เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
[นิยายแปล] BTS - 花様年華 The Notes1Phoenix
[แปลไทย] นิยาย 花様年華 (THE NOTES - BTS) – PROLOGUE เด็กดี
  • Do not copy, Re-Upload Please give my PAGE full credit

    ——————————————–

    PROLOGUE เด็กดี
    ซอกจิน 
    10 OCT 2009

    “ไปกันเถอะ, เราต้องหนีแล้ว” ผมคว้าที่มือของเพื่อน แล้วมุ่งหน้าไปยังประตูที่ด้านหลังห้องเรียน พวกผมวิ่งเลาะไปตามทางเดิน แต่เมื่อมองหันหลังกลับไปผมก็พบว่าพวกผู้ใหญ่กำลังวิ่งหน้าตั้งออกมาจากประตูด้านหลังห้อง… “หยุดเดี๋ยวนี้นะ! ฉันจับแกได้เมื่อไร แกโดนดีแน่!” พวกผู้ใหญ่วิ่งไล่ตามหลังมา พยายามที่จะคว้าเอาต้นคอของพวกผม

    ระหว่างที่วิ่งพรวดพราดลงบันไดก็ต้องคิดไปด้วยว่าจะไปที่ไหนดี และจุดที่ผุดขึ้นมาแรกสุดเลยก็คือภูเขาด้านหลังโรงเรียน พวกผมวิ่งตัดผ่านสนามออกกำลังกาย ขอเพียงแค่พวกผมผ่านประตูใหญ่ไปได้เท่านั้น ก็จะสามารถขึ้นไปบนภูเขาได้ ภูเขาเป็นภูเขาที่ไม่ได้สูงอะไรมากมาย หากแต่เต็มไปด้วยกรวดหิน ทรมานพอตัว… แต่พวกผมก็วิ่งไปไม่ถึงถนนด้วยซ้ำ เพราะหลังจากที่พ้นออกมาจากประตูใหญ่ พวกผมก็เลี้ยวเข้ามุม แล้วกระโจนเข้าไปในพงหญ้า วิ่งแหวกเหล่าแมกไม้ นี่พวกผมวิ่งกันมานานเท่าไรแล้วนะ… ตอนนี้พวกผมไม่ได้ยินเสียงฝีเท้าแล้ว และในที่สุด พวกผมก็หยุดวิ่ง

    พวกผมทรุดตัวนั่งลงบนพื้นที่มีใบไม้ปกคลุม เหงื่อไหลหยดย้อนลงมาตามคาง “เหมือนว่าจะไม่ตามมาแล้วนะ” เพื่อนพยักหน้าพลางหายใจหอบถี่ เขายกปลายแขนเสื้อยืดขึ้นมาปาดเหงื่อ บนใบหน้าของเพื่อนนั้นเปื้อนไปด้วยหยาดเหงื่อและคราบน้ำตา ที่ข้อมือก็มีรอยช้ำสีม่วง แถมบริเวณคอเสื้อก็ขาดวิ่น

    “ปะป๊าจะไม่กลับมาบ้านประมาณ 1 สัปดาห์ มะม๊าก็เอาแต่ร้องไห้ ทั้งคนรับใช้ ทั้งคนขับรถก็ไม่กลับมาแล้ว น้าพูดไว้ว่างั้นนะ เห็นว่าปะป๊าน่ะปิดบริษัท เจ้าพวกคนตะกี้มาที่บ้านฉันตั้งแต่เมื่อวานตอนเย็นแล้ว เขากดอินเตอร์โฟนหน้าบ้านแล้วก็ตะโกนเรียกปะป๊า ทั้ง ๆ ที่มะม๊าและน้าปิดไฟทุกอย่างในบ้านหมดแล้ว พวกเขาก็ก่นด้านกันด้านหน้า นี่นอนไม่ได้จนถึงเช้าเลย” เพื่อนผมเล่าออกมาพลางร้องไห้ ผมเองก็ไม่รู้ว่าจะพูดอะไรออกไปดี ทำได้แค่บอกเพื่อนไปว่า อย่าร้องไห้เลยนะ

    เปิดประตูห้องเรียนเปิดออก คนพวกนั้นกรูกันเข้ามาด้านใน มันเป็นช่วงเวลาที่กำลังจะเริ่มเรียนอยู่แล้ว… 4-5 คนเป็นผู้ใหญ่แต่ไม่ได้มีท่าทางข่มเหงอะไรเลย พวกเขาเดินเข้ามาในห้องเรียน “ใครคือลูกชายของประธานเจ? อยู่ไหน?” คุณครูที่อยู่ในห้องตกใจตาโตเท่าไข่ห่าน เขาทำเหมือนจะบอกว่า ออกไป แต่ก็ไม่มีใครฟังอะไรทั้งนั้น “นี่มันชั้นปี 2 ห้อง 3 ไม่ใช่เหรอ? ฉันรู้มาว่าแกอยู่ห้องนี้นะ รีบ ๆ โผล่หัวออกมาได้แล้ว!” เพื่อนร่วมห้องหลายคนต่างเอ่ยเสียงสั่นพลางส่งสายตามายังเพื่อนที่นั่งอยู่ข้างผม รู้ตัวอีกที เจ้าพวกผู้ใหญ่นั่นก็เข้ามาใกล้พวกผมแล้ว “พวกนายไม่รู้หรือไงว่านี่มันเวลาเรียนนะ? รีบ ๆ ออกไปเดี๋ยวนี้” คุณครูยืนกรานเสียงแข็งแต่สุดท้ายก็โดนผู้ชายอัดเข้ากับกระดานดำลงไปกองกับพื้น

    เจ้าผู้ชายที่ล้มคุณครูลงไปกับพื้นนั้นเดินอาด ๆ เข้ามาใกล้พวกผม เพื่อนร่วมห้องทุกคนต่างก็หันมาทางพวกผม ผู้ชายจับไหล่ของเพื่อนผมไว้แน่น “ฉันจะหิ้วนายไป แล้วให้พ่อนายจ่ายเงินมา ลูกชายทั้งคนคงไม่แกล้งทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้หรอกนะ” พวกผู้ใหญ่เหล่านั้นหายใจแรง บรรยากาศภายในห้องเรียนไม่มีอะไรเลวร้ายไปมากกว่านี้อีกแล้ว

    ผมมองไปที่ใบหน้าของเพื่อนผม สั่น… และหมดหวัง… เขาสั่นเป็นเจ้าเข้า… เด็กคนนั้นเป็นเพื่อนของผม ผมยื่นมืออกไปจากใต้โต๊ะแล้วคว้าเอามือของเพื่อน เมื่อเพื่อนผมหันมา ผมก็ดึงมือเข้ามาใกล้แล้วตะโกนบอกเขา “หนี!!!”

    ท้องฟ้าค่อย ๆ มืดลง ดูเหมือนว่าตอนนี้จะไม่มีคนวิ่งตามพวกผมแล้วจึงได้แหวกแมกไม้เดินออกไปสู่ถนน ภาพพื้นที่โล่งว่างเปล่าซึ่งมีอุปกรณ์กีฬาวางไว้ตั้งแต่เมื่อไรไม่รู้ปรากฎสู่สายตา ผมเดินเข้าไปตรงบาร์เดี่ยวและเพื่อนนั่งลงบนม้านั่ง “จะทำยังไงดี ถ้าซอกจินต้องมาโดนโกรธเพราะฉัน” ผมบอกเพื่อนผมที่เป็นห่วงผมไปว่า ไม่เป็นไร… ตะกี้ผมคิดแค่ว่าจะต้องพาเพื่อนห้องไปจากห้องเรียนให้ได้ ผมคิดเพียงแค่จะพาเขาออกห่างจากคนเหล่านั้น แต่ว่า พอวิ่งหน้าตาตื่นกันออกมาแล้วก็ไม่รู้อีกแหละว่าจะไปที่ไหนกัน

    “ก่อนอื่น ไปบ้านฉันเถอะ” ผมคิดว่านี่มันก็เกือบ ๆ จะสามทุ่มแล้ว เพราะดวงอาทิตย์ก็ได้ลาลับไปกว่า 2 ชั่วโมงแล้ว ไหล่ตกลง… นี่เพื่อนผมไหล่ตกได้ขนาดนี้เลยหรือไงนะ… “ซอกจินมีทั้งปะป๊า ทั้งมะม๊าอยู่ที่บ้านอ่ะ ถ้าพาฉันไปด้วยจะไม่โดนดุเอาเหรอ?” “ก็ถ้าแอบ ๆ เข้าไปก็ได้นิ ถ้าจะเจอแล้วก็โดนดุ มันก็แค่นั้นแหละ” หลังจากที่ออกจากตีนภูเขานี้ไปก็อีกไม่ไกลที่จะถึงบ้าน และเมื่อมองเห็นบ้านจากที่ไกล ๆ แล้ว ผมก็พูดขึ้น “พอประตูใหญ่เปิดแล้ว ก็หลบ ๆ อยู่ข้างหลังฉันแล้วพรวดเข้าไปเลยนะ แล้วไปหลบอยู่หลังต้นไม้ต้นนั้น เดี๋ยวฉันจะวิ่งไปเปิดหน้าต่างให้”

    แม่นั่งอยู่ที่โซฟาในห้องรับแขก “ไปไหนมาเหรอ? มีโทรศัพท์มาจากทางโรงเรียนล่ะ” ผมตอบกลับไปแค่ “ขอโทษครับ” เพราะถ้าทำแบบนี้แล้วจะไม่ต้องตอบอะไรให้มากความ แม่พูดขึ้นว่า “เดี๋ยวปะป๊าก็จะกลับมาแล้ว” แล้วก็เดินเข้าห้องไป ห้องของผมจะถูกคั่นด้วยห้องนั่งเล่น ลึกเข้าไปฝั่งตรงข้าม… ผมรีบเข้าห้องอย่างรวดเร็วและไปเปิดหน้าต่าง

    ช่วงที่เสียงประตูใหญ่เปิดออก มันเป็นช่วงที่พวกผมเติบท้องไส้ให้เต็มด้วยขนมปังและนม จากนั้นก็เล่นเกมกัน เพื่อนมองผมด้วยตาเบิกกว้าง “ไม่เป็นไรหรอก ปะป๊าไม่เข้ามาในห้องฉัน” พูดยังไม่ทันขาดคำ ประตูห้องของผมก็เปิดออก ทั้งผมและเพื่อนยืนทื่อด้วยความตกใจ

    “นายคือลูกชายของประธานเจ?” พ่อผมไม่ฟังอะไรแต่ยังพูดต่อ “มานี่ มีคนที่จะมารับตัวนาย” ด้านหลังประตูนั้นมีผู้ชาย 1 คนยืนอยู่ ผมคิดว่าเป็นครั้งแรกที่ได้เห็นพ่อของเพื่อน แต่ทว่า มันไม่ใช่แบบนั้น มันเป็น 1 ในเหล่าผู้ชายที่กรูเข้ามาในห้องเรียน ผมเงยหน้ามองพ่อ พ่อทำหน้าเหนื่อย คิ้วที่ขมวดซะเป็นรอยย่นพร้อมทั้งเปลือกตาที่กระตุก เมื่อไรก็ตามที่พ่อทำหน้าแบบนี้ ผมขอแนะนำเลยว่าอย่าเข้าใกล้เป็นดีที่สุด ในขณะที่กำลังสงสัยกับสีหน้าของพ่ออยู่นั้น เจ้าผู้ชายคนนั้นก็เข้ามาคว้าเอาไหล่เพื่อนของผม ผมเข้าไปยืนจังก้าอยู่หน้าเพื่อน “ไม่ได้นะครับ ปะป๊า, อย่าให้เขาพาเพื่อนผมไป หมอนั่นเป็นคนไม่ดีครับ”

    พ่อมองผมต่ำแต่ไม่ได้ขยับอะไร “ปะป๊า ช่วยด้วย ขอร้องล่ะครับ นั่นเพื่อนผมนะครับ” เจ้าผู้ชายคนนั้นดูท่าว่าจะลากเพื่อนผมออกไปข้างนอก ผมจับแขนเพื่อนไว้ แต่ว่า… พ่อก็จับไหล่ผมไหว้เหมือนกัน เขากดแรงลงไป และเพราะอย่างนั้นผมถึงต้องปล่อยมือจากเพื่อน ในพริบตา เพื่อนผมก็ถูกลากออกไปด้านนอก ผมพยายามจะสบัดตัวออกจากการเกาะกุมของพ่อ แต่พ่อก็ยังจับไหล่ผมไว้ทั้งอย่างนั้น หนำซ้ำยังกดแรงลงไปอีก “เจ็บ” ผมร้องโอดโอย แต่พ่อก็ไม่มีทีท่าว่าจะปล่อยเลยสักนิดกลับกัน เขายิ่งเพิ่มแรงเข้ามาอีก น้ำตาของผมไหลเอ่อ

    พ่อมองผมจากด้านบน พ่อเหมือนกับกำแพงยักษ์ใหญ่สีเทา บนใบหน้าที่ไร้ความรู้สึกนั้นมีเพียงแค่ความรู้สึกเหน็ดเหนื่อยเท่านั้นที่ปิดบังไม่มิด พ่อมองผมและค่อย ๆ เอ่ยปากพูดช้า ๆ “ซอกจิน ลูกจะต้องเป็นเด็กดี” ใบหน้าของพ่อก็ยังคงไร้ความรู้สึกเช่นเดิม แม้แต่สายตาที่มองมาที่ผม ก็ยังไม่สามารถสัมผัสอะไรได้เลย ผมควรจะทำอย่างไรดีถึงจะหนีจากความทรมานตรงนี้ได้

    “ซอกจิน” ผมหันไปมองทางเสียงของเพื่อนที่เรียกผม เพื่อนกำลังวิ่งหนีผู้ชายคนนั้นแล้ววิ่งมาที่ห้องผม ใบหน้าของเขาเปื้อนไปด้วยน้ำตา พ่อที่ยืนจับไหล่ของผมอยู่ปิดประตูด้วยมืออีกข้าง ปัง! ประตูปิดลงเสียงดังลั่น ผมเอ่ยคำขอโทษออกมา “ขอโทษครับปะป๊า, ผมจะไม่ทำอะไรแบบนี้อีกแล้วครับ”

    วันต่อมา ที่นั่งด้านข้างผมก็ว่างเปล่า ซึ่งคุณครูก็ได้บอกกับทุกคนว่าเพื่อนของผมนั้นย้ายโรงเรียนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

    ——————————————–

    NEXT : เงาในวัยเด็ก 
    โฮซอก 
    23 JUL 2010

    Translate by : INFINITA & INFINITA v.2 Admin 
    Book : 花様年華 The Notes 1 Japanese version

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in