เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
เรื่องเราเล่า "ความ"Suwat Posayawatanakul
ความที่เรา...รู้จักกันไม่ดีพอ
  • เรื่องราวหลายอย่างดูวุ่นวายสับสน

    เพราะเรารู้จักกันไม่ดีพอ

    ไม่รู้ว่านิสัยใจคอเธอเป็นอย่างไร

    ไม่รู้ว่าเธอรักชอบแบบไหน

    ไม่รู้ว่าทำอย่างไรเธอถึงจะพอใจกับสิ่งที่เราทำ

    ไม่รู้ว่าเมื่อเธอเกรี้ยวกราด อารมรณ์แปรปรวน จะห้ามปลามเธอได้อย่างไร

     

    ไวรัส COVID-19 ระบาดอย่างรวดเร็ว

    เริ่มต้นเราไม่รู้ว่ามันแพร่กระจายอย่างไร

    มันมีระยะฟักตัวนานแค่ไหน

    แล้วมันจะปันใจรักคนอื่นมากกว่าใคร

    หรือรักทุกคนเท่ากันแบบไม่เลือกหน้า

    เราจะมีวิธีป้องกันมันอย่างไร

    ถ้าเรากลายเป็นผู้ติดเชื้อเราควรจะทำตัวอย่างไร

    แต่ถ้าโชคร้ายตนเองและครอบครัวล้มป่วย จะรักษาให้หายขาดได้มั้ย

    แล้วถ้ารักษาหาย  ปอดเรา จะยังคงสภาพใช้งาน หายใจได้ดีเหมือนเดิมหรือไม่


    เพราะเราอาจรู้จัก COVID-19 ไม่ดีพอ

     

    ยิ่งคบหากันนานมากขึ้นเราเริ่มรู้จักนิสัยใจคอกันมากขึ้น

    เราเริ่มเข้าใจนิสัยแย่ๆ สันดานต่ำตมของกันและกันมากขึ้น

    รู้ว่าเธอคิดอะไร เธอจะทำอะไร

    เราจะเริ่มจัดการกับความรู้สึกของกันและกันได้มากขึ้น

    ยอมรับแล้วปรับตัวหรือ ถอยห่างแล้วเลิกรา

     

    ทุกชีวิตที่ร่วงหล่นราวใบไม้ร่วงในแต่ละวันจาก COVID-19

    เป็นข้อมูลให้นักวิทยาศาสตร์ได้เรียนรู้

    เรารู้จักกันมากขึ้น

    ทั้งที่อยากจะถอยห่างแล้วเลิกรา แต่กลับใกล้ตัวมากขึ้นทุกที

    ยอมรับแล้วปรับตัวเพื่อต่อสู้ อยู่ร่วมกับมัน กลายเป็นทางเลือกที่ไม่มีให้เลือก

     

    COVID-19 อาจไม่ใช่ไวรัสระบาดกลายพันธุ์ธรรมดา

    อาจจะเป็นอาวุธชีวภาพ หรือไวรัสที่ทำให้คนทั้งเมืองกลายเป็นซอมบี้คลั่ง อย่าง resident evil

     

    เริ่มจากคนแค่คนเดียว

    เริ่มจากคนที่ไม่พยายามจะรู้จักมันให้ดีพอ

    เริ่มจากคนที่ประมาทเลินเล่อ หรือขาดจิตสำนึกต่อสังคม

     

    ความไม่รู้ บางครั้ง นำไปสู่ความเข้าใจผิดๆ

    ความอยากเอาชนะ ทำให้ยึดมั่นในสิ่งผิดว่าเป็นถูก

    แล้วสร้างความผิดพลาดอันใหญ่หลวง

     

    ภาพคุณปู่ ลีมานฮี ผู้ก่อตั้งและผู้นำสูงสุดของลัทธิโบสถ์แห่งพระคริสต์ชินชอนจี คุกเข่าขอขมาต่อสังคม ยอมรับผิด ด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ ที่สมาชิกกลายเป็นต้นเหตุการแพร่ระบาดอย่างหนักในสังคมเกาหลีใต้ทุกวันนี้ ทำให้รู้สึกเศร้าใจ สับสนระหว่างความเห็นอกเห็นใจจากความไม่รู้  หรือ ตราหน้าว่า ฆาตกร จากความประมาท

     

    ความรู้ จะนำไปสู่ปัญญา

    รู้ว่าอะไรควร อะไรไม่ควร 

    อะไรถูกและอะไรผิดด้วยจิตสำนึกที่พึงมี

     

    รู้ว่าหน้ากากอนามัยอาจไม่ได้มีประโยชน์มากนักสำหรับประชาชน หากไม่ได้มั่วสุมชนหัว เตร็ดเตร่ในที่ชุมชนหรือ ชุมนุมรวมพลให้คนมาลากจูงจมูก

     

    รู้ว่าหน้ากากอนามัยจำเป็นอย่างยิ่งสำหรับบุคคลาการทางแพทย์ในโรงพยาบาล ที่ต้องพบปะผู้ป่วย เหล่านักท่องเที่ยวที่ยังคงเริงร่าประสงค์เที่ยวก่อน พาคนอื่นไปตายทีหลังไม่ว่ากัน และผีน้อยที่มีขา แต่ปากยังคงคมกริบ เธอยิ่งพูดเรายิ่งรู้ว่า เธอไม่รู้อะไรอีกมากมาย

     

    รู้ว่าเราควรรับผิดชอบต่อสังคมและครอบครัวตนเอง  ด้วยการกักตัวให้ห่างจากสังคมและครอบครัวตนเอง อย่างน้อย 14 วัน ถึงแม้ว่าไม่มีไข้

     

    รู้ว่าการตรวจเชื้อในระยะฟักตัวอาจไม่เจอเชื้อ แต่ไม่ได้หมายความว่า ไม่ได้ป่วย และเชื้อจะไม่สามารถแพร่กระจายให้คนอื่นรวมทั้งลูกหลานตนเองได้

     

    ผมได้แต่ภาวนาว่า

    ผีน้อยที่ออกท่องเที่ยวจะไม่ติดเชื้อ แล้วแพร่กระจายให้คนที่เขารัก คนที่เขายอมเหนื่อย ตรากตรำข้ามน้ำข้ามทะเลไปหาเงินมาเลี้ยงดูครอบครัวให้มีชีวิตที่ดีขึ้น  แต่กลับต้องพังทะลายด้วยความไม่รู้ของตนเองที่เอาเชื้อมาเป็นของฝากราคาแพง

     

    นักท่องเที่ยวไทยที่กลับจากประเทศกลุ่มเสี่ยงหรือแม้กระทั่งแวะพักจอดในประเทศที่เสี่ยง จะยอมกักตัวอยู่กับบ้านอย่างสงบ ใช้ชีวิตห่างจากครอบครัวเพื่อความปลอดภัยของคนที่เรารักเช่นกัน

     

    นักฉวยโอกาสจะไม่กักตุนสินค้า ย้อมแมวขาย ส่อความเห็นแก่ตัว มักง่าย ที่ฝังแน่นอยู่ในสันดานเพื่อผลประโยชน์ตนเอง 


    อยากให้ใช้จิตสำนึกที่ดีต่อสังคม เก็บกักปีศาจร้ายในจิตใจ ไม่ให้ออกมาเพ่นพ่านทำร้ายประชาชน

     

    ทั้งนี้ อาจเป็นเพราะเรารู้จักกันไม่ดีพอ

    ไม่รู้จัก COVID-19

    ไม่รู้จัก ปีศาจร้ายในจิตใจเธอ


    ไม่แน่นะ เมื่อรู้จักกันดีพอ  เราอาจ...ไม่อยากรู้จักเธอ

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in