WARNING!! SPOILER ALERT!!
นานๆจะเจอหนังไทยที่ทำให้รู้สึก fulfill ชีวิตขนาดนี้ไปแบบคาดหวังว่าจะต้องสนุกแน่ และเออมันก็สนุกจริงๆ ด้วยแต่ละประโยคที่หนังพูดออกมาคือโคตรทัช ถ้าคุณอยู่ในสถานะเฟรนด์โซนยังไงก็อินชัวร์แต่ถึงไม่อยู่ในสถานะนั้นดิชั้นก็อินอยู่ดี ก็อย่างที่น่าจะรู้กันว่าหนังเรื่องนี้เป็นหนังเกี่ยวกับความรักของคนสองคนที่เป็นเพื่อนกันมานานแต่แล้วพอมีคนนึงอยากเป็นมากกว่าเพื่อนมันก็ต้องมาถึงทางสิ้นสุดความเป็นเพื่อนในสักวันอยู่ที่ว่าจะสิ้นสุดแล้วพัฒนาหรือสิ้นสุดความสัมพันธ์กันแค่นั้น
จากตัวอย่างหนังอาจจะดูเหมือนปาล์ม(นาย ณภัทร)เป็นฝ่ายที่ล้ำเส้นความเป็นเพื่อนอยากจะก้าวข้ามไปสู่ระดับความสัมพันธ์อีกขั้นซึ่งพอมาดูจริงๆแล้วปรากฏว่าคนที่คิดเกินเพื่อนไปก่อนคือตัว กิ๊ง (ใบเฟิร์น พิมพ์ชนก) ต่างหากแต่กลายเป็นตัวปาล์มเองที่คิดว่าเป็นเพื่อนกันดีอยู่แล้วซึ่งเหตุการณ์นี้มันก็นำมาสู่ความสัมพันธ์ในเวลาต่อๆมา
ตัวภาพยนตร์ไล่ลำดับความสัมพันธ์ของตัวละครเอกทั้งสองมาอย่างละเอียดและเป็นขั้นเป็นตอนเริ่มมาตั้งแต่สมัยเรียนที่กิ๊งมีปาล์มคอยช่วยเหลือทุกอย่าง คอนดูแลคอยอยู่เคียงข้างในวันที่ยากลำลากซึ่งตรงนี้ก็เห็นได้ชัดแล้วว่าทั้งคู่ก็ต่างคนต่างคิดเกินเพื่อนมาตั้งนมนานแล้วแต่อาจจะด้วยความกลัวว่าความสัมพันธ์ที่เปราะบางอย่างความรักจะทำให้ความสัมพันธ์ในตอนนี้มันพังทลายทั้งคู่ก็เลยเลือกที่จะละความรู้สึกนั้นแล้วพยายามมูฟออนตามหาความรักทีี่คิดว่ามันควรจะมั่นคงแต่เอาเข้าจริงพอตัวกิ๊งมีปัญหา คนที่กิ๊งเลือกจะหันไปพึ่งพาก็เป็นปาล์มคนแรกเสมอส่วนปาล์มเองต่อให้ตอนนั้นจะอยู่ที่ไหน จะอยู่กับใครยังไงกิ๊งก็มาก่อนเป็นอันดับแรกเสมอซึ่งมันก็ชัดเจนในแง่ของความรู้สึกส่วนลึกแล้วว่าทั้งสองตัวละครรู้สึกต่อกันมากแค่ไหน
ส่วนหนึ่งที่อยากจะขอชื่นชมในตัวหนังเรื่องนี้เลยก็คือวิวสวยมากกก ไม่ว่าจะไปถ่ายที่ไหนก็สามารถดึงเอกลักษณ์ของสถานที่นั้นๆออกมาได้ดีมาก ดูแล้วรู้สึกอยากไปเที่ยวที่นั่นบ้าง เช่น ฉากที่กระบี่ คือชอบมากกกสวยมากกก สามารถทำเป็นคลิปโปรโมทจังหวัดได้เลยด้วยซ้ำ และวิวที่สวยๆ แบบนี้แหละที่ทำให้เกิดความรู้สึกบางอย่างในใจของตัวละครรวมถึงเกิดความรู้สึกในใจของคนดูด้วยการที่หนังไล่ลำดับแสดงความสัมพันธ์แบบเพื่อนที่มากกว่าเพื่อนมาตลอดเกือบทั้งเรื่องแล้วมีจุดพีคคือการที่แฟนของกิ๊งดันไปมีกิ๊กจนกิ๊งต้องหลบมาพักใจกับปาล์มที่กระบี่พยายามจะประชดแฟนด้วยการหันมาจู๋จี๋กับปาล์มทั้งๆที่ตัวเองก็รู้ว่าอีกฝ่ายคิดยังไงทำให้ความสัมพันธ์ที่ตัวเองคิดว่าถ้าเป็นความสัมพันธ์แบบเพือนมันแข็งแรงกว่ามันอยู่ได้นานมันพังทลาย ทำให้ทั้งสองคนตัดสินใจจะ Break Friendzone
ซึ่งซีนหลังจากนั้นมีอยู่ซีนนึงที่เราประทับใจมากเป็นพิเศษคือซีนที่ทั้งสองคนนัดเจอกันที่หน้าเจดีย์ชเวดากองหลังจากที่กิ๊งบอกว่าจะไปบอกเลิกแฟนของตัวเองทั้งสองคนจุดเทียนขอพรแต่เทียนของกิ๊งดับเสียก่อนปาล์มก็เลยยื่นเทียนของตัวเองมาต่อไฟให้เทียนของกิ๊งซึ่งมันเป็นซีนที่เรารู้สึกว่ามันtouchมากมันคือความรู้สึกแบบต่อให้ผู้หญิงคนนี้จะล้ม จะหมดไฟ หมดหวังยังไงปาล์มก็จะเป็นคนที่คอยจุดไฟ ต่อความหวัง ต่อแรงใจให้กิ๊งเสมอ
แต่ในที่สุดกิ๊งก็ตัดสินใจเลือกที่จะกลับไปหาแฟนของตัวเองเพราะยังกลัวในความสัมพันธ์ที่เปราะบางนั้นกลัวว่าถ้าล้ำเส้นความเป็นเพื่อนไปแล้วทุกอย่างจะพังจะหวนกลับมาไม่ได้อีกซึ่งมันก็จริง เพราะสำหรับฝ่ายปาล์มที่คิดเกิน ล้ำเส้นไปมากแล้วมันไม่มีวันหวนกลับมาเป็นเพื่อนกันแบบเดิมได้อีกแล้วนี่อาจจะเป็นประเด็นสำคัญที่ทำให้หนังเรื่องนี้ซึมลึกเข้าไปอยู่ในใจของคนดูก็ได้เพราะคนที่ตกอยู่ในสถานะเดียวกับตัวละครจะเข้าใจดีที่สุดว่าถ้าหากล้ำเส้นไปแล้วทุกอย่างมันก็ไม่สามารถกลับมาเป็นเหมือนเดิมได้อีกแล้ว
การที่หนังดำเนินเรื่องแบบนี้ทำให้เราเผลอคิดไปเลยว่าดูท่าหนังคงจบไม่สวยเสียแล้วล่ะมั้งเพราะดูเหมือนสองคนก็ต่างคนต่างแยกทางกันไปตามเส้นทางของตัวเองแล้วแต่สุดท้ายกิ๊งก็ตัดสินใจกลับมาทำตามหัวใจลึกๆ ของตัวเอง คือกลับมาหาปาล์มสำหรับตัวกิ๊งแล้วปาล์มเป็นคนสำคัญที่สุดในชีวิตที่ตัวเองรักมาตลอดอาจจะรักมากกว่าแฟนคนไหนเลยด้วยซ้ำเพราะรักมากถึงกลัวมากว่าจะสูญเสียไปถ้าหากเลื่อนขั้นไปอยู่ในสถานะที่เปราะบางอย่างการเป็นคนรักแล้วการตัดสินใจของตัวละครที่ดูพลิกล็อกแบบนี้ก็ทำให้หนังสามารถพาคนดูเข้าไปถึงจุดสูงสุดเข้าไปถึงความรู้สึกของตัวละคร ซึ่งมันทำให้เรารู้สึกได้รับการเติมเต็มมาก
Friend Zone ระวัง..สิ้นสุดทางเพื่อนถือเป็นหนังโรแมนติคคอเมดี้เบาสมอง แต่ซึมลึกเข้าไปในใจคนอย่างง่ายดายถ้าสุดสัปดาห์นี้ยังว่างๆ ลองจองตั๋วเข้าไปดู รับรองว่าคุณจะไม่ผิดหวังแน่ๆ :)
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in