ผมเดินตรวจตราตอนกลางคืนตามปกติ สาดแสงไฟฉายไปตามพื้นทรายและท้องทะเล เป็นเวลาหลังจากที่ฝนหยุดตกไม่นาน กลิ่นชื้นยังคงคละคลุ้งในอากาศเหลือทิ้งไว้เป็นร่องรอยจางๆ ผมจำบรรยากาศแบบนี้ได้ เป็นความทรงจำที่เลือนราง แต่กลิ่นฝนก็ทำให้ผมหวนคิดถึงมัน
มันเป็นการเข้าค่ายครั้งแรกของผมและนนท์ในฐานะเด็กกิฟต์ วันนั้นท้องฟ้ามืดครึ้มและเต็มไปด้วยกลิ่นสายฝนแบบนี้
ผมนั่งลงเหม่อมองท้องฟ้าที่มีหมู่ดาวเบาบางริมทะเล
01.
“เดินช้าจังวะ ไอ้ปอม”
“มึงก็รอกุหน่อยดิวะ”
ตอนนี้พวกผมกำลังเดินไปตามป่าหลังทะเล เป็นช่วงเวลาที่ทั้งมืดและชื้นเพราะฝนที่ตกตลอดทั้งวัน วันนี้เป็นวันสุดท้ายของการเข้าค่าย ไอ้นนท์จึงชวนผมเข้าป่าเพื่อปีกผาหิน เขาบอกว่าวิวข้างบนนั้นสวยมาก เราตั้งใจจะออกมาตั้งแต่ตอนกลางวัน แต่เพราะฝนทำให้แผนหยุดชะงัก ไม่รู้ว่าฟ้าเห็นใจหรือกลั่นแกล้งที่ฝนดันมาหยุดตอนค่ำมืดแบบนี้ นนท์ที่เห็นว่าฝนหยุดก็ยืนยันกับผมว่าต้องขึ้นไปบนผาให้ได้
พอได้ยินเสียงบ่นของผม ไอ้นนท์ก็หัวเราะ เขาเดินลงมาจากหน้าหินผาก่อนจะยื่นมือให้ผม
“มา จับมือกุนี่”
“อาๆ”
ผมเอื้อมไปจับมืออีกฝ่าย นนท์กุมมือผมไว้แน่น เขาค่อยๆเดินอย่างระวัง ฉายแสงไฟเพื่อเบิกเส้นทาง ผมเดินตามเขาไปโดยไม่ตั้งคำถาม
“มือสั่นนะมึง” ชานนท์ว่าโดยไม่ได้หันหลังมา
“ก็มันมืดปะวะ”
“ขี้กลัวจังวะ”
นนท์กระฉับมือให้แน่นขึ้นกว่าเดิม แปลกที่อากาศหนาวเย็นยะเยือกแต่มือของเขากลับอบอุ่นและทำให้รู้สึกปลอดภัยอย่างประหลาด ปกติผมเป็นพวกขี้ขลาดเกินกว่าจะมาที่อันตรายเวลามืดๆแบบนี้ แต่พอเป็นนนท์ ผมเชื่อว่าถ้าไปกับเขาจะไม่เป็นไรแน่ๆ อาจเพราะเวลาที่ผ่านมามีเขาอยู่ข้างๆตลอดละมั่ง
ไม่ว่าจะเป็นตอนดีใจ กังวลใจหรือเสียใจ นนท์มักจะอยู่ตรงนั้นเสมอ... ข้างๆผม
02.
แล้วทำไมต้องเขินด้วยนะ…
“พอๆ กุเดินเอง ไม่ต้องจับเลย”
ผมดึงมือตัวเองออกจากนนท์ อีกฝ่ายยิ้มแล้วตอบว่า “ตามใจมึงละกัน” ก่อนเอื้อมมือมาดึงแก้มที่พอกออกด้วยความไม่พอใจของผม ผมรีบปัดมือเขา ไอ้นนท์หัวเราะอีกแล้ว
“ไอ้ปอม! ถึงแล้วเว้ย”
ผมได้ยินเสียงตะโกนของนนท์ จึงรีบปีนยอดผาตามเขาไป
“...โฮ”
ดวงดาวมากมายร้อยเรียงอัดแน่นบนฟากฟ้า เรียงรายเป็นเหมือนสายน้ำที่ส่องแสงระยิบระยับตราตรึงบนพื้นผ้าใบสีเข้ม ท่ามกลางความมืดมิดที่งดงามนั้นมีดวงจันทร์ครึ่งเสี้ยวเป็นศูนย์กลาง ราวกับดวงดาวทุกดวงกำลังเคลื่อนที่เข้าใกล้ ผมไม่เคยเห็นอะไรที่สวยงามเท่านี้มาก่อนเลย
“สวยใช่ไหมล่ะ”
“อืม”
ผมจ้องมองดวงดาวเหล่านั้น ...มันประทับในดวงใจของผม ...นิรันดร์
เช้าแล้วเหรอ...
ผมไม่รู้ตัวเลยว่าหลับไปตอนไหน ทั้งที่เป็นการตรวจตราแต่กลับมาหลับซะได้ สำหรับการเป็นครูคงเป็นเรื่องที่ใช่ไม่ได้เลย ตอนนี้ไม่ได้เป็นเด็กๆแล้ว
ตรงหน้าของผมคือทะเลริมหาดทราย น้ำทะเลลดลงเพราะเป็นช่วงเช้า พระอาทิตย์ที่พึ่งจะตื่นนอนปรากฏให้เห็น เช้านี้อากาศค่อนข้างดี ต่างจากเมื่อวานที่ฝนตกตลอดทั้งวัน
ผมยันตัวเองลุกขึ้นยืดเส้นยืดสายนิดหน่อย ก่อนจะเดินหน้ากลับไปทางแคมป์ของพวกเด็กๆ
จะว่าไปเมื่อคืนเหมือนผมจะฝันอะไรสักอย่าง...เป็นบางสิ่งที่สำคัญมาก
....แต่จำไม่ได้แล้วแฮะ
ว่ากันจริงๆผมไม่เคยมาที่นี่ตอนกลางคืนหรอก ถึงจะบอกไอ้ปอมว่ามันสวยมากก็ตาม แต่ก็ยังไม่แน่ใจว่าวิวตอนกลางคืนจะเป็นอย่างไร ผมแค่อยากหาเวลาอยู่กับมันสองคน ต่อให้ท้องฟ้าจะมืดมิดจนมองไม่เห็นดาวสักดวง ผมก็คงรั้งให้มันอยู่ต่ออยู่ดี
ไม่คิดว่าจะสวยงามขนาดนี้
ผมใช้เวลาเนินนานในการจ้องมองพวกมัน ก่อนจะหันมามองอีกคนที่กำลังเหม่อมองท้องฟ้าไม่ละสายตา ในดวงตาใสซื่อของปอมส่องประกายระยับสะท้อนหมู่ดาวที่กระจ่างบนนั้น
มันสวยงามจริงๆ...ยิ่งกว่าดวงดาวทั้งหมดบนนั้น
ผมจะไม่มีวันลืมเลย...
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in