เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
FIND HERiwannabacktobed
Day 2 :
  • เสียงล้อรถบดไปกับเศษก้อนหินเปาะเปาะเหมือนเครื่องทำป๊อปคอร์นที่กำลังทำงานให้เมล็ดข้าวโพดพองตัวและดีดเด้งไปมากระทบตู้กระจกเปาะแปะ หมีหมาแก่ของบ้านเดินเชื่องช้ากระดิกหางเอื่อยๆด้วยแรงทั้งหมด ครางงื้อๆข้างรถแม่ก้าวลงมาพร้อมถุงกับข้าวมากมาย ฉันเดินออกไปรับของเช่นเดิมอย่างเคยชิน แม่ยื่นถุงกับข้าวทะลุผ่านตัวฉันไปยังพี่ชาย โอ้ฉันลืมไปอย่างสนิทใจฉันตายแล้วเมื่อวานนี้ โดยการแขวนชีวิตไว้บนเชือกเส้นหนึ่งแล้วทิ้งร่างลงมาจากขั้นบันได ทุกครั้งที่ความทรงจำนั้นกลับเข้ามาจมูกเหมือนถูกบีบ ปากถูกอุดด้วยก้อนเนื้อล่องหน และหายไปเมื่อฉันรู้ตัวว่าฉันไม่ต้องการอากาศหายใจอีกต่อไป ฉันไม่มีปอดอีกแล้ว ถุงกับข้าวยังคงล้นมือเหมือนเคย ฉันเดินตามพี่ชายและแม่เข้ามาในบ้าน แม่วางของแล้วหันถามพี่ชาย "อ้าว น้องไปไหนไม่ออกมาช่วยเลย หลับอยู่เหรอ" ค้อนปอนด์หนักอึ้งกระแทกเข้าที่หน้าฉันอย่างจังในความคิดเมื่อได้ยินแม่พูดอย่างนั้น พี่ชายเบิกตากว้างแม้โดยปกติแล้วจะเป็นคนที่พูดเจื้อยแจ้วไม่หยุดแต่พอเป็นเรื่องฉันแล้วกลับเงียบแข็งทื่อ "ลูกตายแล้ว" พ่อโผล่งขึ้นจากความเงียบ เดินออกจากห้องนอนมา พ่อมักจะจัดการอารมณ์ของตนได้เสมอ พ่อเก่งเรื่องนี้เสมอ พ่อมักจะบอกฉันตั้งแต่เด็กว่าการตายเป็นเรื่องใกล้ตัว อย่าร้องไห้เมื่อพ่อตาย แต่ไม่ได้ห้ามไม่ให้เสียใจทุกคนมีหัวใจ มีบ่วงที่ผูกติดความสัมพันธ์กันไว้เหมือนร่างแห พอตัดมันเจ็บแต่ไม่นานก็จะหายกลายเป็นปมที่เมื่อไร่โดนก็รู้สึกขรุขระแต่ไม่เจ็บเหมือนแผลสดอีกต่อไป พ่อไม่ร้องไห้หรือเกิดความเสียใจตอนที่เห็นร่างของฉันถูกเคลื่อนออกไป มีเพียงอาการตกใจวูบหนึ่งเท่านั้น แต่ในคืนนั้นโดยปกติแล้วฉันจะนอนข้างพ่อ ตรงกลางระหว่างพ่อและแม่ ฉันนอนอย่างนี้เสมอแม้ห้องนอนที่ถูกสร้างจากความรักนั้นจะสวยมาก แต่ฉันก็มักไว้นอนยามป่วยหรือทำการบ้าน อ่านหนังสือยามดึกดื่นเท่านั้น พ่อนั่งที่มุมเตียงกอดหมอนข้างคิตตี้ของฉันไว้แม้ไม่ร้องไห้แต่นั้นเป็นภาพที่ฉันมองพ่อเศร้ามากนับตั้งแต่ย่าตายไป 

    แม่ยิ้มอย่างอ่อนโยนให้พ่อ "งั้นกินข้าวกันเถอะพ่อ จะได้ไปจัดการเรื่องงานศพ" สติแม่กลับมาอีกครั้งฉันรู้เรื่องนี้เสมอแม่เป็นหญิงที่เก่ง แม่แบกรับหนี้สิน ความเจ็บป่วย และร่างอันน่ากอดของตัวเอง แม่ทำอาหารเก่งที่สุดในโลก ฉันไม่เคยกินข้าวที่ไหนแล้วพูดออกมาว่าอร่อยโดยที่ไม่มีคนถาม ไม่เคยตื่นเต้นว่าหน้าตาของอาหารที่ออกมาเสิร์ฟจะหน้าตาเป็นอย่างไง น่าทานไหม เพราะลิ้นของฉันบอกว่าฝีมือแม่ที่บ้านรอคอยให้ฟันฉันขบเคี้ยวเอื้อยอยู่บนโต๊ะอาหารแล้ว แต่วันนี้แม่เหนื่อยเกินกว่าที่จะทำอาหาร ดังนั้นกับข้าวถุงจากตลาดใกล้บ้านจึงถูกจัดเตรียมบนโต๊ะอาหารโดยมีแม่ละพี่ชายช่วยกันจัดวาง ฉันไม่รู้สึกหิวแถมอยู่ไปก็ไม่ได้กินจึงเดินออกไปเล่นกับหมีข้างนอกบ้าน มันกำลังกินข้าวอย่างเอร็ดอร่อย ฉันเดินไปเตะกะละมังทีหนึ่ง เคร้ง! พี่ชายยื่นหน้าออกมามอง แต่หมีก็ยังก้มหน้าก้มตากินข้าวมันต่อไป ไม่นานหมีก็ฟาดข้าวเรียบ ด้วยความเคยชินตลอดยี่สิบปีเมื่อหมาในบ้านกินข้าวเสร็จฉันจะเป็นคนจัดการกะละมังให้เข้าที่เข้าทาง ฉันเอื้อมมือไปจับกะละมังและจับมันโขกลงกับพื้นให้เศษอาหารเล็กๆออกให้หมด ไม่กี่อึกใจฉันก็โยนมันลงพื้นและเด้งตัวออกจากตรงนั้นเพราะแม่ที่เดินเร็วออกมาดู ฉันหันหลังและแวกทางให้แม่ แต่ยืนมองกะละมังข้าวมาแกว่งตัวอยู่บนพื้นเสียงที่ก้นกระทบพื้นดังซ้ำในจังหวะที่สม่ำเสมอ ตัวแม่สั่นนิดๆสายตามเหม่อลอยแต่จับจ้องไปทั่ว

    "ลูก...นั้นลูกใช่ไหม..."
Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in