แซลลี่ แม็คไบรด์,น.319

.

เชื่อว่าใครหลายคนคงเคยได้ยิน ได้อ่านหรือรู้จักวรรณกรรมโรแมนติคตลอดการอย่าง 'คุณพ่อขายาว' กันมาบ้างไม่มากก็น้อย และหากเคยได้อ่านก็อาจจะคุ้นเคยกับหญิงสาวน่ารัก สดใส มีเสน่ห์เปี่ยมล้มด้วยความมั่นใจ เพื่อนรักที่สุดของจูดี้ แอ๊บบอทจากคุณพ่อขายาวอย่าง "แซลลี่ แม็คไบรด์" หนังสือเล่มนี้ก็คือภาคต่อเรื่องราวจากคุณพ่อขายาวนั่นเอง

.

คู่อริที่รักบอกเล่าเรื่องราวหลังจากเหตุการณ์ในคุณพ่อขายาวจบไป หลังจากที่จูดี้ แอ๊บบอทได้แต่งงานกับเจอวิส แพดเดิลตั้น (หรือคุณพ่อขายาวที่รักของเธอ) แล้ว เธอได้ขอร้องให้เพื่อนรักอย่างแซลลี่ช่วยมาทำหน้าที่เป็นผู้ดูแลสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าจอห์น เกรีย ที่ตนเองอยู่มาตั้งแต่เด็กจนโต ในทีแรกนั้นแซลลี่ไม่นึกชอบหน้าที่นี้เอาเสียเลย เธอไม่ชอบบรรยากาศหม่นหมองทึมเทา ไม่ชอบอาหารในสถานเลี้ยงเด็ก และเหนือสิ่งอื่นใด เธอยังไม่ถูกชะตากับนายแพทย์โรบิน แม็คเรผู้เป็นแพทย์ประจำสถานเลี้ยงเด็กอย่างมากถึงขั้นเรียกว่าเขาคู่อริได้อย่างเต็มปากเต็มคำ

.

หนังสือเล่มนี้มีกลวิธีในการเล่าเรื่องเหมือนกับคุณพ่อขายาว คือเป็นการเล่าเรื่องผ่านข้อความในจดหมายเพียงฝ่ายเดียวจากแซลลี่ ผู้อ่านจะได้รับรู้เรื่องราวต่างๆ ผ่านคำบอกเล่าเหล่านั้น แต่ที่พิเศษขึ้นมาอีกคือจดหมายที่แซลลี่ส่งให้ ไม่ได้ส่งให้คนๆ เดียวแต่หากส่งให้คนหลายคนด้วยกัน ดังนั้นเราจึงจะได้เห็นเหตุการณ์ที่กว้างขึ้น เห็นมุมมองความคิดที่หลากหลายมากขึ้น คู่อริที่รักเป็นวรรณกรรมโรแมนติคก็จริง แต่เอาเข้าจริงแล้วเรื่องราวก็ไม่ใคร่จะเน้นไปทางความรักมากนัก ความรักเป็นเส้นเรื่องที่แฝงตัวอย่างตามจุดต่างๆ ในเรื่องมากกว่า จุดเด่นที่เห็นชัดของคู่อริที่รักจึงน่าจะเป็นการเล่าเรื่องชีวิตของแซลลี่ที่พยายามจะผลักดันสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าจอห์น เกรียให้มั่นคงเสียมากกว่า หนังสือเล่มนี้จึงออกไปในโทนจริงจังมากกว่าคุณพ่อขายาว แต่ก็ยังหลงลืมความขำขัน ซาบซึ้งตรึงใจและความโรแมนติคที่แฝงอยู่ได้ ทั้งยังทำให้ได้มองเห็นมุมมองตัวละครที่มีต่อยุคสมัยนั้นอีกด้วย ไม่แปลกที่จะมีผู้ยกให้คู่อริที่รักเป็นวรรณกรรมชั้นดีมานับร้อยปี