เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
My First Storylelouch_cc_sor
เทศกาลที่ต่างออกไป #mnmWriteChristmas
  • เทศกาลไหนๆ ก็เหมือนกันทุกปีนั่นแหละ มันก็แค่อีกหนึ่งวันที่ยืนยันว่าฉันล่วงผ่านเทศกาลนี้ไปอีกปี ฉันไม่ได้จำหรอกว่าตอนนี้ตัวเองอายุเท่าไรแล้ว จะถึงร้อยปีแล้วหรือยัง จะมีคนล้มหายตายจากไปอีกเท่าไร

    ยังไงทุกอย่างก็เหมือนเดิม ฉันยังไม่ตายเหมือนเดิม

    ฉันเอามือซุกในกระเป๋าเสื้อโคตตัวใหญ่ ผ้าพันคอที่ตวัดพันช่วยทำให้อุ่นขึ้นมาก แม้ตอนนี้จะยังเพิ่งเริ่มต้นฤดูหนาวแต่ลมหายใจที่พรูออกมาก็กลายเป็นไอสีขาวจางๆ สองเท้าพาร่างก้าวเดินผ่านตู้กระจกของร้านรวง ย่ำลงไปบนหิมะกองน้อยที่เริ่มหนาขึ้นทุกที ปลายสายตาคือต้นคริสต์มาสที่ประดับแสงไฟระยิบระยับราวกับจะหยอกล้อความมืดดำแห่งม่านราตรี 

    หลายคนยืนถ่ายรูปกันอยู่ตรงนั้น หลายคนเดินผ่านไปมาและชี้ชวนกันดูสรรพสิ่งรอบกาย ช่างสุขสันต์และหรรษาจนฉันที่เฉยชากับทุกอย่างมามากยังอดอิจฉาไม่ได้ ทำไมทุกคนถึงมีความสุขกันนักนะ แล้วดูฉันสิ...

    ฉันชะงักฝีเท้าอยู่หน้ากระจกร้านขายตั๋วของโรงภาพยนตร์ มองเงาสะท้อนซึ่งเป็นภาพของหญิงสาวที่มีเรือนผมสีใบไม้ผลิและดวงตาสีเหลืองอำพันอันโดดเด่น ใบหน้านั้นเฉยชาและดวงตาก็ว่างเปล่าเหมือนกับทุกวันที่เคยเป็น

    "อยากดูหนังเหรอ" เสียงทุ้มคุ้นหูดังอยู่เบื้องหลัง ฉันหันไปมองใบหน้าหล่อเหลาแต่ทว่านิ่งสงบของเขา ตอบกลับไปด้วยน้ำเสียงราบเรียบพอกัน

    "เปล่า"

    "อยากดูเรื่องอะไรล่ะ"

    เอ๊ะ...เขาตีความคำว่า 'เปล่า' ไม่ออกหรือไงกัน? ฉันจ้องหน้าลูลูช จนเขายิ้มมุมปาก 

    "เอาน่า วันคริสต์มาสทั้งที เธอน่าจะฉลองอะไรให้กับตัวเองบ้างนะ" เขาขยับเท้า ฉันจึงเอื้อมไปจับข้อมือนั้นไว้

    "จะไปไหนน่ะ"

    "ซื้อตั๋วหนังไง" เขาตอบ เลิกคิ้วขึ้นคล้ายกับงงว่าเรื่องแค่นี้ทำไมฉันถึงไม่รู้

    "ไม่ต้องหรอก ฉันไม่ได้อยากดู" 

    "แต่ฉันอยากดู" ลูลูชพูดไม่ทันจบประโยคดีก็เป็นฝ่ายลากข้อมือฉันให้ต้องก้าวตามเข้าไปอย่างช่วยไม่ได้ เขาเลือกหนังมาเรื่องหนึ่ง เลือกป๊อปคอร์นแถมยังน้ำอัดลมให้เราอีกคนละแก้ว แล้วก็ลากฉันเข้าไปนั่งแหมะงงๆ อยู่ในโรงหนัง

    แม้จะไม่ได้อยากดูตั้งแต่แรก แต่หนังเรื่องนี้ก็สนุกกว่าที่คิดไว้ เมื่อหนังจบฉันก็เดินออกจากโรงหนังด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้มและดวงตาที่มีน้ำใสเอ่อคลอ

    ก็หนังมันน่ารักแต่ก็ซึ้งมากๆ นี่นา

    "แม่มดอย่างเธอร้องไห้ได้ด้วยเหรอ" เขาทัก ฉันไม่ตอบอะไรนอกจากทำสีหน้ารำคาญซึ่งอันที่จริงคือเขินที่โดนแซวต่างหาก 

    เราทั้งคู่เดินมาหยุดอยู่หน้ากระจกบางใสที่มองออกไปเห็นบรรยากาศเบื้องนอกได้อย่างแจ่มชัด หิมะสีขาวเริ่มโปรยปรายอีกแล้ว เกล็ดของมันขาวละเอียดน่ารักเป็นปุยเบาบางพาให้ฉันย้อนนึกไปถึงวันหนึ่งที่หิมะเคยโปรยปรายเช่นนี้ 

    วันนั้นเรายืนคุยกันบนยอดเนินสีเขียวขจีที่เริ่มมีกองหิมะเป็นหย่อมๆ 

    "ลูลูช นายรู้มั้ยว่าทำไมหิมะถึงมีสีขาว" ฉันจำได้ว่าถามเขาออกไปแบบนั้น เพราะตัวฉันเองก็ไม่ต่างอะไรกับสิ่งที่กำลังพูดถึงเลยแม้แต่น้อย "ก็เพราะมันลืมไปแล้วน่ะสิ ว่าครั้งหนึ่งมันเคยมีสีอะไร"

    ความคิดของฉันหยุดลงแค่นั้น เมื่อมีมือของใครคนหนึ่งสอดประสานเข้ากับมือของฉัน บีบกระชับแน่นจนฉันต้องแหงนหน้าขึ้นมอง

    ดวงตาสีม่วงคู่คมเป็นประกายระยับ นั่นทำให้ฉันใจเต้นแรง 

    เราไม่ค่อยพูดอะไรต่อกันมาก ความเป็นความตายที่เราฟันฝ่ามาด้วยกันทำให้คงไม่มีความจำเป็นจะต้องพูดอะไรต่อกันอีก 

    ในความเงียบ ฉันย้อนนึกกลับไปถึงวันนั้น

    ตอนนั้นเขาเงียบอยู่พักหนึ่งก่อนจะเอ่ยขึ้นว่า

    "ฉันไม่รู้หรอกว่าทำไมหิมะถึงเป็นสีขาว แต่ว่าหิมะสีขาวมันก็สวยดี ฉันไม่ได้เกลียดหรอกนะ"

    ฉันไม่นึกว่าผู้ชายที่เคยบอกว่าไม่ได้เกลียดหิิมะสีขาวคนนั้นจะเป็นคนเดียวกับคนที่ยังอยู่กับฉันในตอนนี้ ผู้ชายคนที่เคยตกปากรับคำว่าหากฉันคือ 'แม่มด' เขาก็จะเป็น 'จอมมาร' ให้เอง

    ผู้ชายคนที่ฉันมอบชีวิตใหม่ให้เพื่อให้เขามอบความตายให้ฉัน แต่ตอนนี้กลับเป็นเขาที่มอบชีวิตใหม่ให้ฉันอีกครั้ง

    เทศกาลในแต่ละปีของฉันมันเริ่มต่างออกไปตั้งแต่ตอนไหนกันนะ...

    เสียงของลูลูชดังเรียกให้ฉันหลุดจากภวังค์ ฉันตาโต หันขวับไปมองเขาอีกครั้งอย่างตกใจ

    "ชื่อฉัน..." เมื่อกี้เขาเรียกชื่อฉัน ไม่ใช่แค่ชื่อ 'ซีทู' ที่ฉันบอกใครๆ แต่เป็นชื่อที่แท้จริง ชื่อที่น้อยคนนักจะรู้

    เขายิ้ม บีบมือฉันหนักขึ้นคล้ายจะส่งไออุ่นมาให้

    "ก็ชื่อของเธอน่ะสิ"

    "เรียกชื่อฉันอีกครั้งได้มั้ย" ฉันพลั้งปาก มารู้ตัวตอนที่เห็นเขาชะงัก แล้วหัวใจของฉันก็กระหน่ำเต้นแรงมากขึ้นเรื่อยๆ เมื่อเขาเอ่ยช้าชัด นุ่มนวลและอ่อนหวานฝากกระซิบผ่านหิมะและสายลมอันบางเบา 

    ฉันยิ้ม ยิ้มอย่างที่ไม่เคยยิ้มมานานมากแล้ว ใบหน้าร้อนวูบขึ้นมาทั้งที่เคยละทิ้งความเขินอายแบบเด็กสาวแรกรุ่นไปนานมากแล้วเหมือนกัน

    "ทำไม?" ฉันถาม

    แล้วลูลูชก็ทำให้ฉันตระหนักรู้ว่าเทศกาลปีนีี้และปีต่อๆ ไปของฉันคงจะเปลี่ยนไปตลอดกาล ยามเมื่อเขาพูดต่อมาอย่างหนักแน่น มั่นคง

    "ก็เพราะชอบน่ะสิ"


    ---------------------- THE END -----------------------




Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in