เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
รีวิวเว้ย (3)Chaitawat Marc Seephongsai
โลกนี้ไม่มีใครที่ไร้ค่า By หนุ่มเมืองจันท์
  • รีวิวเว้ย (1255) สมัยตอนเรียนมหาวิทยาลัย เราเรียนมาในคณะที่เพื่อนร่วมเรียน รุ่นพี่หลายคนอ่านหนังสืออ่านยาก (ย๊ากยาก) ที่หลายครั้งเราก็อยากจะถามทั้งอาจารย์ เพื่อนและรุ่นพี่รุ่นน้องว่าที่อ่าน ๆ กันนั้นเราเข้าใจมันจริง ๆ หรือว่า "อ่านเพราะต้องอ่าน" และมันจะมีบางจังหวะที่เวลาเราบอกใครว่าเราอ่านหนังสือเล่มไหน ประเภทไหนหลายครั้งมันดูไม่ cool และจะออกไปทางโดนล้อเสียด้วยซ้ำ แตาพอเวลาผ่านไป 10 กว่าปีหลังจากเรียนจบเราพบว่า พวกที่เคยอ่านหนังสือยาก ๆ อ่านแล้วดู cool พอทุกคนเริ่มแก่ตัวลงและมีอายุมากขึ้นแนวทางของหนังสือที่อ่านก็มีหลากหลายยิ่งขึ้น ก็ยังมีบ้างที่ยังเห็นหลายคนอ่านหนังสืออ่านยากสลับไปกับการอ่านหนังสือแนวพัฒนาตัวเอง เศรษฐกิจ และบางคนก็หันไปสนใจหนังสือคู่มือการปลูกไม้กระถางก็มี ซึ่งนั้นไม่ใช่เรื่องแปลกเพราะเมื่อถึงวันหนึ่งหนังสือทุกแนวที่เราอ่านมันจะเปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลาและการเติบโตของตัวเรา และเช่นเดียวกันชีวิตของพวกเราก็ล้วนเปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลาไม่ต่างกัน
    หนังสือ : โลกนี้ไม่มีใครที่ไร้ค่า
    โดย : หนุ่มเมืองจันท์
    จำนวน : 232 หน้า

    "โลกนี้ไม่มีใครที่ไร้ค่า" หนังสือในชุดฟาสต์ฟู้ดธุรกิจลำดับที่ 35 ของหนุ่มเมืองจันท์ น่าตื่นตาตื่นใจเมื่อเราเห็นตัวเลขชุดที่ 35 ปรากฏอยู่บนมุมด้านขวาขนาดตัวอักษรเล็ก ๆ ที่บอกเลข 35 คือสิ่งที่ชวนให้เราย้อนกลับไปถามตัวเองว่าเราอ่านหนังสือในชุดฟาสต์ฟู้ดธุรกิจมานานเท่าไหร่แล้ว (?) จำได้ว่าเราอ่านหนังสือฟาสต์ฟู้ดธุรกิจครั้งแรกตอนที่เราอยู่ ม.2 และหลังจากนั้นก็อ่านมาตลอดจนตอนนี้อายุ 30 ขวบพอดี แต่แปลกที่หลาย 10 ปีผ่านไปผู้เขียนก็ยังคงใช้ชื่อว่า "หนุ่มเมืองจันท์" เช่นเคย หากอายุของนามปากกาขยับตามเวลาจริงไม่แน่ว่านามปากกานี้นะต้องขยับคำนำหน้าตามช่วงเวลาที่เปลี่ยนไป

    ข้อความในหลายตอนที่ปรากฎอยู่ในหนังสือ "โลกนี้ไม่มีใครที่ไร้ค่า" คือการบอกเล่าเรื่องราวของสิ่งที่ย้ำเตือนให้เราลองมองอะไรหลาย ๆ อย่างจากหลาย ๆ ด้านหลาย ๆ มุม เพราะไม่แน่ว่าสิ่งนั้นที่เรากำลังมองอยู่มันอาจจะมีคุณค่าเมื่อเราลองมองมันมาจากอีกด้านหนึ่ง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของมุมมองในการใช้ชีวิต มุมมองในการทำธุรกิจ หรือกระทั่งมุมมองที่เรามีต่อสังคมกานเมือง "โลกนี้ไม่มีใครที่ไร้ค่า" จะช่วยให้เราขยายขอบเขตของการมองจากความเคยชินเดิมของเรา ผ่านหลาย ๆ เรื่องเล่าที่ปรากฏอยู่ใน "โลกนี้ไม่มีใครที่ไร้ค่า"

    ข้อความตอนหนึ่งในหนังสือเขียนเอาไว้ว่า "โลกนี้ไม่มีใครหรือสิ่งใดที่ไร้ค่า" สำหรับเราแล้วอาจจะเห็นด้วยกับข้อความนี้แต่ไม่ทั้งหมด เว้นแต่หากสิ่งใดอยู่ผิดที่ผิดเวลาก็อาจจะสร้างมูลค่าและราคาของ "ความเสียหาย" ได้เหมือนกัน และไม่แน่ว่ามูลค่าความเสียหายนั้นอาจจะมากมายแบบลุง 2-3 คนในสังคมการเมืองไทยที่เขาได้ทำเอาไว้ตั้ง 8 ปี (แถมยังหวังจะทำต่ออีก) ดังนั้น "โลกนี้ไม่มีใครที่ไร้ค่า" เว้นแต่ว่า "ค่า" นั้นหมายถึงคุณค่าและมูลค่าที่ดีขึ้น หรือมูลค่าของความเสียหายจากการอยู่ผิดที่ผิดเวลาและผิดที่ไม่รู้จักพอสักที

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in