เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
รีวิวเว้ย (3)Chaitawat Marc Seephongsai
ชายผู้มีความสุขที่สุดในโลก By Eddie Jaku แปล ธนรรถวร จตุรงคสาณิช
  • รีวิวเว้ย (1623) "ในเอาชวิทซ์ไม่มีทั้งอดีตหรืออนาคต มีแต่การเอาชีวิตรอดเท่านั้น เราต้องปรับตัวเข้ากับชีวิตแปลกประหลาดในนรกบนดินนี้ หาไม่แล้วเราก็คงไม่รอดเช่นกัน ... เอาชวิทซ์มีเพียงการเอาชีวิตรอด แต่มันจะเป็นไปไม่ได้เลยหากปราศจากเพื่อนฝูงที่ดี หากไม่มีความเอื้ออาทรและมิตรภาพจากคนอื่น ๆ ที่ย่อมเดือดร้อนเพื่อช่วยผม ผมคงรอดอยู่ได้ไม่เกิน หนึ่งเดือน" (น. 119-120) ความตอนหนึ่งของหนังสือเล่มนี้ที่เราชอบเป็นพิเศษ เพราะการที่ใครสักคนจะพาตัวเองออกมาจากช่วงเวลาเลวร้ายที่สุดของชีวิต มันไม่ใช่เรื่องที่ทำได้ง่ายและในหลายหนมันไม่ใช่เรื่องที่คนเพียงคนเดียว (ตัวคนเดียว) จะดึงเอาชีวิตของตัวเองออกมาจากช่วงเวลาเหล่านั้น โดยเฉพาะเมื่อข้อความนี้มาจากชายผู้สูญเสียแทบทุกอย่างของชีวิตไปในค่ายกักกันเอาชวิทซ์ แต่เขาผ่านมันมาได้และใช้ชีวิตต่อจากนั้นมาจนวัยเกิน 100 ข้อเขียนที่ได้จากผู้ผ่านชีวิตที่โหดร้ายและผ่านช่วงเวลาแสนยาวนาน ย่อมเป็นบทเรียนที่เราควรเก็บเกี่ยวประสบการณ์เหล่านั้นเอาไว้
    หนังสือ : ชายผู้มีความสุขที่สุดในโลก
    โดย : Eddie Jaku แปล ธนรรถวร จตุรงคสาณิช
    จำนวน : 224 หน้า
    .
    "ชายผู้มีความสุขที่สุดในโลก" ตอนเห็นชื่อหนังสือเล่มนี้ครั้งแรก เราคิดเอาเองว่ามันคงเป็นหนังสือ how to อีกหนึ่งเล่มที่บอกเล่าเรื่องราวของการสร้างความสุขของชีวิต ที่ในหนหลังมีออกมาจนเกลื่อนตลาดหนังสือไทย กระทั่งได้เห็นภาพปกของหนังสือและเห็นตัวเลข 7-8 ตัวจาง ๆ บนแขนของผู้เขียนที่อยู่บนปกทำให้เราเริ่มสนใจว่าชื่อหนังสืออย่าง "ชายผู้มีความสุขที่สุดในโลก" กับตัวเลขจาง ๆ บนแขนที่เป็นตัวเลขแสดงอัตลักษณ์ของชาวยิวที่ถูกกักกันในค่ายเอาชวิทซ์ จะไปด้วยกันได้อย่างไร ? ชายชาวยิวที่ถูกกักกันและผ่านเหตุการณ์ความสูญเสียที่ยิ่งใหญ่ในหน้าประวัติศาสตร์ จะเป็น "ชายผู้มีความสุขที่สุดในโลก" ได้ยังไง
    .
    เนื้อหาของ "ชายผู้มีความสุขที่สุดในโลก" อยู่ในลักษณะของการบอกเล่าเรื่องราวและตัวตนของผู้เขียนในฐานะของชายชาวยิวที่สูญเสียหลายสิ่งหลายอย่างในชีวิตไปจากการขึ้นมามีอำนาจของ "ฮิตเลอร์" และสูญเสียเกือบทุกอย่างของชีวิตไปหลังจากนโยบายต่าง ๆ ของรัฐบาลนาซีถูกนำมาปฏิบัติ การเล่าเรื่องของผู้เขียนใน "ชายผู้มีความสุขที่สุดในโลก" บอกเล่าผ่านช่วงชีวิตแต่ละเหตุการณ์ที่ถูกแบ่งเอาไว้ทั้งสิ้น 16 บท โดยเริ่มตั้งแต่ชีวิตปกติของคนธรรมดา สู่สถานะของชาวยิวผู้ถูกกักกันและพรากเอาสิ่งสำคัญของชีวิตจากไป และในช่วงท้ายของหนังสือที่บอกเล่าถึงสถานะของ "ชายผู้มีความสุขที่สุดในโลก" ที่ผ่านเหตุการณ์ที่อาจจะเรียกว่าเลวร้ายที่สุดในโลกได้เช่นกัน โดยเนื้อหาทั้ง 16 บทแบ่งเป็นดังนี้
    .
    บทที่ 1 หลายอย่างมีค่ามากกว่าเงิน
    .
    บทที่ 2 ความอ่อนแอแปรเป็นความเกลียดชังได้
    .
    บทที่ 3 ยังจะมีวันพรุ่งนี้หากคุณรอดพ้นวันนี้ไปได้ เดินทีละก้าว
    .
    บทที่ 4 ความเมตตามีอยู่ทุกที่ แม้จากคนแปลกหน้า
    .
    บทที่ 5 จงกอดแม่ของคุณ
    .
    บทที่ 6 เพื่อนดีหนึ่งคนคือโลกทั้งใบของผม
    .
    บทที่ 7 การศึกษาคือเครื่องช่วยชีวิต
    .
    บทที่ 8 หากคุณสูญเสียหลักศิลธรรมของคุณ คุณก็สูญเสียตัวตน
    .
    บทที่ 9 ร่างกายมนุษย์คือเครื่องจักรยอดเยี่ยมที่สุดที่เคยสร้างมา
    .
    บทที่ 10 ที่ใดมีชีวิตที่นั่นมีความหวัง
    .
    บทที่ 11 โลกนี้มีปาฏิหาริย์เสมอแม้ยามที่ดูมืดมน
    .
    บทที่ 12 ความรักคือยาที่ดีที่สุด
    .
    บทที่ 13 เราต่างเป็นส่วนหนึ่งของสังคมกว้าง และงานที่เราทำคือการร่วมกันสร้างชีวิตที่เป็นอิสระและปลอดภัยให้กับทุกคน
    .
    บทที่ 14 ความเศร้าที่มีคนร่วมแบกรับคือความเศร้าเพียงครึ่งเดียว ความสุขที่มีคนร่วมแบ่งปันคือความสุขที่ทวีเป็นสองเท่า
    .
    บทที่ 15 สิ่งที่ผมมีเพื่อแบ่งปันไม่ใช่ความเจ็บปวดของผม สิ่งที่ผมแบ่งปันคือความหวังของผม
    .
    บทส่งท้าย
    .
    เมื่ออ่าน "ชายผู้มีความสุขที่สุดในโลก" มาจนถึงบทส่งท้าย ไม่แปลกใจเลยว่าเหตุใดหนังสือเล่มนี้จึงเลือกใช้ชื่อว่า "ชายผู้มีความสุขที่สุดในโลก" ทั้งที่เหตุการณ์และเรื่องราวที่ปรากฏอยู่ในชีวิตของเขาดูจะเป็นคู่ตรงข้ามกับข้อความที่ปรากฏเป็นชื่อของหนังสือ
    .
    ความน่าสนใจประการหนึ่งของ "ชายผู้มีความสุขที่สุดในโลก" ไม่ได้อยู่ที่ความฟูมฟายจากการสูญเสีย หรือการสร้างความรู้สึกเวทนาน่าสงสารในชะตาชีวิตของผู้เขียนและชาวยิวอีกว่า 6 ล้านคนแต่ประการใด หากแต่ตลอดความยาว 16 บทของหนังสือ มันคือความพยายามในการบอกเล่าให้เราจงอย่าละเลยความสัมพันธ์ อย่าละทิ้งความหวังและคยามฝัน อีกทั้งจงอย่าละวางความพยายาม เพราะในโมงยามที่เลวร้ายที่สุดของชีวิตไม่แน่ว่าในวันข้างหน้า ในห่วงเวลาถัดไปเราทุกคนอาจจะกลายเป็น "ชายผู้มีความสุขที่สุดในโลก"

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in