หนังสือ : สงคราม สถานภาพ: เยอรมนี ญี่ปุ่น และไทย กับการเถลิงอำนาจในการเมืองระหว่างประเทศ
โดย : พีระ เจริญวัฒนนุกูล
จำนวน : 352 หน้า
.
"สงคราม สถานภาพ: เยอรมนี ญี่ปุ่น และไทย กับการเถลิงอำนาจในการเมืองระหว่างประเทศ" หนังสือที่ชักชวนให้ผู้อ่านได้มองเห็นปัญหาบางประการที่อาจจะเคยถูกมองข้ามหรือละเลยในการศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ โดยข้อความบนปกหลังของหนังสือบอกเล่าเอาไว้ว่า
.
"เหตุใด "เยอรมนี" ชาติที่ยุทธศาสตร์ทางทะเลไม่สำคัญเท่ากับยุทธศาสตร์ทางบก กลับต้องการสร้างกองเรือรบแข่งขันกับมหาอำนาจทางทะเลที่พระอาทิตย์ไม่ตกดินอย่างอังกฤษ ... เหตุใด "ญี่ปุ่น" ชาติตะวันออกที่ถูกปรามาสจากชาติตะวันตกว่าไร้ความศิวิไลซ์ ถึงหาญกล้าทำสงครามกับจักรวรรดิรัสเซียที่มีกองทัพอันเกรียงไกรของพระเจ้าซาร์ ... เหตุใด "ไทย" ชาติเล็ก ๆ ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ถึงกล้าเปิดฉากโจมตีและเป็นปฏิปักษ์กับจักรวรรดิฝรั่งเศสในดินแดนอินโดจีน"
.
ข้อความที่ปรากฏบนคำโปรยปกหลังของ "สงคราม สถานภาพ: เยอรมนี ญี่ปุ่น และไทย กับการเถลิงอำนาจในการเมืองระหว่างประเทศ" เป็นการบอกเล่าในเบื้องแรกว่าหนังสือเล่มนี้พูดถึงเหตุการณ์ที่หลายคนอาจนะไม่คาดคิด ว่าเหตุใดวันหนึ่งประเทศที่ไม่ได้ชำนานเรื่องการรบทางทะเลถึงประสงค์เข้าสู่สนามแข่งแห่งนี้ อะไรที่ทำให้ประเทศที่มีขนาดเล็กและเป็นเพียงหมู่เกาะเมื่อเทียบกับประเทศที่มีอาณาบริเวณใหญ่ที่สุดในโลกถึงกล้าทำสงครามและได้รับชัยชนะเหนือประเทศใหญ่ อะไรที่ทำให้ประเทศเล็ก ๆ ในลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยาถึงหาญกล้าท้าทายมหาอำนาจอย่างฝรั่งเศส ประเทศเหล่านี้อาจจะไม่ได้หาญกล้าหรือบ้าบิ่นที่จะงัดข้อกับเหล่าประเทศที่มีอำนาจเหนือกว่า หากแต่ในการท้าทายและเบื้องหลังเหตุการณ์เหล่านั้นอาจจะเกิดขึ้นจาก "ความคาดหวัง" และ "การแสวงหาสถานะและจุดยืน" ของประเทศตัวเองเพื่อชดเชยบางสิ่งบางอย่างที่หายไป
.
สำหรับเนื้อหาของ "สงคราม สถานภาพ: เยอรมนี ญี่ปุ่น และไทย กับการเถลิงอำนาจในการเมืองระหว่างประเทศ" แบ่งออกเป็น 1 บทนำและ 6 บท ที่จะพาผู้อ่านทำความเข้าใจและแสวงหาคำตอบว่าประเทศเหล่านี้ไปกิน "ดีหมี" มาหรือไรจึงหาญกล้าท้าทายในสิ่งที่ตัวเองไม่ชำนานและไม่มีกำลังเพียงพอ โดยเนื้อหาของ "สงคราม สถานภาพ: เยอรมนี ญี่ปุ่น และไทย กับการเถลิงอำนาจในการเมืองระหว่างประเทศ" แบ่งเป็น
.
คำนำ
.
(1) บทนำ: สถานภาพทางสังคมกับการเมืองระหว่างประเทศ
.
(2) กรอบแนวคิดในการศึกษา: ทฤษฎีด้านสถานภาพและการเป็นที่ยอมรับ
.
(3) "ครั้งนี้ ข้าพเจ้าจะไม่หดหัวอีกต่อไป": สถานภาพและนโยบายแข็งกร้าวของเยอรมนี ค.ศ. 1890-1914
.
(4) "สงครามระหว่างชาติศิวิไลซ์ควรค่าแก่การต่อสู้ยิ่งนัก": แผนโค่นรัสเซียของญี่ปุ่น ค.ศ. 1904-1905
.
(5) "เตรียมตัวเถิดพี่น้องชาวไทยทั้งหลาย": ไทยรบฝรั่งเศส พ.ศ. 2483
.
(6) บทสรุปและนัยต่อกรณีอื่น ๆ
.
สำหรับเนื้อหาในแต่ละส่วนของ "สงคราม สถานภาพ: เยอรมนี ญี่ปุ่น และไทย กับการเถลิงอำนาจในการเมืองระหว่างประเทศ" การวางโครงวิธีการเขียนและการเล่าเรื่อง สำหรับผู้อ่านไม่จำเป็นที่จะต้องอ่านหนังสือเล่มนี้โดยเริ่มจากบทที่ 1 หากแต่ผู้อ่านสามารถเริ่มที่บทใดก่อนก็ได้ (แม้แต่จะเริ่มที่บทสรุปก่อนก็ตาม) แต่ถ้าจะให้ดีแนะนำให้อ่านบททฤษฎีก่อนเพื่อเป็นการวางกรอบโครงที่จะช่วยให้เห็นวิธีการหรือสิ่งที่หนังสืออยากนำเสนอ
.
"สงคราม สถานภาพ: เยอรมนี ญี่ปุ่น และไทย กับการเถลิงอำนาจในการเมืองระหว่างประเทศ" แสดงให้เราเห็นแง่มุมหนึ่งของการเกิดขึ้นของ "สงคราม" หรือเหตุการณ์ที่เคยเกิดขึ้นในโลกโดยเฉพาะเหตุการณ์สงคราม ว่าในบางครั้งสงครามอาจจะมิได้เกิดขึ้นจากความต้องการในการขยายอำนาจหรือการล่าอาณานิคม แต่บางครั้งบางคราสงครามก็อาจจะเกิดขึ้นจากความต้องการในการ "แสวงหาสถานภาพ" ของรัฐหนึ่ง ๆ ดังที่ปรากฏอยู่ในตอนหนึ่งของหนังสือว่า "...หมุดหมายของหนังสือเล่มนี้คือการชี้ให้เห็นว่า 'ความกังวลด้านสถานภาพระหว่างประเทศ' สามารถผลักดันให้รัฐดำเนินนโยบายต่างประเทศที่อาจผิดแปลกไปจากปกติได้" (น. 17) น่าสนใจว่าหากเราลองเอาแนวคิดและกรอบทฤษฎีที่ปรากฏใน "สงคราม สถานภาพ: เยอรมนี ญี่ปุ่น และไทย กับการเถลิงอำนาจในการเมืองระหว่างประเทศ" มาอ่านกับเหตุการณ์ที่กำลังเกิดขึ้นในยุคปัจจุบัน เราอาจจะมองเห็นมุมมองที่แตกต่างต่อเหตุการเหล่านั้นได้อย่างน่าสนใจ
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in