เทคนิคเลือกที่ดินให้มงคลพร้อมทิปส์ตรวจดูลักษณะของที่ดินต้องห้าม!
การเลือกซื้อที่ดินนั้นนอกจากการคำนึงถึงเรื่องของราคาที่เป็นสิ่งสำคัญแล้ว อีกหนึ่งปัจจัยที่มองข้ามไม่ได้เลยคือเรื่องของลักษณะที่ดิน
เลือกที่ดินยังไงให้มงคล?
1. ที่ดินรูปสี่เหลี่ยม
ลักษณะที่ดินที่เหมาะสมแก่การครอบครองคือที่ดินที่เป็นสี่เหลี่ยมด้านเท่าหรือมีด้านกว้างและด้านยาวไม่ต่างกันมากนัก ซึ่งสิ่งที่สำคัญคือที่ดินไม่ควรมีส่วนโค้งเว้า แหว่ง หรือด้านใดด้านหนึ่งขาดหายไป เพราะลักษณะของที่ดินที่สมบูรณ์นั้นมีความเชื่อว่าจะเป็นเสมือนถุงเงินถุงทองที่เก็บทรัพย์สมบัติให้พอกพูนและดูดโชคลาภให้เข้ามาหาผู้ที่ครอบครองที่ดินมากยิ่งขึ้น
2. ที่ดินข้างหลังเป็นตึก
การเลือกซื้อที่ดินที่ข้างหลังเป็นตึกนั้นตามความเชื่อแล้วจะเปรียบเสมือนการได้รับการสนับสนุน มีที่พึ่งพิง และจะทำให้คนที่เป็นเจ้าของที่ดินผืนนั้นได้รับการช่วยเหลืออยู่เสมอ เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งความเชื่อในเรื่องของความสำเร็จนั่นเอง
3. ที่ดินควรราบเรียบเท่ากันทั้งผืน
หากที่ดินผืนไหนที่ตั้งใจไว้แล้วว่าจะเลือกซื้อเพื่อสร้างที่อยู่อาศัย ควรจะเลือกลักษณะหน้าดินที่มีความราบเรียบสม่ำเสมอเท่ากันทั่วทั้งพื้นที่ เพราะการเลือกที่ดินที่มีลักษณะด้านหน้าสูงกว่าด้านหลังตามความเชื่อกล่าวไว้ว่าส่วนพื้นดินที่สูงจะทำให้บดบังความโชคดี การเงินขัดข้อง และมักจะต้องเผชิญกับความยากลำบาก และพื้นดินที่ต่ำหรือเป็นหลุมบ่อจะกักเก็บความโชคร้าย เกียรติยศเสื่อมถอย แถมการเงินโชคลาภก็ไม่เจริญงอกงามอีกด้วย เพราะถึงว่าเป็นการสร้างบ้านจมดิน
4. ที่ดินที่มีแม่น้ำไหลผ่าน
อีกหนึ่งเทคนิคการเลือกซื้อที่ดินมงคลที่ถือเป็นสัญลักษณ์ของความเฮง เงินทองไหลมาเทมาคือที่ดินที่มีแม่น้ำไหลผ่าน แต่มีข้อแม้ว่าต้องเป็นแม่น้ำที่มีความสะอาดเท่านั้น ถึงจะสามารถช่วยเสริมดวงเรื่องฮวงจุ้ยได้ โดยอีกหนึ่งความหมายคือความอุดมสมบูรณ์ ความชุ่มชื่น ความสดชื่น อีกด้วย
5. ที่ดินที่มีต้นไม้ต้นหญ้าเจริญงอกงาม
ลักษณะของที่ดินที่มีการเจริญเติบโตของต้นไม้ต้นหญ้าในบริเวณนั้น แสดงว่าที่ดินผืนนั้นข้างใต้มีความอุดมสมบูรณ์อยู่ แต่หากเป็นพื้นที่แตกระแหงมีแต่ทรายแห้งๆ เท่ากับเป็นพื้นที่ที่ขาดความอุดมสมบูรณ์ ในขณะเดียวกันพื้นที่ที่เปียกแฉะเกินไป ก็ไม่ควรซื้อเพื่อปลูกบ้านเช่นกันเพราะในอนาคตอาจเกิดอาการบ้านทรุดได้
ลักษณะของที่ดินต้องห้าม!
1. ที่ดินตาบอด
ความหมายของที่ดินตาบอดคือลักษณะที่ดินที่ถูกล้อมไว้ทุกด้าน ไม่มีทางออกที่สะดวก โดยในทางปฏิบัตินั้นก็จะหมายถึงความลำบากในการสัญจรเข้าออก และในทางความเชื่อเองก็หมายถึงการกักเก็บสิ่งที่ไม่ดีเอาไว้ในที่ดินผืนนั้นๆ ไม่มีเส้นทางให้สิ่งดีๆ ไหวเวียนเปลี่ยนเข้ามา โดยวิธีการตรวจสอบตำแหน่งที่ดินเบื้องต้นได้โดยนำเลขที่โฉนดไปตรวจสอบกับกรมที่ดิน หากพบว่ามีเลขที่ดินล้อมอยู่อาจเป็นไปได้ว่าที่ดินไม่มีทางเข้า-ออก
2. ที่ดินพื้นนุ่ม ไม่แน่น
ในทางทฤษฎีนั้นที่ดินที่มีลักษณะหน้าดินนุ่ม ยวบ จะไม่เหมาะแก่การอยู่อาศัยเป็นอย่างยิ่ง เพราะอาจทำให้เกิดการทรุดตัวของหน้าดิน ส่วนทางความเชื่อนั้นพื้นที่ที่ดินไม่มีความแน่นหนาหมายถึงจะทำอะไรก็มีแต่ล้มละลาย ธุรกิจอับเฉา อยู่อาศัยก็ไม่เจริญ ไม่มีความสุข
3. สิ่งแวดล้อมไม่เหมาะสม
อีกหนึ่งประเภทของที่ดินที่ไม่ควรลงทุนคือที่ดินที่เคยเป็นแหล่งสะสมพลังงานด้านลบๆ มาก่อน เช่น ที่ดินที่เคยเป็นสุสาน โรงพยาบาล โรงฆ่าสัตว์ เป็นต้น เพราะตามความเชื่อแล้วพลังงานด้านร้ายๆ จะทำให้การอยู่อาศัยหรือลงทุนทำธุรกิจต่างๆ ไม่ประสบผลสำเร็จ
4. รูปทรงที่ดินที่ไม่สมบูรณ์
อย่างที่กล่าวไปข้างต้นแล้วว่ารูปทรงที่ดินที่น่าอยู่คือรูปสี่เหลี่ยมที่สมบูรณ์ ดังนั้นที่ดินต้องห้ามที่ไม่ควรซื้อคือที่ดินที่มีความเว้าแหว่ง ที่ดินรูปสามเหลี่ยม ที่ดินรูปวงรี ซึ่งที่ดินรูปทรงนี้นอกจากจะไม่ถูกต้องตามหลักฮวงจุ้ยแล้ว ทางด้านการของใช้สอยเองก็ไม่สะดวก เพราะจะทำให้วางโครงสร้างอาคารหรือการใช้งานต่างๆ มีปัญหาตามมาด้วย
5. ตำแหน่งที่ดินดูไม่ปลอดภัย
ตำแหน่งที่ดินที่ดูไม่ปลอดภัยหลักๆ ที่คนส่วนใหญ่รู้กันคือทางสามแพร่ง เพราะนอกจากจะเป็นบริเวณที่มีความเสี่ยงสำหรับการเกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้งแล้ว ตามความเชื่อเองทางสามแพร่งนั้นยังเป็นที่เปิดรับพลังงานร้ายจากทั้งสามทิศที่จะพุ่งมาชนที่ที่ดินบริเวณนั้นอีกด้วย
และทั้งหมดนี้คือเทคนิคการเลือกที่ดินให้มงคลพร้อมทิปส์ตรวจดูลักษณะของที่ดินต้องห้าม เพื่อเป็นความรู้เบื้องต้นสำหรับใครที่อาจจะไม่เคยรู้มาก่อนว่าการจะเลือกซื้อที่ดินนั้นนอกจากจะมีเรื่องของราคาที่สำคัญแล้ว ยังมีเรื่องของศาสตร์ความเชื่อต่างๆ ที่เข้ามาเกี่ยวข้องด้วย ลองศึกษาสิ่งเหล่านี้ไว้เพื่อที่จะได้เป็นแนวทางสำหรับการเลือกซื้อที่ดินครั้งต่อไปให้มีแต่ความเฮง เฮง เฮง!
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in