เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
IN BEAR VIEWchochou44
ญี่ปุ่นศึกษา 101
  • หนังสือเกี่ยวกับญี่ปุ่นบนแผงหนังสือบ้านเรานั้นเยอะ จนแถบจะสามารถจัดหมวดหมู่หรือมีชั้นเป็นของตัวเองได้อย่างง่ายๆ 

    เพื่อนหรือคนรอบข้างก็ได้ไปญี่ปุ่นกันราวไปกับไปเที่ยวพัทยา ไปกันง่ายๆ ขนาดๆ ไปซื้อข้าวหน้าปากซอยยังยากกว่า(อันนี้ก็เกินไป)

    แซลมอนเองก็เป็นสนพ.ที่มีความแน่วแน่ที่จะเผยแพร่ความเป็นญี่ปุ่นในมุมมองต่างๆ ให้หมีนักอ่านแบบเราได้อ่านกันมาอย่างต่อเนื่อง ในฐานะที่เราเป็นคนที่ชื่นชอบในการอ่านและได้อ่านหนังสือเกี่ยวกับญี่ปุ่นของแซลมอนมาเสมอๆ เราจึงได้รวบรวมเอาหนังสือแซลมอนที่อยากแนะนำให้คนที่อยากไปญี่ปุ่น อยากรู้เรื่องเกี่ยวกับญี่ปุ่น มาไว้ ณ ตรงนี้

    เริ่มกันตั้งแต่เล่มแรก อาจจะเรียกได้ว่าเป็นเล่มเปิดตัวของหนังสือญี่ปุ่นของแซลมอน

    ข้อควรรู้เกี่ยวกับหนังสือเล่มนี้ ผู้เขียนเป็นแฟนพันธ์แท้ญี่ปุ่นตัวยงเลยล่ะ ตามหาเขาได้ในเพจเฟซบุ๊ค NUT KUN ซึ่งก็เป็นเพจที่เต็มไปด้วยการอัพเดทข่าวสารแปลกของญี่ปุ่นให้คนง่อยญี่ปุ่นอย่างเราได้อ่านกันอย่างสม่ำเสมอ

    ก่อนอ่าน - ญี่ปุ่นก็คือญี่ปุ่นประเทศที่มีเรื่องเล่าไม่จบไม่สิ้น ทำไมต้องเอ๊ะ! เจแปนด้วย จะงงอะไรกับประเทศนี้กัน เอ้าลองเปิดอ่านสักหน่อย

    หลังอ่าน - ถือเป็นหนังสือที่เข้มข้นมากในแง่ของการรวบรวมและค้นหาข้อมูล(เราเคยเอาเล่มนี้ไปอ้างอิงในรายงานด้วย) โดยจะเน้นไปที่คนญี่ปุ่นที่เป็นบุคคลที่ปรากฏได้ในญี่ปุ่นเท่านั้น เป็นหนังสือที่สอดคล้องกับชื่ออย่างไม่ต้องสงสัย ตอนแรกที่เราอ่านเอ๊ะ! พออ่านเสร็จเราก็จะ อ้อ! เพราะผู้เขียนเขาบรีฟเรื่องที่หลายคนอยากรู้ หรือ สงสัยมาให้เราได้ไขข้อข้องใจ หลายเรื่องที่นำเสนอก็เป็นเรื่องที่ทำให้เราได้เห็นอีกด้านของประเทศญี่ปุ่นซึ่งทั้งหมดนี้จะผ่านจากการเล่าเรื่องอย่างออกรสของผู้เขียนเอง

    เอาเป็นว่าถ้าอยากรู้เรื่องญี่ปุ่น การเริ่มศึกษาจากคนญี่ปุ่นในหลายๆ แบบจากเล่มนี้ก็ถือว่าทำให้เราได้รู้จักประเทศนี้ดีขึ้นไปอีก
    แนะนำว่าถ้าอยากรู้เรื่องญี่ปุ่นอีก คนเขียนคนเดิมเขาก็ยังยิงยาวเล่าเรื่องญี่ปุ่นในมุมมองต่างๆ อย่างไม่หยุดหย่อน จนเราต้องคอยติดตามว่า เขาจะงัดไม้เด็ดอะไรมาเสนอเราอีก

    ต่อกันด้วยหนังสืออีกสองเล่มที่ก็ยังคงเล่าถึงญี่ปุุ่น แต่คราวนี้มาในรูปแบบของนักท่องเที่ยว
    .
    .
    ขึ้นเหนือสุดของญี่ปุ่นไปกันที่ ฮอกไกโดกันก่อน
    เอาจริงๆ แค่ดูรูปก็คุ้มแล้วสำหรับเล่มนี้ ปกที่ออกแบบได้แบบญี่ปุ่นมั่กขนาดนี้ ทำให้กระเป๋าเงินในมือนั้นสั่นไปหมดจนต้องหยิบและไปจ่ายตังส์ เพื่อเตรียมพร้อมที่จะท่องเที่ยวแบบทัวส์ไปกับครอบครัวของผู้เขียน

    เมื่อได้อ่านทำให้เรารู้ว่า หนังสือเล่มนี้ไม่ใช่ไกด์บุ๊คนำเที่ยวฮอกไกโดแบบเจาะลึก แต่เป็นเรื่องราวของการเดินทางของสองแฝดสาวพร้อมกับครอบครัวใหญ่ ที่ทำให้เราเห็นถึงความสับสนอลหม่านของการไปเที่ยวแบบครอบครัวตะกูลใหญ่ที่เต็มไปด้วยเรื่องมากมายจนต้องเอามือก่ายหน้าผาก แต่ดูเหมือนว่าการท่องเที่ยวในครั้งนี้ได้ให้บทเรียนทั้งกับผู้เขียนและผู้อ่านมาไม่มากก็น้อย 

    ขอออกตัวไว้เลยว่า เราตามอ่านหนังสือของแวววรรณ เกือบทุกเล่มเหมือนกันกับที่ตามดูภาพถ่ายของวรรณแวว อย่างต่อเนื่อง หนังสือเล่มนี้เป็นอีกเล่มที่อยากแนะนำสำหรับคนที่ชอบญี่ปุ่น และชอบกินเพราะ ของกินในเล่มนี้นั้นมาอัดแน่นพอๆกับเรื่องราวอลหม่านในเล่ม บอกได้เลยว่าเป็นกลุ่มทัวส์ที่น่าอิจฉามากๆ เพราะว่าทริปนี้ของพวกเขานั้นได้กินแต่ของแจ่มๆ ทั้ง ซอร์ฟครีม ทั้งข้าวโพดข้าว ทั้งเมล่อน จนทำให้เราต้องปักหมุดฮอกไกโดในฤดูร้อนไว้ว่า ต้องไปนะ กันเลยทีเดียวละ

    อย่างที่ได้บอกไปว่าภาพในเล่มนี่สวยมากแค่ดูผ่านก็คุ้มแล้ว มันช่วยทำให้หนังสือเล่มนี้ัมีชีวิตชีวามากขึ้นอย่างที่ผู้เขียนบอก คงเป็นเพราะหลายภาพนั้นมาจากกล้องฟิล์มและภาพญี่ปุ่นจากฟิล์มนั้น เป็นอะไรที่ลงตัวมากๆ (ประเทศอะไรถ่ายท่อระบายน้ำยังสวย) ภาพของเกาะฮอกไกโดในเล่มนี้ช่างน่าตามรอยจริงๆ

    นั่นแหละ ฮอกไกโดโฮมเมด จึงเป็นหนังสือที่ไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวง 

    เล่มสุดท้ายคือการตามไปติ่งกับวงไอดอลเกิ(น)ร์ลกรุ๊ปที่ใหญ่ที่สุด ทรงพลังที่สุด ในประเทศญี่ปุ่น!! 

    เราไม่รู้จักคนเขียน ไม่รู้อะไรทั้งนั้น เลขบนหน้าปกนี่คืออะไร ใบ้หวยงวดหน้างั้นหรอ (เอ้าไปกันใหญ่แล้ว!) เราได้อ่านหนังสือเล่มนี้จากห้องสมุด มันอ่านเพลินไปหน่อยจนต้องยืมติดกลับมาอ่านต่อที่บ้าน และอ่านจบภายใน 48 ชม.!!

    ข้างต้นคือความรู้สึกก่อนอ่าน ข้างล่างคือความรู้สึกหลังอ่าน

    โอเค...มันเป็นหนังสือของผู้เขียนคนหนึ่งที่เป็นคนที่เวรี่คลั่งไคล้ในวง AKB48 ที่เขาไปสะกดรอยสถานที่ต่างๆ ที่ปรากฏในเอ็มวีเพลงต่างๆ ของวงนี้ โอโห้ นอกจากจะมีการสะกดรอยหนังแล้วคนเรานั้นก็ยังมีความพยายามในการตามรอยเอ็มวี ทั้งที่จริงๆแล้วอาจจะถ่ายที่สตูดิโอก็ได้ (เป็นการทำลายความฝันมากๆ )

    ก็นั่นแหละเนื้อเรื่องที่เล่าได้เนิร์ดสุดๆ เล่มหนึ่ง และเราชอบวิธีการที่ผู้เขียนเอาแลบทอปไปเปิดเพื่อดูโลเกชั่นมากๆ มันล้ำไปไหน แทบเลตก็พอไหมทำไมต้องยิ่งใหญ่ขนาดนั้น ในส่วนที่จะขอนับถือคือการที่เขาไปตามหาต้นซากุระที่อยู่ในเอ็มวีซึ่ง แม้จะเป็นการเดินทางไปญี่ปุ่นครั้งแรกแต่ผู้เขียนก็มีความพยายามในการตามรอย และไอ้ต้นซากุระนั้นก็อยู่ไกลมากหรือการที่เขาไปดูหนังสารคดีของวงนี้ทั้งที่ไม่รู้เรื่องแต่ก็ดันอินมากจนร้องไห้ และสัญยิงสัญญาว่าจะไปอีก
    ( ไอ้ประเทศนี้นี่มีเสน่ห์อะไรขนาดนั้นที่จะทำให้ทุกคนต้องไปหลงใหลมัน / อืมเราเองก็หลงเช่นกัน)

    เอาเป็นว่าหนังสือเล่มนี้เป็นบันทึกการเดินทางของเนิร์ดคนหนึ่ง ที่มีชื่อเหมือนขนมที่ผลิตจากญี่ปุ่น โดนล่อลวงจากนักเขียนในสนพ.เดียวกันที่ออกหนังสือแนวเที่ยวญี่ปุ่นสายเขมือบโลกในชื่อว่า มิชชั่นกินพอสสิเบิล ซึ่งน่าเสียดายที่เรายังไม่ได้อ่านไว้ถ้าอ่านแล้วค่อยว่ากัน

    เอาเท่านี้ก่อนสำหรับญี่ปุ่นศึกษา ถ้ามีโอกาสอยากจะรีวิวให้ครบเหมือนกัน


Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in