Board game renaissance in digital era.
การกลับมาของบอร์ดเกมในยุคดิจิตอล ทำไมในยุคที่อะไรก็เป็นดิจิตอลไปหมดแล้ว ของที่อนาล๊อคอย่างบอร์ดเกมถึงจู่ๆบูมขึ้นมา ?
ปี 2016 ยุคที่อะไรๆก็ต้องเป็นดิจิตอลไปหมด สำนักพิมพ์ปรับตัวเริ่มออกหนังสือเป็น E book เอกสารหรืออะไรพวกนี้ก็โยนขึ้น Cloud ไปซะ การทำธุรกรรมก็ไม่ต้องไปธนาคารอีก คลิกมือถือไม่กี่ทีก็เสร็จแล้ว ทุกอย่างเรียกร้องหาความว่องไว แม่นยำไปเสียหมด
แต่ในช่วงปีนี้ หรือสองสามปีที่ผ่านมา หากคุณอยู่กรุงเทพแล้วได้มีโอกาสผ่านแถว เพลินจิต จุฬา สุขุมวิท ในย่านรถไฟฟ้าผ่าน คุณคงอาจจะได้เห็นร้านคล้ายๆคาเฟ่ที่มีคนนั่งอยู่จำนวนนึง แต่ละโต๊ะต่างมีของบางอย่างวางอยู่ บ้างเป็นการ์ด บ้างเป็นหุ่นพลาสติกตัวเล็ก บางโต๊ะอาจมีแค่กระดาษคนละแผ่นพร้อมดินสอ แต่สิ่งที่ทุกคนทำคือความเฮฮา สนุกสนาน พูดคุยกัน น่าสงสัยว่าอีหมากไม่กี่ตัว หรือแค่กระดาษไม่กี่ใบทำคนหัวเราะได้ขนาดนั้นเลยเหรอ นั่นหละครับ Tabletop Board game
ถ้าจะใช้คำว่า Tabletop Board game ตัวผมก็อาจจะบอกได้ว่าเล่นมาตั้งแต่ประถม คือจำพวกการ์ดเกมนั่นหละ (ยูกิ ซัมมอนเนอร์ Magic the gathering , etc.) แต่ถ้าจะบอกว่าผมรู้สึกการมาถึงของบอร์ดเกมก็คงจะเป็นช่วงราวๆ สักปี 2010 ตอนนั้นมีรุ่นน้องที่มหาลัยหอบบอร์ดเกมเช่น Dominion , Bang มาเล่นที่มหาลัยผมเองยังเข้าไปนั่งเล่นด้วยบ่อยๆ
ตอนที่ผมไปฝึกงานที่เยอรมันนี ประเทศแห่งบอร์ดเกม เมืองที่ผมอยู่เป็นเมืองเล็กๆ ห้างก็ไม่ได้ใหญ่อะไร แต่แผนกของเล่นนั้น จะมีชั้นวางบอร์ดเกมอย่างใหญ่เบิ้มประดับไว้อย่างโดดเด่น วางไว้ล่อตาสุดๆ ผมเองยังอยากสอยกลับบ้านมาสักสองสามกล่องเลย (ด้วยราคาถ้าเทียบกับค่าครองชีพตอนอยู่ที่นู่นกล่องนึงเท่ากับอาหารดีๆแค่สองสามมื้อเอง)แต่พอไปถามพี่พนักงานสุดสวยว่ามีเวอร์ชั่นอังกฤษมั้ย ก็ได้คำตอบว่าไม่ค่ะ ของขายในเยอรมันมีแต่ภาษาเยอรมันค่ะ จบเห่เอวัง สุดท้ายได้ชุดหมากรุกกลับบ้านมาชุดเดียว
พอกลับมาถึงไทย เรียนจบทำงานมาได้สักพัก พี่แชมป์-ทีปกร หัวหน้าที่บริษัทก็เริ่มหันเหเข้าสู่วิถีแห่งบอร์ดเกม และยังได้นบอร์ดเกมมาเผยแพร่ที่บริษัทด้วย หลังจากเล่นไปสองสามเกม เลยได้ความว่าจริงๆแล้วร้านบอร์ดเกมมีมาได้สักพักแล้วคือร้าน
ลานละเล่น แถวศาลายา นอกจากจะขายเกมแล้วยังเปิดให้เล่นที่ร้านด้วย ไม่จำเป็นต้องซื้อเอง นั่นหละครับ ผมเลยเริ่มสะสมบอร์ดเกมมาเรื่อยๆตั้งแต่นั้น ตอนแรกๆก็ซื้อจากลานละเล่น แต่พอช่วงปีสองปีมานี้ ร้านบอร์ดเกมก็เริ่มผุดเป็นดอกเห็ด ทำให้เรามีตัวเลือกในการไปเล่นหรือเลือกซื้อมากขึ้น
อาจจะเป็นเพราะบอร์ดเกมให้บางอย่างที่เกมดิจิตอลให้ไม่ได้ ถ้าให้ยกตัวอย่าง อย่างผมเองก็ชอบการเล่มเกมนะ แต่การเล่นเกมในคอมด้วยกัน ต่อให้คุยผ่านสไกป์ มันก็ไม่ได้อารมณ์แบบกับการนั่งเล่นบอร์ดเกมกับกลุ่มเพื่อนหรือบางครั้งก็คนแปลกหน้าที่เพิ่งมาเจอกันครั้งแรก การเล่นบอร์ดเกมถือว่าเป็นการละลายพฤติกรรมอย่างนึง การสุมหัวบนโต๊ะเดียวกัน บางครั้งก็บนพื้น (บาบาริกที่สุด) ได้พูดคุยกัน ได้เห็นสีหน้า แววตา ท่าทางของบุคคลที่เล่นเกมด้วยกัน บางคนอาจเป็นคนเงียบๆในการคุยครั้งแรก แต่พอเราได้ลองเจอเค้าบนกระดานเกม เราอาจจะพบว่าเค้าเป็นคน Aggressive แบบสุดๆ หรือเป็นคนปลิ้นปล้อนหลอกเพื่อนที่คบกันมาสิบปีได้อย่างหน้าตาเฉย เพื่อให้ได้ทรพยากรในเกมเลยก็เป็นได้ ด้วยเหตุผลที่กล่าวมา ทำให้บางทีเรายอมออกจากบ้าน ฝ่าแดดที่ร้อนชิบหาย ซึ่งร้อนจริงไม่พูดเล่น ไปนั่งเล่นบ้านเพื่อนหรือไปตามร้านบอร์ดเกมเจอเพื่อนใหม่ ( จริงๆแล้วมึงไปส่องสาว - เพื่อนกล่าว) การได้ตะโกนใส่เพื่อน บางครั้งอาจหลุดคำหยาบหน่อย แต่โดยส่วนตัวผมแล้วมันไม่ได้รู้สึกว่ามันหยาบคายเหมือนโดนด่าเวลาเล่นเกมแนว MOBA ในคอม คือต่อให้เพื่อนคนเล่นคนเดียวกัน แต่ตอนโดนด่าในเกม เราจะรู้สึกหงุดหงิดว่ามึงจะอะไรหนักหนา แต่พอมาเล่นบอร์ดเกม ถึงแม้ว่าบางครั้งจะใช้ประโยคเดีัยวกัน แต่เราก็ไม่ได้รู้สึกโมโห ซ้ำยังหัวเราะกลับไปใส่มันได้ด้วย และถึงแม้ว่าการเล่นในดิจิตอลจะสะดวกสบาย ไม่ต้องคอยคำนวณเองว่าเอ้อคะแนนเท่าไหร่แล้ววะ ไม่ต้องเสียเวลามาเช๊คว่าแล้วกูวางตัวตรงนี้ได้มั้ย ผิดกฏเปล่า แต่สัมผัสที่ได้จากการหยิบตัว Meeple (หมากรูปคนในบอร์ดเกมส่วนใหญ่) หรือตัวกระดานก็มีเสหน่มากกว่าเห็นๆ
หรืออาจจะด้วยการเล่นบอร์ดเกม เป้าหมายส่วนใหญ่คือการทำให้ตัวเองเป็นที่หนึ่งหรือชนะคนที่เหลือ แต่ก็ไม่ได้เป็นธีมที่ว่าคุมตัวละครมาประหัตหารกัน แต่เป็นการแข่งกันสะสมทรัพยากร สะสมเมือง แข่งรถ ทำให้ธีมการเล่นมันดูไม่โหดร้าย ทำให้ตอนนี้บอร์ดเกมมันดูไม่เป็นกิจกรรมเฉพาะกลุ่ม แต่เป็นกิจกรรมที่ทุกเพศ ทุกวัยสามารถเล่นได้ ถ้าไปตามร้านบอร์ดเกมก็จะเห็นมีลูกค้าผู้หญิงมานั่งเล่นเยอะมาก (นี่ไงเหตุผลมึง - เพื่อนกล่าวอีก) และเพราะเกมมีหลายระดับมาก ตั้งแต่เกมเด็ก 5 ขวบเล่นที่แค่ ไม่กี่นาทีก็จบเกม ไปจนถึงเกมแบบจริงจังที่ต้องใช้เวลาเล่นนานถึง 5 - 6 ชั่วโมง ทำให้คนเล่นมีทางเลือกได้ว่าจะเล่นเกมอะไรดี
หรืออาจจะด้วยอย่างรายการโชว์ในยูทูปชื่อ Tabletop ที่มี Will Wheaton เป็นพิธีกร และมีดารารับเชิญเป็นเหล่าเซเลป มานั่งเล่นบอร์ดเกมอย่างสุดสนาน เรียกยอดวิวได้ไม่ตำกว่า 500K ต่อคลิป อาจจะมีส่วนในการเผยแพร่ลัทธิบอร์ดเกมเข้ามาในช่วงไม่กี่ปีนี้ก็ได้
...
ส่วนถ้าใครไม่สันทัดภาษาอังกฤษก็สามารถชมรายการสัญชาติไทยอย่าง Boardjockey ที่มีพี่แชมป์ ทีปกรเป็นพิธีกร ฉายในยูทูปเช่นกัน
อยากลองเล่นบอร์ดเกม จะไปเล่นที่ไหน?
ตอนนี้บอร์ดเกมไม่ได้เข้าถึงยากเหมือนการ์ดเกมที่ผมเคยเล่นสมัยก่อนที่คนเล่นก็มันจะเป็นชาวแก๊งแว่น นั่งเล่นการ์ดหลังห้อง แถมคอยหลบครูปกครองเพราะโดนหาว่าเล่นไพ่ (ซึ่งมันไม่ใช่ครับ!!!) ถ้าใครอยากลองเล่นบอร์ดเกม ลองเช็ครายชื่อรายบอร์โเกมได้จากเพจ Fringer on the boardgame ได้ครับ
แถมตอนนี้เจ้าของเพจ คุณยุ้ย สฤณี อาชวานันทกุล ก็กำลังจะออกหนังสือใหม่กับทางแซลม่อนด้วย (ครับ กูยังคงเนียนขายของต่อ) สามารถอ่านบทเกริ่นได้ก่อนเลยที่นี่
http://minimore.com/b/Xm3sH/4
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in