สีน้ำสำหรับเราเป็นเหมือนยาขม เราใช้เวลาตลอดชีวิตมองคนใช้สีน้ำ ด้วยความรู้สึกว่ามันเป็นสิ่งมหัศจรรย์ แต่เราไม่กล้าใช้มัน เพราะในสมัยเด็กๆ เคยใช้แล้วเน่าตลอด สีเน่า กระดาษบวมแตก ฯลฯ โอ้โห เยอะไปหมด จนเราไม่แตะสีน้ำเป็นสิบปี
เราทำกระทั่งหนีไปหาสีแบบอื่น
เราเจอโคปิค เราชอบ เรารักมัน
แต่ไอ่สัส แม่งแพง
โคปิคแท่งหนึ่งราคาอยู่ที่ 115-120 บาท เราบ่นว่ามันแพงแต่เรามีอยู่ 97 แท่ง และหมึกเติมอีก 4 สี แม่ง...ใครอย่ามาคูณให้เห็นว่าหมดไปเท่าไหร่ แม่งได้งบไปเที่ยวตปท.แล้วแน่ๆ แต่ก็เอาเถอะ เราแฮปปี้ดีนะ กับการใช้โคปิค
แต่ก็ยังตัดใจไม่ได้ไง
สองสามปีก่อนหน้านี้เราให้เพื่อนสอนว่าสีน้ำคืออะไร เพื่อนบอกวาดๆ ไปเดี๋ยวก็เป็น เดี๋ยวก็รู้ธรรมชาติของสี พอลองลงสีไป...เชี่ยยังกะเด็กประถมจับสีน้ำหนแรก สีจืด กระดาษบวม โอย สารพัด
เราเสียความมั่นใจในตัวเอง เพราะเพื่อนก็ยังย้ำว่าเดี๋ยวก็รู้เอง
แต่คือความมั่นใจเราเสียไปเยอะ
เพราะกูไม่รู้ไงไอ่สัส! (ไม่ได้ด่าเพื่อน ด่าตัวเอง)
เราไม่มีพื้นฐานเหี้ยอะไรทางศิลปะเลย เราไม่รู้พื้นฐานของสีน้ำ เราไม่รู้ว่ากระดาษแบบไหนดีไม่ดียังไง ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าจะต้องเอานิตโต้ขึงกระดาษกับกระดานก่อนวาด เชี่ย รู้แล้วก็ยังทำอะไรไม่ได้
กลับไปหาโคปิคดีกว่า
นั่นแหละ เราหนีอีกรอบ
จนเมื่อเดือนก่อน เรานั่งมองสีน้ำอีกครั้ง
ถามเพื่อน คนเดิม ก็ได้คำตอบเดิม
แต่ความคิดเราเปลี่ยนไปละ
เราเห็นน้องคนหนึ่งทวิตราวว่า คนหัดสีน้ำใหม่ๆ ถ้าลองใช้ของที่เกรดดีขึ้นมาอีกนิด จะรู้เลยว่าอุปกรณ์มีส่วนช่วยมาก
เรามองข้อความนั้น...แล้วนั่งรถเมล์ออกไปร้านสมใจดิโอลด์สยาม
เราเดินวนอยู่เกินครึ่งชั่วโมง ไม่รู้ว่าจะซื้ออะไรดี
สีน้ำเรามีแล้ว เพื่อนบีบให้
กระดาษมีแบบกากๆ
เราเดินเข้าไปถามพนักงาน เขาแนะนำว่าซื้อแบบเล่มแพง ซื้อแบบแผ่นสิ 70 บาท คุ้มกว่า
โอเค เราได้กระดาษของ fabriano มา
เราซื้อพู่กันไซส์ที่จำเป็นมา
เรากลับบ้าน ตัดกระดาษ....
และไม่แตะสีน้ำนั่นไปอีกเดือนนึง
โอ๊ย เหี้ย 5555555555555
มันต้องใช้แรงใจสูงนี่นา
ทีนี้...ช่วงวันหยุดสงกรานต์
เป็นวันหยุดยาวแรกหลังจากทำงานมาได้ครึ่งเดือน (เริ่มทำงานในเดือนที่วันหยุดเยอะมาก..) พอหยุดยาวก็เลยอยากทำอะไรที่ไม่ต้องเปิดคอม ก็เลยกางโต๊ะ เตรียมอุปกรณ์ และเริ่มหัดปาดสี
ที่เราบอกว่าเราเปลี่ยนไปแล้ว ไม่ใช่เพราะคิดได้นะ
แต่เพราะไปเจอบล็อกนี้ต่างหาก
เราก็เลยหัดปาดสี หัดทำทุกอย่างตามในบล็อกแหละ
แล้วก็ทำได้!
ดีไหมไม่รู้
แต่ความกลัวมันน้อยลงไปเยอะแล้ว
เรามั่นใจ =D
นี่คือผลงานของวันนั้น
(สาวน้อยที่นึกถึงกิโกะ มิสึฮาระ แต่หลอนกว่า)
(หนุ่มน้อยจูเนียร์ไฮสคูลของอีตันคอลเลจ)
เออ ก็ยังเละแหละ
แต่ไม่กลัวแล้วจริงๆ นะ
ในที่สุดเราก็เข้าใจแล้วว่าสีน้ำธรรมชาติมันเป็นยังไง
แล้วเราก็เข้าใจด้วยว่าคนเราต้นทุนแม่งไม่เท่ากันสัส 555
บางคนอาจจะเข้าใจได้เอง บางคนอาจจะต้องรอคนไกด์ให้
ไม่มีอะไรผิดทั้งนั้นแหละ
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in