my name tonight.”

              “D-Daddy…Daddy!”


              แอนดรอยด์ตัวเล็กร้องเสียงหลงเมื่อมีบางอย่างสอดเข้าไปในช่องทางที่ว่าไม่ใช่เพียงแค่หนึ่งแต่ถึงสามแถวยังขยับเข้าออกไปมาราวกับว่ากำลังหาอะไรบางอย่างอยู่


              “หืม..ไซเบอร์ไลฟ์ไม่ได้ใส่เอาไว้หรอ” ใบหน้าหล่อเหลาของผู้นำเจริโค่ขมวดคิ้วเล็กน้อยเมื่อยังไม่เจอสิ่งที่ตัวเองตามหาเพราะเมื่อเช้าทุกอย่างมันดูรีบไปหมดเขาเลยไม่ทันได้สนใจตรงจุดนี้

              ก่อนจะเปลี่ยนเป็นยิ้มทันทีเมื่อสัมผัสไปโดนบางอย่างที่ทำเอาอีกร้องออกมาแทบดีดเสียจนน่ากลัวว่าหลังจะหัก ดวงตาสีเข้มเบิกกว้างอย่างสับสน สองมือกำผ้าปูที่นอนแน่นราวกับต้องการหลักบางอย่างเพื่อยึดตัวเองไว้


              “เจอแล้ว”

              “ม..มาร์ค-…อ๊ะ..แด๊ดดี้..” มือข้างหนึ่งลูบไล้ไปตามเรียวขาขาวในขณะที่อีกมือก็จะคงซุกซนอยู่ในตัวของอีกฝ่ายโดยกระแทกไปยังจุดนั้นที่หาเจอย้ำๆแบบไม่มีการพัก

              “ชะ..ช้าลงหน่อย…ระ..อะ…อา”

              “ว่าไงนะครับ” นอกจากจะไม่ช้าลงแล้วยังขยับเร็วขึ้นด้วยซ้ำจนอีกคนทนไม่ไหวยกมือของตนขึ้นมาหยุดแขนแกร่งเอาไว้ไม่งั้นเขาคงไม่สามารถเรียบเรียงประโยคได้

              “ระ..ระบบผมมัน..อึก…มันร-รวนไปหมด..” คอนเนอร์พูดพร้อมกับหอบหายใจซึ่งสำหรับแอนดรอยด์คือการทำเพื่อระบายความร้อนภายในออกมา


              “คิดอะไรไม่ได้เลย..”

              “ไม่ต้องคิดอะไรทั้งนั้น…

              คิดถึงแค่ฉันก็พอ”


              รวบแขนของทั้งสองข้างที่จับตัวเองอยู่ขึ้นไปไหว้เหนือหัว คว้าเอาเนคที่อีกฝ่ายถอดทิ้งไว้ขึ้นมามัดข้อมมือของแอนดรอยด์ตัวเล็กไว้กับหัวเตียงแทนเชือกก่อนจะผละออกมามองผลงานของตัวเอง คนถูกมัดลองขยับข้อมือดูก็พบว่ามาร์คัสไม่ได้มัดแน่นมากเขาสามารถกระชากหลุดได้ตลอดเวลา แต่อดีตนักล่าดีเวียนท์ก็ตัดสินใจปล่อยมันไว้แบบนั้น

    เพราะเอาตรงๆเขาก็รู้สึกว่าแบบนี้..มันน่าตื่นเต้นดีเหมือนกัน


              “รู้จักสัญญาณสีใช่ไหม”

              “ครับ”


              มาร์คัสโน้มลงไปพรมจูบตามซอกคอขาวอีกครั้งถึงแม้ว่าตอนนี้มันแทบจะไม่เหลือที่ว่างแล้วก็ตาม ในขณะที่มืออีกข้างก็กลับไปทำหน้าที่ของมันตามเคย ร่างเล็กเกร็งขึ้นมาเล็กน้อยก่อนจะค่อยผ่อนคลายปล่อยให้ร่างสูงทำตามใจ


              “Safe word?” หยุดนิ้วของตัวเองเพื่อให้เวลาอีกคนได้คิด

              “H-Hank”


    เซฟจริงๆนั่นแหละ..


              “อะ..มะ..มาร์คัส..” มือกำเนคไทที่มัดอยู่แน่นเมื่อนิ้วพวกนั้นขยับเร็วขึ้นแถมยังกระแทกจุดนั้นถี่จนทำอะไรไม่ถูก เช่นเดียวกับความรู้สึกบางอย่างที่ค่อยๆก่อตัวขึ้น

              “มะ..มาร์คัส ผม…ผม..มาร์คัส มาร์ ~” เจ้าของชื่อมองดวงตาสีเข้มที่แทบจะลืมขึ้น ริมฝีปากพร่ำเรียกชื่อเขาราวกับนั่นคือเส้นชีวิต เสียงนั่นเป็นเสียงที่เพราะยิ่งกว่าบทเพลงใดที่เคยได้ยินมา

              “มาร์คัส! ~” ร่างเล็กกระตุกเกร็ง มือทั้งสองข้างทกำผ้าแน่นจนเปลี่ยนเป็นสีขาวของแอนดรอยด์ ปลายเท้าจิกลงกับเตียง

              
              ร่างสูงโน้มลงไปจูบตามใบหน้าไปจนถึงลำตัวราวกับปลอบปะโลมก่อนจะกลับมาครอบครองริมฝีปากที่เขาหลงใหลนั่นอีกครั้งจนคอนเนอร์ค่อยๆผ่อนคลายลงและระบบกลับมาทำงานเป็นปกติเหมือนเดิม

              มือของเขาถึงค่อยเลื่อนไปกอบกุมส่วนนั้นของอีกคนเอาไว้อีกรอบพร้อมๆกับที่ดวงตาสีหวานเบิกโพลงขึ้นมามองเขาที่กำลังยิ้มกริ่มอยู่


    I going to fucking ruined you tonight.


              เขาพูดเมื่อก่อนหน้าแวบขึ้นมาก่อนที่จะหายไปเมื่อมือนั่นเริ่มขยับขึ้นลงและทำหน้าที่ของมันอีกครั้ง ไล่สติของคอนเนอร์ให้หายจนไม่อาจคิดอะไรได้โดยเฉพาะเมื่อความรู้สึกบางอย่างเริ่มก่อตัวขึ้นจนอดแปลกใจไม่ได้ว่ามันเร็วขึ้นรึเปล่า


              “มนุษย์เรียกว่า Sensitive “

              “ซ-เซ้น…อ๊า..มาร์คัส..”


              เสียงทุ้มต่ำลอยเข้ามาในโสตประสาทแต่เขาไม่สามารถนำข้อมูลที่ได้รับมาประมวลได้ตราบใดที่มือนั่นยังคงไม่ยอมหยุด


    มือที่กำลังจะทำให้เขาเป็นบ้า…


              “มาร์คัส..มาร์คัส! ..อะ..อ๊ะ..เดี๋ยว!” เสียงครางดังขึ้นกว่าเมื่อมืออีกข้างที่ว่างอยู่ของแอนดรอยด์ผิวเข้มกลับไปทำหน้าที่เดิมของมันเพิ่มเติมคือเข้าไปลึกและแรงกว่าเดิม


              “อ๊า~! อ๊า~! แด๊ดดี้~!!!”


              คอนเนอร์กระตุกอย่างแรงหนึ่งครั้งก่อนจะแน่นิ่งไปพร้อมกับหอบหายใจแรง มือและเท้าเกร็งจนกลับไปแสดงผิวที่แท้จริงของแอนดรอยด์ แขนทิ้งตัวตามน้ำหนักมีเพียงเนคไทของตัวเองที่รั้วเอาไว้ให้อยู่กับที่ วงแหวนกระพริบสีเหลืองอยู่ครู่ใหญ่กว่าจะกลับมาเป็นสีฟ้าตามเดิมพร้อมกับที่ดวงตาสีน้ำตาลค่อยๆลืมขึ้นมา

              ขณะเดียวกันมาร์คัสก็ใช่จังหวะนั้นจัดการถอดเสื้อผ้าของตัวเองออกจนหมดแล้วกลับมาอยู่ระหว่างขาของอีกคนตามเดิม


              “Color?” มองแอนดรอยด์ตัวเล็กที่กระพริบตามองเขาสองสามครั้ง

              “Green.”


              ได้ยินแบบนั้นก็ยิ้มกว้างแล้วค่อยๆใส่ของตัวเองเข้าไปแทนนิ้วจนสุด มองอีกฝ่ายที่อ้าปากค้างแต่ไม่มีเสียงอะไรเล็ดลอดออกมา ก่อนจะเริ่มขยับสะโพกของตนแล้วเร่งจังหวะขึ้นและแรงขึ้นจนได้ยินเสียงเตียงที่ชนเข้ากับผนังห้อง


              “มาร์คัส! มาร์คัส!..แด๊ดดี้! ~”


              ร่างเล็กครางไม่ได้ศัพท์เพราะตอนนี้ทุกอย่างมันเกิดกว่าที่ระบบของเขาจะประมวลไหวแต่ก็ทำอะไรไม่ได้นอกจากรับสิ่งที่อีกคนมอบให้

              เพราะรู้ดีว่าตอนนี้อีกคนเป็นในสิ่งที่มนุษย์เรียก Overstimulation ทำให้เขาใส่ทุกอย่างแบบไม่มีการออมแรงยกขาข้างนึงของคอนเนอร์ขึ้นพาดบ่าเพื่อปรับมุมหาจุดนั้นในตัวก่อนจะยิ้มกว้างเมื่อหาเจอแล้วคนรักกรีดร้องออกมา


              “อ๊า! มาร์คัส! มาร์คัส~!!!.”


              ดวงตาสองสีมองคนใต้ร่างที่กระตุกไปอีกรอบแต่เพราะตอนนี้ความรู้สึกทุกอย่างทำให้เขาไม่สามารถหยุดได้นอกจากใส่เข้าไปให้เต็มที่กว่าเดิม


              “มาร์คัส..มาร์คัส..” น้ำสีใสไหลออกจากดวงตาที่ปิดสนิทพร้อมกับเสียงอ่อนแรงที่พร่ำเรียกชื่อเขา


              ก้มลงจูบอีกครั้ง มือข้างที่ว่างยื่นไปประสานกับมือเรียวของอีกฝ่ายส่งผ่านความรักและความรู้สึกทั้งหมดที่มีให้แก่กัน


              “One more...”

              “I-I c..can’t..please..It’s too much.”

              “One more..One more time for me.”


              มือละจากเนินขาขาวที่ตอนนี้มีรอยนิ้วมือของเขาประดับอยู่ไปกอบกุมแก่นกายของร่างเล็กอีกครั้งแล้วเริ่มขยับไปตามจังหวะกระแทกของเขา


              “อะ..มาร์คัส”

              “อา..คอนเนอร์..รัก..รักที่สุด” ก้มลงไปจูบแล้วจรดหน้าผากของตนไว้กับอีกฝ่ายถ่ายทอดความรู้สึกทั้งหมดที่มีให้ได้รู้ เขารู้ได้ว่าเขาใครจะถึงจุดนั้นแล้วอีกคนก็คงไม่ต่างกัน

              “รัก..ผมรักมาร์คัส..อึก…รักมาร์คัส..มาร์คัส! มาร์คัส! อ๊ะ.อ๊า!!! ~”

              “คอนเนอร์!”


              ร่างสูงใช้แขนของตัวเองยันเอาไว้ไม่ให้หล่นลงไปทับแอนดรอยด์ข้างใต้ที่กระตุกและร้องออกมาเสียงดังก่อนจะแน่นิ่งไป มาร์คัสแกะเนคไทออกแล้วขยับไปนอนด้านข้างพร้อมทั้งดึงอีกคนเข้ามาแนบอก มือลูบไล้แก้มอย่างเบามือ

              “คอนเนอร์?” เมื่อไม่ได้รับการตอบรับร่างสูงก็เกิดเป็นห่วงขึ้นมาจึงเข้าไปในระบบของอีกฝ่ายเพื่อเช็คดู


    Forced Deactivated Sexual Function…
    Status System : Low Battery Mode…
    Reboot System Time : 1.30 Hrs…



              มาร์คัสกระพริบตามองคนในอ้อมกอดของตัวเองก่อนจะหัวเราะออกมาเบาๆแล้วเอื้อมไปหยิบผ้าห่มขึ้นมาคลุมแล้วจูบหน้าผากอีกคนเบาๆ


              “ขอโทษนะครับ”


    ระบบชัทดาวน์ชั่วคราวอัตโนมัติ…


    ครั้งนี้คงทำแรงไปจริงๆนั่นแหละ…




    ขณะเดียวกัน…



              “คอนเนอร์! ไงซูโม่ เป็นเด็กดีรึเปล่าห๊ะ” มือหน้าปิดประตูบ้านแล้วตรงเข้าไปทักทายเจ้าหมาตัวใหญ่ที่วิ่งเข้ามาหาพร้อมกับคาบอะไรบางอย่างมาด้วย

    เสื้อ?


              เสื้อเชิ้ตสีขาวแบบนี้ทั้งบ้านมีคนเดียวที่ใส่ ผู้หมวดหรี่ตามองไปรอบๆบ้านที่ดูเหมือนว่าไม่มีคนอยู่ ราวกับว่าสัญชาตญาณนักสืบที่มียังคงพอใช้ได้ทำให้เขาสังเกตเห็นกระดุมตกบนโซฟารวมไปถึงบริเวณพื้นรอบๆซึ่งก็น่าจะมาจากเสื้อตัวเดียวกันกับที่เขาถืออยู่


    เสื้อถูกกระชากแบบไม่ต้องสงสัย…
    ดึกป่านนี้แล้วยังคงไร้วี่แววคู่หูพ่วงสถานะลูกชายบุญธรรม…




              “ไอ้หุ่นหัวเกรียนนั่น! มันเอาจนได้สิน่า!!!!!!”







    จบแล้ววววววว
    คือมันยาววววมากจีๆ
    ขอบคุณทุกคนที่ตามกันมาจนถึงพาทนี้นะคะ
    เลิฟคนอ่านน้า //โบกป้ายไฟน้องคอน




















Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in
ขี้ชิปว่ะ (@Shadow_swing254)
ดีงามพระรามแปด สนุกมากค่ะ
b_khamphithak (@b_khamphithak)
อืม~~น้องคอนเนอร์ แม่จะไม่ไหวแล้วนะลูก. (อ่อยได้อีกอ่อยได้อีกลูกของแม่นั้นอ่อยได้อีก) มาร์คัสหนูก็เหมือนกันนะอย่ารังเกน้องสิค่ะลูก. (ทำดีมากมาร์คัสสสส)
dome02704 (@dome02704)
งานดี ?
b_khamphithak (@b_khamphithak)
@dome02704 เห็นด้วย