เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
#STORYJOOMreal61_
9 นาฬิกา
  • คุณเชื่อเรื่องพรหมลิขิตมั้ย? 
    สำหรับผมในตอนแรกมันอาจจะดูเป็นเรื่องที่เพ้อเจ้อเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้แต่ในนิยายเพ้อฝัน
    แต่เมื่อมาเจอกับคนๆนึงมันกับทำให้ผมเชื่ออย่างหมดใจว่าพรหมลิขิตมีจริง...



    "ป้าครับ เอา..."

    "กาแฟเย็นไม่หวาน1แก้วใช่มั้ยจ๊ะ"

    "ใช่ครับ ป้าจำได้หรอ"

    "แหม๋ ก็พ่อหนุ่มเล่นสั่งเมนูเดิมทุกวันป้าจะจำไม่ได้ ได้ไงละแล้วนี้ไม่คิดจะกินอย่างอื่นมั้งเลยหรอ"

    "ไม่ละครับกินแบบเดิมป้าคนสวยจะได้จำผมได้"

    "พ่อหนุ่มนี้หล่อแล้วยังปากหวานอีก ยืนรอแปปนะจ๊ะพอดีวันนี้คิวมันยาว"

    "โอเคครับ"

    หลังจากที่ผมสั่งเครื่องดื่มที่ตัวเองชื่นชอบเสร็จเรียบร้อยก็เดินมานั่งรอที่โต๊ะพร้อมกับหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาเปิดเพลงฟังเพื่อฆ่าเวลา

    ( เป็นเพราะความบังเอิญหรือใครลิขิต
       ให้ชีวิตฉันได้พบกับเธอ
       คนที่ธรรมดาแต่ดูช่างเลิศเลอ
       อยู่ข้างฉันด้วยกันตอนนี้ )

    "กาแฟเย็นไม่หวานได้แล้วจ๊ะ"

    ได้ยินแบบนั้นผมก็เดินตรงไปที่เคาเตอร์เพื่อที่จะรับกาแฟมากินแต่มือยังไม่ทันได้สัมผัสแก้วกาแฟป้าก็พูดขึ้นมาก่อน

    "แก้วนี้ไม่ใช่ของพ่อหนุ่มนะ ของยัยหนูคนนี้พอดีเขามาสั่งก่อน"

    อ่าว ชิปหายหน้าแตกเลยมั้ยละผมหันไปโค้งขอโทษคนข้างๆอย่างรวดเร็ว

    "ขอโทษนะครับ พอดีผมไม่รู้" 

    ผมพูดทั้งๆที่ยังคงก้มหัวอยู่แบบนั้น

    "อะ เอ่อไม่เป็นไรๆ คุณไม่ต้องขอโทษผมขนาดนั้นก็ได้เรื่องแค่นี้เองขอโทษซะใหญ่โตเลย555555" 

    อีกฝ่ายพูดพร้อมกับหัวเราะเสียงใส สวย ต้องสวยแน่ๆเสียงน่ารักๆแบบนี้คิดแบบนั้นผมก็รีบ
    เงยหน้าขึ้นไปมองหน้าอีกฝ่าย 

    "......" 

    อ้าว ไม่ใช่ผญ.นิ แต่ทำไมถึงได้น่าตาน่ารักแบบนี้หรือว่าเป็นทอม?  ไม่มั้ง ก่อนที่ความคิดผมจะตีกันให้วุ่นวายกว่านี้ก็ต้องหยุดลงเพราะเสียงของคนตรงหน้า

    "หน้าเรามีอะไรติดป่าว ทำไมจ้องเราขนาดนั้นละ"

     นี้ผมมองเขานานไปหรอ เขาจะคิดว่าผมโรคจิตมั้ยเนี่ย

    "น่ารัก"

    "ห๊ะ?"

    "คุณนะ น่ารัก"

    ( ยิ่งใกล้เท่าไรก็ยิ่งหวั่นไหว
      อยากจะถามเธอมากับใครหรือไม่มี
      แต่ทำได้แค่มอง 
      ไม่ยอมทำอะไรสักที )

    หลังจากผมพูดประโยคนั้นจบคนตรงหน้าก็เกาคอแก้เขิน อ่าา ดูหน้าที่ขึ้นสีชมพูนิดๆนั้นสิทำไมยิ่งมองยิ่งหลงนะ

    "คุณ..."

    "อิม ชางกยุนครับ"

    คนตัวเล็กตรงหน้าตอบพร้อมกับส่งยิ้มหวาน

    "ผมอี จูฮอนนะครับ คือถ้าไม่เป็นการรบกวน...มาดื่มกาแฟเป็นเพื่อนผมได้มั้ยครับ?"

    ชางกยุนมองหน้าผมด้วยความสงสัยแต่ก็ยอมตอบตกลงที่จะมานั่งเป็นเพื่อน เราเลือกนั่งที่ในสุดของร้านเป็นมุมที่เงียบสงบไม่ค่อยมีคนเดินผ่านไปผ่านมาเท่าไร ในตอนแรกไม่มีบทสนทนาใดๆออกจากปากเราทั้งคู่เพราะต่างคนต่างไม่กล้าชวนคุยแต่พอผมเปิดประเด็น การสนทนาของเราก็ไหลลื่นต้องขอบคุณความช่างพูดของชางกยุน เราแลกเปลี่ยนความคิด แชร์เรื่องต่างๆกันแต่สิ่งที่น่าแปลกคือเรากล้าคุยเรื่องพวกนี้กับคนที่รู้จักกันยังไม่ถึงชั่วโมงได้อย่างสบายใจ

    "คุณจูฮอนไม่กลับบ้านหรอครับเรานั่งคุยกันมาหลายชั่วโมงแล้วนะ"

    อ่า นั้นสิ ที่เขาบอกเวลาแห่งความสุขมักผ่านไปเร็วมันเป็นแบบนี้นี่เอง

    "เรียกผมว่าพี่ก็ได้ครับเราเด็กกว่านิ"

    "เอาแบบนั้นหรอครับ"

    "ถ้าไม่อยากเรียกก็ไม่เป็นไร"

    "อย่าทำหน้าผิดหวังแบบนั้นสิครับ พี่จูฮอน"

    ไม่น่าเลยจูฮอน ไม่น่าให้น้องเรียกแบบนั้นเลยจะดาเมจกันเกินไปแล้ว

    ( แล้วฉันจะพูดอย่างไร 
      เพื่อให้เธอได้เข้าใจ
      ให้รู้ว่ามีความรัก 
      มาจากคนข้างๆ กาย
      จะต้องทำยังไงช่วยบอกฉัน
      เพื่อไม่ให้เธอนั้นเดินผ่านไป )


    งานเลี้ยงย่อมมีวันเลิกลา พบกันก็ต้องมีจากกัน เราต่างคนต่างต้องแยกย้ายกลับบ้าน แล้วก็เป็นได้แค่คนที่ไม่รู้จักกัน และผมไม่มีทางให้เป็นแบบนั้น

    "คือ น้องชางกยุน"

    "ครับ?"

    "จะเป็นอะไรมั้ย...ถ้า..พี่จะ.."

    "จะอะไรครับ?"

    กล้าหน่อยอีจูฮอน หรือมึงจะปล่อยให้น้องเป็นแค่คนที่ไม่รู้จัก

    "พี่ไลน์ขอหน่อยน้องครับ" 

    ผมรีบพูดแล้วก้มหน้าลง พูดไปแล้ว พูดออกไปแล้วน้องจะให้มั้ย จะหน้าแตกมั้ยโอ๊ยลุ้นว้อยย

    "55555"

     อ้าว น้องหัวเราะ หัวเราะทำไมอะพี่ตื่นเต้นนะเห้ย พี่จริงจังอะพี่จริงจัง

    "พี่ไม่ต้องรีบพูดก็ได้ครับ ไม่มีใครแย่งพี่พูดหรอก จะขอไลน์ผมหรอ?"

    "อือ พี่ขอไลน์เราได้มั้ย"

    "ผมไม่ได้เล่นนะสิ.."

    นกจ้า นกแน่ๆกู แววนกมาแต่ไกลเลย ชีวิตของอีจูฮอนคือจะจีบใครก็นกหมดเลยใช่มั้ย สงสัยต้องไปทำบุญจริงๆแล้วละ

    "เอาเบอร์ไปแทนได้มั้ยครับ"

    ห๊ะ อะไรนะเบอร์ เบอร์หรอโอ๊ยหัวใจของชายที่โสดตั้ง20กว่าปีจะหลุดออกมา แสดงว่าแต้มบุญยังไม่หมด

    "ทำหน้าตกใจอะไรขนาดนั้นครับพี่555555"

    "แค่รู้สึกดีใจ"

     เอาจริงๆก็ไม่แค่อะกูดีใจมาก ดีใจสุดๆแต่ขอคีปลุคหน่อยเดียวน้องมันตกใจ ผมรีบยื่นมือถือให้คนตรงหน้า

    "นี้ครับ ผมไปก่อนนะครับพี่จูฮอน สวัสดีครับ"

    คนตัวเล็กกว่าโค้งให้ผมแล้วรีบวิ่งออกจากร้านไป ปล่อยให้ผมยื่นยิ้มกับจอมือถือที่โชว์เลขทั้ง10หลัก ผมจัดการเมมเบอร์นั้นลงในเครื่องอย่างรวดเร็ว 

    ( ความรักมันเต็มท่วมหัว
      ตัวกับใจยังไม่กล้า
      หลงรักคนยืนข้างซ้าย 
      ตรงที่เก้านาฬิกา
      ก่อนเสียงเพลงบรรเลงท่อนสุดท้าย
      ฉันต้องทำยังไงเพื่อได้เธอมา
      ก่อนที่ใครจะคว้าไป )


    โทร ไม่โทร โทร ไม่โทร โทร ผมนั่งทะเลาะกับความคิดของตัวเองมาสักพักใหญ่ๆ

    "มึงจะนั่งขมวดคิ้วอีกนานมั้ย คิ้วมึงจะผูกกันเป็นโบว์อยู่แล้ว"

    เสียงเพื่อนสนิทจอมกวนเอ่ยขึ้นหลังจากมันนั่งมองผมทะเลาะกับตัวเองมาซักพักใหญ่ๆ

    "ก็กูเครียด"

    "เครียดไรวะ ปรึกษากูได้นะ"

    มันพูดพร้อมกับทำท่ายืดอกแบบมั่นอกมั่นใจ ผมเห็นท่าทางแบบนั้นก็อดที่จะกวนประสาทมันไม่ได้

    "เรื่องเงิน"

    "รู้สึกเหมือนแม่เรียกไปตากผ้าวะ"

    นั้นไง เป็นไปตามคาด ผมว่าแล้วมันต้องตอบแบบนีี้555555

    "สรุปมีเรื่องไร เห็นนั่งจ้องโทรศัพท์มาตั้งนานและรอไลน์ใครแน่ๆแช ฮยองวอนคนนี้ฟันธง!"

    "อย่าเป็นหมอดูนะ เดี๋ยวโดนเขากระทืบเพราะดูดวงไม่ถูก"

    "เอ้า แล้วเรื่องไรวะอยากใส่ใจมากครับ"

    "ที่แท้ก็อยากเสือกนี้เอง"

    "ไอ้จูฮอน เพื่อนเฬว เล่ามา"

    "กูชอบคนนึงเจอที่ร้านกาแฟ"

    "ได้ขอไลน์มาปะ"

    "หึ เขาไม่มี"

    "เอ้า ไอ้ห่านิแล้วจะสมหวังมั้ยเนี่ย"

    "แต่กูได้เบอร์มา"

    "มึงก็โทรไปหาเขาดิวะ เร็วๆ"

    "ไม่เอา กูเขิน"

    "......"

    "มึงกูจะทำไงดีอะ ช่วยกูหน่อยดิ"

    ไอ้แชมองผมอย่างเหนื่อยใจก่อนที่จะเดินมาหยิบโทรศัพท์จากมือผมไปแล้วมันก็เอาไปกดอะไรยุกยิกๆสักพักมันก็ยื่นมาให้ผม

    "คุยซะ เขารับแล้ว"

    "ห๊ะ รับอะไรใครรับ"

    "คนนั้นไง กูโทรให้แล้วคุยเร็วๆ"

    "ไอ้แช ไอ้เหี้ยย"

    "แล้วมึงจะมาขอบคุณกูทีหลังเพิ่ลรักส์"

    มันพูดจบก็วิ่งออกไปนอกห้องปล่อยให้ผมนั่งสติแตกอยู่คนเดียว แม่งเอ้ยมาทิ้งระเบิดแล้วก็ไปฝากไว้ก่อนเถอะมึง แล้วจะทำไงดีกดวางดีมั้ย หรือจะคุย โอ๊ยเครียดยิ่งกว่าตอนสอบเข้ามหาลัยอีกว้อย

    "ฮัลโหล"

    (ฮัลโหล นี้ใครครับ)

    "....."

    (ถ้าไม่พูดผมขออนุญาติกดวางนะครับ)

    "เดี๋ยว ชางกยุน"

    พูดแล้ว พูดออกไปแล้ว พ่อแก้วแม่แก้วช่วยจูฮอนด้วย

    (หืม?นี้ใครครับ)

    "พี่เอง"

    (พี่ไหนครับ)

    "จูฮอน"

    (อ๋ออ พี่จูฮอนนี้เอง ว่าไงครับ)

    "คือ..พี่แค่จะถามว่าเราถึงบ้านยัง"

    (ถึงแล้วครับ พี่จูฮอนละถึงยัง)

    "พี่ก็ถึงแล้วเหมือนกัน"
    .
    .
    ผมนั่งคุยกับชางกยุนผ่านโทรศัพท์เป็นเวลานานจากนาทีกลายเป็นชม. จาก1ชม.กลายเป็น2-3ชม. ทำให้ผมรู้อะไรในตัวเขาเพิ่มมากขึ้น รู้ว่าเขาเป็นคนชั่งพูดชั่งคุย รู้ว่าเขาเรียนที่เดียวกับผม รู้อะไรหลายๆอย่างในตัวเขาและที่น่าแปลกคือผมสามารถนั่งฟังเขาเล่าเรื่องตัวเองให้ผมฟังได้หลายชม.โดยที่ผมไม่เบื่อเลย แต่มันกับทำให้ผมรู้สึกมีความสุขซะอีก
    .
    .
    "ชางกยุนพน.ว่างมั้ย"

    (อืมม พน.หรอว่างนะครับพี่มีอะไรรึป่าว)

    "เรา..."

    (....)

    "ไปกินกาแฟกันอีกมั้ย"

                                  

    ถ้าเนื้อเรื่องแปลกๆหรืองงๆก็ขออภัยด้วยนะคะ พอดีพึ่งหัดแต่งยังไงก็ ฝากคอมเม้น ติชม พูดคุย เป็นกำลังใจให้เราได้ใน  #สตอรี่จูเอ็ม นะคะ ขอบคุณค่ะ?

Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in
ffaithsky (@ffaithsky)
ได้ไปกินกาแฟคราวนี้เพราะแชฮยองวอนเลยนะคะแหมมมมมม เกลียดความไม่กล้าแต่พอได้คุยเข้าหน่อย (เอ่อ...อาจจะไม่หน่อยเพราะตั้งสองสามชม. 55555555) นี่รีบชวนไปกินกาแฟอีกเลยนะคะ หวังอะไรหรือเปล่าเนี่ย แล้วคนน้องก็นะ แกล้งเนียนไม่มีไลน์หรือไม่มีจริง ๆ อ้ะ ถูกชะตาพี่เค้าขนาดไหนกันลูกกกกก นั่งคุยเป็นวรรคเป็นเวรแถมยังเสนอเบอร์ให้อีก ฮื่ออออออ ไปเลยค่าาาาา ไปเดทกันนนนนน