ช่วงนี้พิษสุนัขบ้ากำลังระบาดหนัก เห็นข่าวว่าหนักที่สุดในรอบหลายปีเลยค่ะ ปกติจะมีผู้เสียชีวิตโดยโรคนี้ปีละประมาณ 10 คน (ประเทศไทย) แต่ตอนนี้ ยังไม่ทันหมดเดือนมีนา ก็ไปซะแล้ว 6 ราย
เห็นข่าวแล้วก็กลั๊ว กลัว (แม่เรียกว่ากลัวจนขี้ขึ้นสมองค่ะ ไม่เข้าใจว่ามันขึ้นไปยังไง 55555)
โรคนี้รักษาไม่หายถ้าแสดงอาการแล้วตาย 100% เวลาถูกหมากัดจึงต้องรีบไปพบแพทย์เพื่อฉีดเซรุ่มและวัคซีนเข้าไปทำลายเชื้ออย่างเร่งด่วนก่อนที่มันจะแสดงอาการ แต่อันที่จริงไม่ใช่แค่ถูกกัดเท่านั้น พิษนี้อยู่ในน้ำลายค่ะ แค่น้ำลายของสุนัขที่บ้าเข้าปาก หรือเข้าทางบาดแผล เราก็มีโอกาสติดโรคแล้วนะ เด็กผู้หญิงรายล่าสุดอายุ 14 เสียชีวิตเพราะถูกสุนัขข่วนเป็นรอยเล็ก ๆ จึงไม่ได้ไปพบแพทย์ จนอาการออก ก็สายเกินไป (และไม่ใช่แค่สุนัข เชื้อเวรนี่ติดได้จากสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมทุกชนิด โอเอ็มจีย์)
ตาย 100%
ตัวเราเองไม่ได้กลัวความตายหรอกนะคะ มีสตีเฟ่น ฮอว์คิงเป็นไอดอล (เขาเพิ่งเสียชีวิตไปเมื่อไม่กี่วันมานี้) เขาบอกว่าการตายก็แค่ร่างกายหยุดการทำงานเหมือนกับเครื่องจักรที่เสื่อมสภาพ เพียงแค่ดับไป ไม่มีโลกหน้า ไม่มีอะไรทั้งนั้น และด้วยเหตุผลบางอย่าง เราเชื่อเขาอย่างสนิทใจ
ไม่เคยมีความกลัวตายอยู่ในหัวสมอง
จะกลัวก็แต่ความเจ็บปวดทรมานก่อนตายเท่านั้นแหละค่ะ เผอิญดันไปเห็นคลิปของผู้ป่วยพิษสุนัขบ้าก่อนเสียชีวิตกำลังกรีดร้องทุรนทุราย ถูกมัดกับเตียง ขย่มเตียง (?) โหยหวน น่าเวทนามาก กลัวน้ำชนิดที่ว่าเพียงแค่เห็นแก้วน้ำตั้งอยู่ตรงหน้าก็สั่นหงั่ก ๆ
โอเค...
ตัดสินใจแล้วว่าฉันจะเป็นอะไรตาย เมื่อไหร่ก็ได้ แต่ฉันจะต้องไม่ตายด้วยโรคนี่!! 555555555
หลังจากตั้งปณิธานแน่วแน่แล้วว่าฉันจะไม่เป็นโรคนี้ ก็เริ่มกูเกิ้ลหาข้อมูล มันป้องกันได้ไหมนะ แถวบ้านนี่ก็หมาจรจัดเยอะเหลือเกินนน ดันเป็นคนรักสัตว์ชอบแฉลบไปเล่นกับพวกมันอีกแน่ะ!
โป๊ะเชะค่ะ! ค้นพบว่าโรคนี้มีป้องซีนป้องกันล่วงหน้า (แต่คนไม่ค่อยรู้กัน) เขาจะฉีดให้คนที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยงจะได้รับเชื้อ เช่น สัตวแพทย์ แต่คนทั่ว ๆ ไปก็สามารถฉีดได้นะ และ... ฉีดครั้งเดียวป้องกันตลอดชีวิต!
เอ๊ะ เดี๋ยวนะ.. เคยได้ยินมาว่าต้องถูกหมากัดก่อนแล้วค่อยไปฉีดไม่ใช่เหรอ?
เราเคยเข้าใจแบบนั้นค่ะ แต่หลังจากคลิกทุกลิงก์ที่กูเกิ้ลสรรหามาให้ เราพบว่าสัจธรรมนั้นมีอยู่ 2 อย่าง
1. วัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า
2. เซรุ่ม (อิมมู... อะไรสักอย่าง ช่างมัน)
วัคซีนจะเข้าไปสร้างภูมิคุ้มกัน เหมือนกับวัคซีนโปลิโอ บาดทะยัก ฯลฯ ทั่ว ๆ ไป ส่วนเซรุ่มฉีดเพื่อไปชะลอเชื้อ รอให้ร่างกายสร้างภูมิคุ้มกันมาไฟต์กับเชื้อไวรัส
งงไหมคะ?
ถ้าโดนกัดแล้ว พิษเข้าสู่ร่างกายแล้ว เราจะไปฉีดเซรุ่มเพื่อไปชะลอเชื้อไม่ให้ออกอาการ (ออกอาการแล้วตาย 100%) จากนั้นก็ฉีดวัคซีนเพื่อเข้าไปสร้างภูมิคุ้มกัน
แต่เถ้าราฉีควัคซีนก่อนแล้ว มีภูมิคุ้มกันอยู่แล้ว! โดนหมากัดก็ไม่ต้องฉีดเซรุ่ม! (นี่มันยอดไปเลย)
ไปเลยค่ะ มุ่งหน้าไปสถานเสาวภาเพื่อฉีดวัคซีนป้องกันล่วงหน้า ณ บัดนาว เราเลือกที่จะไปสถานเสาวภานะคะ เพราะจากข้อมูลที่ค้นมา ตามสถานพยาบาลทั่ว ๆ ไปก็มีวัคซีน แต่ฉีดไม่ได้ เพราะหมอและพยาบาลส่วนใหญ่ไม่รู้ว่าฉีดล่วงหน้าได้ (...) คนจำนวนมากโดนพยาบาลหัวเราะใส่พร้อมกับบอกมา "ยังไม่โดนหมากัดมาฉีดทำไม กลับบ้านไป หมากัดแล้วค่อยมา"
ทางเลือกคือ
1. ด่ากลับแล้วบอกว่าโทรไปถามสถานเสาวภาดูเส้! มันฉีดได้ว้อยยยย
2. ไปสถานเสาวภา
เราเลือกสถานเสาวภาค่ะ เพราะว่าอยู่ใกล้มหาลัย สามารถดอดไปตอนชั่วโมงว่างได้ และเรามั่นใจค่ะว่าหมอและพยาบาลทั่วประเทศนี้ ที่สถานเสาวภาชำนาญเรื่องพิษสุนัขบ้าที่สุด
การฉีดนั้นไม่มีอะไรมากมายเลยค่ะ ค่าวัคซีคก็ไม่แพง แค่เข็มละ 120 บาทเท่านั้นเอง มีค่าทำบัตร จ่ายครั้งแรกครั้งเดียว 20 บาท และค่าหมอ จ่ายทุกครั้งที่มา 50 บาท ฉีดทั้งหมด 3 เข็ม รวม ๆ แล้วก็ยังถูกนะ (โรงพยาบาลอื่น ๆ อาจจะแพงกว่านี้นิดหน่อย)
โดนหมากัดต้องฉีดอีกไหม? ต้องไปฉีดประตุ้นอีก 2 เข็มค่ะ คือเรามีภูมิคุ้มกันอยู่แล้ว แต่ไปกระตุ้นให้มันทำงานได้ดีขึ้น
ในกรณีที่ไม่เคยฉีดล่วงหน้า ถ้าโดนหมากัดแล้ว สิ่งที่คุณต้องฉีดคือเซรุ่ม (เพื่อเข้าไปชะลอเชื้อ) เข็มละ 6000-8000 ในกรณีโรงพยาบาลรัฐ ยังไม่รวมค่าหมอ (เอกชนคูณสามเข้าไปเลยค่ะ) แล้วก็วัคซีนอีก 5 เข็มเพื่อสร้างภูมิคุ้มกันอย่างเร่งด่วน
จะไปฉีดก่อนแค่ 360 บาท (โดนหมากัดก็ฉีดเพิ่มอีก 240 บาท) หรือจะรอให้โดนหมากัดก่อนแล้วไปเสียค่าเซรุ่มเป็นพี่หมื่น... ก็เลือกเอานะคะ
แต่หนูขอเป็นแม่การะเศษ (เหรียญ) ก็พอ
========
สาระสำคัญมีแค่นี้ แต่อยากเล่าให้ฟังเฉย ๆ ว่าไปทำอะไรมาบ้างที่สถานเสาวภา ต้องใช้ความกล้ามากแค่ไหนในการเดินเข้าไป 55555 จริง ๆ แล้วเราเป็นคนไม่ค่อยกล้านะคะ ให้ติดต่อทำเอกสารเดินเรื่องอะไรด้วยตัวเองนี่จะไม่กล้าเท่าไหร่
แต่ตั้งใจไว้แล้วไงว่าจะไม่ตายด้วยโรคพิษสุนัขบ้าอ่ะ 555555 นาทีนี้มันก็ต้องกล้าแหละ
วิธีการเดินทางไปกูเกิ้ลเอานะคะ เราเดินจากมหาลัยประมาณ 10 นาที 5555 คิดว่าลง MRT สามย่านแล้วเดินต่อมาได้ค่ะ หรือ BTS ลงศาลาแดงแล้วนั่งรถเมล์ต่อมานิดเดียว แต่เราไม่รู้ว่าสายไหนง่ะ...
ไปถึงตอนเก้าโมงเช้าวันอังคาร เงียบมากกก ปกติเวลาไปในสถานที่ที่ไม่เคยไป เราก็จะเดินตามคนหมู่มาก แต่นี่... มีเราคนเดียว (โอ้ จอร์จ)
ตอนไปถึงนี่คนน้อยจนเดินไปถามประชาสัมพันธ์ว่าเขาฉีดกันที่นี่หรือเปล่าคะ 555555
ขั้นตอนก็ไม่มีอะไรมากค่ะ เราใช้เวลาอยู่ที่นั่นประมาณ 20 นาที ตลอดเวลา 20 นาทีที่อยู่ที่นั่น เจอคนไปฉีดยาพร้อมกัน 3 คน...
ใช่ค่ะ 3 คน ขอเสนอให้เป็นสถานพยาบาลที่คนน้อยที่สุดในโลกเลยค่ะ
1. เดินเข้าไป มองซ้าย จะเจอห้องหมายเลข 1 หน้าห้องมีใบประวัติให้หยิบมากรอก แค่ชื่อ อายุ ที่อยู่ และอาชีพ ด้านหลังมีประวัติการฉีดวัคซีน ถ้าไม่แน่ใจก็มีช่องให้ติ๊กว่าไม่แน่ใจด้วยนะคะ เราฉีดวัคซีนครั้งสุดท้ายตอน ป.5 มีคนมาฉีดให้ที่โรงเรียน ซึ่งมันคือวัคซีนอะไรก็ไม่รู้ ฉีดอะไรมาบ้างก็ไม่รู้ หลับหูหลับตาติ๊ก ๆ ไปเลยค่ะ
2. กรอกประวัติเสร็จหยิบบัตรคิวที่วางอยู่ตรงนั้นแหละ (สองขั้นตอนนี้ไม่มีใครมาบอกบทให้ทำอะไรทั้งนั้น ดำน้ำเอาล้วน ๆ) เปิดประตูเข้าไปในห้องหมายเลขหนึ่ง หยิบคลิปหนีบกระดาษมาหนีบใบประวัติ+บัตรคิว+บัตรประชาชนเข้าด้วยกัน แล้วหย่อนตะกร้า นั่งรอ (เรารอ 2 นาที) เขาจะเรียกไปจ่ายค่าทำบัตรใหม่ 20 บาท แล้วเราก็จะได้บัตรมาพร้อมใบประวัติค่ะ
3. ถือใบประวัติเดินไปจุดวัดความดัน อยู่ในห้องเดียวกันนั้นแหละค่ะ หันซ้ายจะเจอทันที มีพยาบาลนั่งรออยู่หนึ่งคน
4. วัดความดันเสร็จ เปิดประตูออกมาแล้วเข้าห้องตรงข้าม นั่งรอพบหมอเหมือนต่อคิวเข้าห้องน้ำห้าง 55555 (คุณผู้ชายจะเข้าใจไหมนะ) ไม่ต้องยื่นประวัติ ไม่ต้องรอเรียกอะไรทั้งนั้น นั่งรอหน้าห้องหมอ พอคนข้างหน้าเดินออกมา เราก็เดินเข้าไป ประทับใจเว่อ
5. หมอจะถามว่าถูกกัดมาหรือยัง หรือว่ามาฉีดล่วงหน้า เพื่อพิจารณาว่าจะฉีดอะไรให้ พอเราบอกว่ามาฉีดล่วงหน้า หมอก็จะอธิบายว่าต้องฉีด 3 เข็มนะ วันนี้ แล้วนับไปอีก 7 วัน ครั้งสุดท้ายนับไปอีก 21 หรือ 28 วัน เราก็โอเคค่ะ
6. เดินออกจากห้องหมอ เดินไปทางซ้าย 3 ก้าว เข้าห้องหมายเลข 3 ยื่นใบประวัติที่หมอเซ็นมาใส่ตะกร้า นั่งรออีก 2 นาทีเขาจะเรียกเราไปเอาใบจ่ายเงินแล้วให้เราเดินไปจ่ายเงินที่ห้องหมายเลข 5 ค่ะ (อยู่ตรงทางเข้าเลย ก้าวเข้ามาก้าวแรกในสถานเสาวภามองขวาจะเห็นเลย อยู่ติดประชาสัมพันธ์)
7. จ่ายค่าวัคซีน 120 บาท ค่าหมอ 50 บาท
8. จ่ายเงินที่ห้องหมายเลข 5 แล้วถือใบเสร็จเดินกลับมาที่ห้องหมายเลข 3 นั่งรอ (อีก 2 นาที) เขาจะเรียกเข้าไปรับวัคซีน โดยฉีดเข้าหัวไหล่ข้างที่ไม่ถนัด ไม่เจ็บ ฉีดแล้วไม่ค่อยปวด เสร็จแล้วก็เดินกลับบ้านแบบงง ๆ พร้อมความรู้สึกคอมพลีทในใจว่ามาฉีดตามนัดอีก 2 ครั้งจะไม่ตายด้วยโรคพิษสุนัขบ้าแล้ววว
ค่าเสียหายรวมทั้งหมด 190 บาท ครั้งที่สองและครั้งที่สามครั้งละ 170 บาท ถูกอย่างกับ...
รวดเร็วมาก ๆ ด้วยค่ะ เพราะตอนที่ไปมีคนไป 3 คน ใครว่า Show DC เงียบแล้ว สถานเสาวภานี่เงียบกว่าอีกค่ะ 555555
คืออออ... โรคพิษสุนัขบ้ากำลังระบาดนะพี่ชายยยย
สถานีต่อไป: วัคซีน HPV ป้องกันมะเร็งปากมดลูก
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in