เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
I’m all ears.thime_ss
พูดอะไรบ้างสิ .. ?
  • ฉันเรียนภาษาญี่ปุ่นมาจนถึงตอนนี้ 
    ฉันอยู่ปี 2 แล้วนะ ตอนเริ่มเข้ามาในครั้งแรก ฉันดูเป็นที่สนใจของเพื่อนๆ ฉันมีกลุ่มของฉัน กลุ่มใหญ่ของรุ่นเลยก็ว่าได้ 

    ชีวิตฉันเหมือนกำลังจะไปได้ดี 

    ฉันเรียนรู้ไวการเรียนของฉันเลยไม่ใช่เรื่องที่ยากลำบากมากนักในช่วงแรก ฉันมีทั้งเพื่อนมากมาย มีทั้งแฟน แถมผลการเรียนก็ออกมาไม่แย่ซะด้วย .. น่าอิจฉาจริงๆนะ 

    แต่เหมือนฉันจะคว้ามันไว้ไม่ได้..

    ฉันรู้สึกเหมือนเป็นส่วนเกินมากๆในกลุ่มของฉัน 
    มีหรือไม่มีก็ได้ ฉันไม่เคยไปแฮงค์เอ้าท์กับเพื่อนในกลุ่ม
    ฉันไม่กินเหล้า ไม่สูบบุหรี่หลังจากที่คบกับแฟนคนนี้ 

    แต่พวกเขาไม่ 

    ฉันไม่โทษพวกเขาหรอกนะที่มีไลฟ์สไตล์แบบนั้น ฉันแค่เพียงแต่ปฏิเสธไป พูดตรงๆแล้วฉันไม่อยากให้แฟนของฉันต้องเป็นห่วง ฉันย้ายมาอยู่บ้านแฟนตั้งแต่เข้ามหาลัย

    โชคดีที่ครอบครัวของแฟนอ้าแขนรับฉันอย่างเต็มใจ 

    ไม่ว่าฉันจะทำอะไรฉันจะนึกถึงแฟนของฉันเสมอ 
    ฉันจะบอกกับทุกคนเสมอว่าฉันเลือกแฟนนะ เพราะในเวลาที่ฉันไม่เหลือใคร เวลาที่ฉันลำบาก ฉันมีแค่เขาคนเดียวจริงๆ ถ้าฉันจะไปเที่ยวกลางคืนหรือทำอะไรที่ทำให้แฟนของฉันรู้สึกเหมือนอยู่คนเดียวหรือทำให้เขาเป็นห่วง เลือกได้ฉันก็จะไม่ทำมันเด็ดขาด 

    แต่ก็อย่างว่า .. ถ้ามันเข้ากันไม่ได้มันจะอยู่ด้วยกันได้หรอ 
    นานพอที่ฉันจะรู้สึกว่า ‘เดินรั้งท้ายไม่เคยสนุก’ 
    ฉันอึดอัดที่เพื่อนของฉันก็เหมือนไม่เห็นฉันในสายตา 

    จนปัจจุบันนี้ฉันถึงรู้ว่าพวกเขาก็ด่าฉันลับหลังเช่นกัน 

    อ่า .. เล่นตลกกับฉันอีกนะ 
    ฉันเครียดมากในช่วงนั้น ฉันเข้ามาเรียนไม่ถึง 1 ปี จะไม่มีเพื่อนคบแล้วหรอ ? มองหาใครก็เหมือนมองไม่เห็น
    ต่างคนต่างมีกลุ่มของตัวเอง มีเพื่อนสนิทของตัวเอง จนฉันคิดว่าฉันคงไม่ขอไปคั่นกลางหรืออยู่ดีๆก็เดินเข้าไปขออยู่ด้วยหรอกนะ .. พวกเขาคงไม่ชอบใจฉันสักเท่าไหร่

    ฉันตัดสินใจอยู่คนเดียวอีกครั้ง ใครอยากไปให้ไปด้วยก็ไป ใครไม่ชวนก็ไม่ไป ข้างกลางวันเหงาๆที่นั่งกินคนเดียวบ้าง มีคนมานั่งกินบ้าง 

    จริงๆฉันสนิทกับเฮดของรุ่นนะ 

    เหมือนฉันกับเขาจะเข้าใจกันเป็นพิเศษเพราะอาจารย์จะใช้งานมากกว่าคนอื่น 55555 และแน่นอนว่าเฮดไม่ใช่ที่ชื่นชอบของเพื่อนเท่าไหร่นัก .. ทำไมฉันจะไม่รู้ ด้วยหน้าที่ที่ต้องจู้จี้จุกจิกตามเช็คเป็นเด็กอนุบาล ฉันอดเหนื่อยแทนไม่ได้ 

    เพราะสิ่งที่ได้ตอบแทนมาเหมือนจะเป็นความเกลียดชัง?

    ช่วงนั้นฉันก็อยู่กับเฮดบ้างอยู่คนเดียวบ้าง
    หลายๆครั้งที่เฮดมาปรึกษาฉันว่าควรจัดการปัญหานี้ยังไง หรือมาปรึกษาว่าควรแจ้งเรื่องนี้กับเพื่อนตอนไหน หรือจะทำยังไงกับงานนี้ดี ฉันให้คำแนะนำไปเสมอจนบางทีก็อดคิดไม่ได้เลยว่า ‘ตูเป็นเฮดหรอวะ 5555’ 

    ฉันใช้ชีวิตแบบนั้นไปเรื่อยๆจนถึงวันรับน้อง

    ใครๆต่างก็รู้ว่าฉันสามารถวาดรูปได้นะ จริงๆในสาขาฉันมีคนวาดรูปเก่งเยอะแยะมาก แต่เพราะเขาไม่ได้ออกมาโชว์ตัวให้ใครเห็นเหมือนอย่างฉัน 

    ฉันได้เป็นเฮดฝ่ายศิลป์ในวันรับน้อง

    และได้รู้จักกับเพื่อนใหม่ที่บางทีฉันก็สงสัยว่า ‘มีคนๆนี้อยู่ในรุ่นเราด้วยหรอเนี่ย’ เหมือนได้เปิดโลกใหม่ จากเดิมที่มีแต่กลุ่มของฉันเท่านั้น เราช่วยกันทำงานอย่างหนัก เรียกได้ว่าหนักโคตรๆ เพราะฝ่ายศิลป์มีไม่ถึง 10 คนด้วยซ้ำ 

    แน่นอน .. กลุ่มของฉันเป็นฝ่ายสันทนาการน่ะนะ

    ฝ่ายสันทนาการที่เรียกร้องให้คนในสาขามาซ้อมกันบ้าง ขู่เข็ดกันสารพัด บางทีก็ดึงตัวฝ่ายศิลป์ไปให้ไปช่วยกันซ้อมสันฯหน่อย ซึ่งฉันก็อดไม่ได้จะหันมามองงานฝ่ายศิลป์กองโตที่ไม่มีฝ่ายสันฯมาช่วยหรือมาถามไถ่เลยด้วยซ้ำ? 

    ฉันเริ่มต่อรองว่าขอซ้อมบูมอย่างเดียวได้ไหม 
    ไม่งั้นงานคงไม่เสร็จ พวกเขาก็โอเค 
    แต่ฉันก็นิสัยเสียอีกตามเคย 55555 ฉันไม่โอเคมากๆที่กลุ่มของฉันขู่หรือออกแนวกระแนะกระแหนในแชทกลุ่มเพราะบางคนไม่ได้มากัน ทั้งๆที่เพื่อนอีกคนในกลุ่มของฉันก็ยังไม่เคบมาซ้อมสักวัน แต่ปกป้องให้เสมอ .. 

    สองมาตรฐานอีกแล้วนะ 

    ฉันหงุดหงิดจริงๆ อย่างน้อยก็ควรไปเตือนเพื่อนตัวเองบ้างนะว่าทำไมไม่มาทั้งๆที่เพื่อนคนนั้นเป็น ‘เฮดสันฯ’ บ้าไปแล้ว

    ฉันบ่นให้เพื่อนๆฝ่ายศิลป์ฟังอย่างอดไม่ได้ พวกเขารับฟังและเห็นด้วยกับฉัน ฉันหัวเราะและบอกเขาไปว่า ถ้าฉันพูดแบบนี้กับพวกเขา พวกเขาต้องแบนฉันออกจากกลุ่มแน่ๆเลย 

    ‘ก็มาอยู่กับพวกกูสิ’ 

    ... ฉันเงียบไปสักพัก รู้สึกเหมือนมีความหวังกลายๆแต่ฉันรู้สึกไม่อยากไปคั่นกลางหรือทำให้กลุ่มเขามีการเปลี่ยนแปลงเพราะมีฉันเพิ่มเข้ามา ทำได้แค่หัวเราะให้ไป 

    ตั้งแต่รับน้องฉันก็อยู่กับฝ่ายศิลป์ตลอด เพื่อนๆในฝ่ายนี้นิสัยดีทุกคน เอาง่ายๆฉันรู้สึกสบายใจเป็นบ้า ที่ได้รู้จักกับพวกเขา 

    มีคนหนึ่งในกลุ่มนั้นที่ยังคอยถามฉันตลอด ฉันคิดมาตลอดว่าเขาพูดเล่นเรื่องที่ให้ฉันไปอยู่ด้วย

    ป่าวนะ .. เขาจริงจังพอสมควร 

    เขาเล่าให้ฉันฟังมากมายว่าไม่มีใครชอบกลุ่มเดิมของฉันเลย ทุกคนดูไม่เป็นมิตรกับใคร ดูเสแสร้ง ซึ่งเป็นสิ่งที่ฉันไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่ากลุ่มฉันถูกมองแบบนั้นตลอด ฉันตกใจมากๆ แต่ที่ตกใจกว่านั้นคือคำพูดของเพื่อนคนเดิม 

    ‘พวกกูมองมึงตลอดแหละ ทั้งตอนที่มึงออกห่างจากพวกนั้น ยังคุยกันอยู่เลยว่าให้เอามึงเข้ากลุ่มมา’ 

    WTF !? ฉันตกใจมากๆกับสิ่งที่เขาบอก อดตื้นตันไม่ได้จริงๆที่มีคนให้ความสนใจถึงขนาดดูออกว่าฉันตีตัวออกห่างมา ฉันคิดเพียงแค่ว่าอยู่ตรงไหนแล้วสบายให้อยู่ตรงนั้น

    ปัจจุบันเราเป็นเพื่อนกลุ่มเดียวกันนะ :) 

    ชีวิตของฉันเปลี่ยนไปอีกครั้ง ฉันมีเพื่อนที่ดีแบบที่ไม่เคยมีมาก่อน แต่ที่ดีใจที่สุดน่ะหรอ .. ฉันมีแชทกลุ่มครั้งแรก 

    แชทในฝันของฉัน .. คือแชทที่มีเพื่อนๆมาคุยกันทุกวัน
    ตอนนี้ไม่ใช่ความฝันแล้วนะ .. น้ำตาคลอเลยหล่ะ 


    ฉันมีความสุขมาตลอด 
    จนถึงตอนที่ฉันกำลังจะล้มลงอีกครั้ง 

    ฉันกำลังรู้สึกท้อแท้ในการเรียนภาษาญี่ปุ่น .. 

Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in