เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
เรื่องเล่าจากหุบเขาเวิ้งว้างlooksorn (♡˙︶˙♡)
Happy Anniversary
  • Fiction

    Theme: ข้ามกาลเวลา


    อากาศที่เริ่มเข้าสู่ฤดูหนาว ทำให้หลายคนนำเสื้อผ้าหนา ๆมาป้องกันลมเย็นที่กำลังห้อมล้อมเมืองนี้เอาไว้ บรรยากาศของเทศกาลปลายปีเริ่มกลับมาครึกครื้นอีกครั้งแสงไฟที่ประดับตามอาคาร ส่องแสงเหลืองนวลไม่ต่างจากดวงดาวบนท้องฟ้าช่วยให้ผู้คนรู้สึกอบอุ่นมากขึ้น ขณะที่เดินไปมาบนถนน เหมือนเธอที่กำลังเดินช้า ๆ อย่างไม่รีบร้อนบนถนนที่ทอดยาว      

    เธอไม่สนใจอะไรรอบตัวเป็นพิเศษนัก เพราะแค่อยากเดินช้า ๆเพื่อไม่ต้องกลับถึงที่พักแสนเงียบเหงาของเธอเร็วไปในคืนนี้ สายตาของเธอเหม่อมองไปตามทางอย่างไร้จุดหมายจนกระทั่งพบเข้ากับร้านถ่ายรูปที่ดูเหมือนจะมาเปิดใหม่ เพราะเธอไม่เคยเห็นมาก่อน ทั้งที่ทุกวันเดินผ่านแถวนี้อยู่เป็นประจำหน้าร้านเต็มไปรูปภาพของผู้ที่เคยมาถ่ายรูปกับร้าน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นรูปคู่รักที่ถูกถ่ายอย่างประณีตใบหน้าของพวกเขาล้วนเต็มไปด้วยรอยยิ้มพร้อมกับดวงตาที่เต็มไปด้วยความสุข จนเธอต้องหยุดมองรูปพวกนั้นอยู่หน้าร้านครู่ใหญ่ก่อนจะตัดสินใจเข้าไปในร้านในที่สุด

    เธอเปิดประตูเข้าไปอย่างระมัดระวัง พลางมองไปรอบร้านที่ตกแต่งด้วยรูปคนที่เคยมาถ่ายคล้ายกับหน้าร้านสลับกับกล้องถ่ายรูปแบบฟิล์มหลากชนิดจนกระทั่งเห็นคุณตากำลังยืนมองเธอด้วยรอยยิ้ม ทำเอาเธอตกใจไปครู่หนึ่งก่อนจะส่งยิ้มตอบกลับบาง ๆ

    “ที่นี่รับถ่ายรูปแบบเดี่ยวไหมคะ พอดีว่าสังเกตจากรูปที่ถ่ายเป็นรูปคู่ทั้งนั้นแต่ว่ามันดูสวยมากจนอยากจะลองถ่ายรูปเก็บเอาไว้น่ะค่ะ ”  เธอถามด้วยความสงสัยเพราะเกรงว่าร้านนี้จะรับถ่ายรูปแค่คู่รักเท่านั้นและคำถามนั้นก็ทำให้คุณตายิ้มกว้างกว่าเดิม

    “ไม่เป็นไรเลยครับ มาคนเดียวมาสองคนผมก็ยินดีถ่ายให้ทั้งนั้น”

    คุณตาพูดหลังจากนั้นจึงแนะนำให้เปลี่ยนชุดที่ร้านเตรียมให้ตามใจชอบเธอประหลาดใจเล็กน้อยเมื่อเสื้อที่ร้านเตรียมให้หลายชุดคล้ายกับชุดที่เธอเคยใส่เมื่อนานมาแล้วแต่ต่างกันที่ว่าชุดของเธอตอนนี้หายไปแล้วเกือบหมด สุดท้ายเธอจึงเลือกชุดหนึ่งที่เธอเคยใส่มันเป็นชุดโปรดและเต็มไปด้วยเรื่องราวมากมายในช่วงเวลานั้นก่อนจะออกมาเตรียมตัวถ่ายรูปกับฉากที่คุณตาเตรียมไว้

    เธอเกร็งเล็กน้อยเพราะไม่เคยถ่ายรูปแบบนี้มาก่อนได้แต่ยืนขัดเขินอยู่หน้าฉาก จนคุณตาดูองค์ประกอบทุกอย่างเรียบร้อยและเตรียมถ่ายรูปก่อนจะยิ้มอีกครั้ง

    “ไม่ต้องเกร็งครับ ทำตัวตามสบาย มันอาจจะทำให้คุณตกใจไปซักหน่อย แต่ก็ได้สร้างความทรงจำที่ดีอย่างที่คุณหวังไว้นะครับ”คุณตาพูดไปและอมยิ้มไป คำพูดของคุณตาทำให้เธอประหลาดใจอีกครั้งแต่ไม่ได้อะไรตอบกลับไป และหันไปสนใจว่าภาพที่ออกมาจะเป็นอย่างไรจากการที่เธอเลือกใส่ชุดนักเรียนสมัยมัธยมแม้ว่าเธอจะอายุเยอะเกินกว่าจะใส่ชุดนี้ไปแล้วอีกครั้งหนึ่ง

    “จะถ่ายแล้วนะครับ

    เสียงเรียกของคุณตาครั้งนี้ทำให้เธอยิ้มที่คิดว่าสวยที่สุด สายตาของเธอมองไปที่กล้องพลางคิดถึงช่วงเวลานั้นขึ้นมา

     

    3

     

    2

     

    1

     

     

    แชะ

     

    ทันใดนั้น ทุกอย่างรอบตัวเธอมันสว่างจ้าไปหมด เธอก้มหน้าหลับตาไปครู่หนึ่งจากแสงนั้นพร้อมกับคิดว่าเธอคงต้องขอให้คุณตาถ่ายให้ใหม่อีกครั้ง เพราะรูปที่ออกมาคงเป็นรูปที่เธอหลับตาแน่ ๆ

     แต่แล้วกลายเป็นว่าเมื่อเงยหน้าขึ้นมาเธอกำลังนั่งอยู่ในห้องเรียนที่เคยเรียนสมัยมัธยม เธอรีบมองรอบตัวด้วยความตกใจสุดขีดทุกอย่างรอบตัวเหมือนเดิมตอนที่เธอเรียน โต๊ะเรียน กระดานดำหน้าห้องที่เขียนวันที่เอาไว้มันเป็นวันที่วันนี้เดือนนี้เช่นเดิมแต่เมื่อมองปีที่อยู่ มันคือปีที่เรื่องราวนั้นเกิดขึ้น

    นี่ร้านถ่ายรูปกลายเป็นร้านย้อนเวลาไปได้ไงกันนี่มันบ้าไปแล้ว บ้าแล้วมากด้วย

    ทันใดนั้นคำพูดของคุณตาก่อนจะถ่ายรูปก็ทำให้เธอนึกขึ้นมาได้ “...มันอาจจะทำให้คุณตกใจไปซักหน่อยแต่ก็ได้สร้างความทรงจำที่ดีอย่างที่คุณหวังไว้นะครับ”

    “ถ้าเป็นแบบนั้นจริง ๆ แสดงว่า...” ยังไม่ทันที่เธอจะพูดอะไรต่อเสียงจากประตูหน้าห้องก็ทำให้เธอหันไปมอง เขานั่นเอง เขาจริง ๆ ด้วย

              “ฉันเห็นว่ามีร้านขนมมาเปิดใหม่น่ะ แล้วช่วงนี้เธอก็เครียดเรื่องอ่านหนังสือด้วยเลยคิดว่าเธอน่าจะอยากไปกินขนมคลายเครียด” เขาพูดด้วยน้ำเสียงที่นุ่มนวลแต่ดวงตาของเขาไม่มั่นใจเอาเสียเลยเหมือนตอนนั้น ใช่สิ เหตุการณ์นี้เคยเกิดขึ้นมาแล้วและตอนนั้นเรากำลังอยู่ในช่วงห่างๆ กันนี่

              ถ้าเป็นคราวนั้นเธอคงปฏิเสธและขอตัวกลับบ้านเหมือนอย่างเคยแต่เมื่อเธอรู้ดีว่าถ้าเธอเลือกทำแบบเดิมอีกครั้ง การกลับมาครั้งนี้คงไม่มีความหมายและเธอจะทำให้ความทรงจำนี้อยู่กับเธอให้นานกว่านี้ เท่าทีเธอจะทำได้

              “.....”

              “ถ้าเธอไม่อยากไปก็ไม่เป็นไรแต่เราขอไปส่งที่บ้านเธอเหมือนเดิมนะ”

              “อ..เอาสิ เอาสิ ไปกันนะร้านขนมที่ว่าน่ะ”

             

    ตอนนั้นเราคบกันแบบเงียบ ๆ ทำตัวปกติเหมือนเคย เพราะเราต่างเป็นเพื่อนกันมานานและมักอยู่ด้วยกันเสมอ แต่เพราะอยู่มัธยมปลายปีสุดท้ายเธอกดดันเรื่องการสอบเข้ามหาวิทยาลัย และตั้งใจอ่านหนังสืออย่างหนักเธอคิดว่าการทุ่มเทตอนนี้ อาจทำให้เราได้อยู่มหาวิทยาลัยเดียวกัน ได้ใช้ชีวิตด้วยกันใกล้มากขึ้นเพราะเขาเป็นคนเก่งและอยากเข้ามหาวิทยาลัยให้ตัวเมือง ทำให้เธอต้องขยันเพิ่มขึ้นเพราะเธอไม่ค่อยเข้าใจวิชาบางวิชาแต่การตัดสินใจนั้นทำให้เราไม่ได้ใช้เวลาด้วยกันเหมือนอย่างเคย เราคุยกันน้อยลง เธอเป็นคนไม่ค่อยร้องขอเขาเป็นคนตามใจคนอื่นเสมอแม้ตัวเองจะไม่ชอบการตัดสินใจนั้น และนั่นทำให้เราเข้าใจไม่ตรงกัน

    วันนั้นเป็นวันตัดสินทุกอย่างระหว่างเขากับเธอเขาคิดว่าหากเธอยังเลือกที่จะใช้เวลาอยู่ด้วยกัน อย่างน้อยความสัมพันธ์ของเราก็อาจดำเนินไปได้นานกว่านี้เพราะมันคือวันครบรอบของเรา  แต่แล้วเธอปฏิเสธเขาเพราะเธอลืมไปสนิท และการตัดสินใจที่ผิดพลาดนั้น ทำให้เขาคิดว่าเธอคงไม่อยากคบกันกับเขาแล้วเพียงแต่ไม่กล้าร้องขอคำนั้นตามนิสัยของเธอ และอาทิตย์ต่อมาเขาตัดสินใจบอกเลิกกับเธอทั้งที่เขาไม่ได้อยากเลิกเลย

    เธอเสียใจมาก แต่คิดว่าเขาคงตัดสินใจดี แล้วและไม่กล้าร้องขอให้เราได้ปรับปรุงข้อเสียของตัวเองและคบกันเหมือนเดิมทำให้เราห่างกันไป ห่างกันไปเรื่อย ๆ  จนรู้ตัวอีกทีเธอได้รับข่าวจากเพื่อนว่าเขาประสบอุบัติเหตุและเสียชีวิต

    เขากำลังไปทะเลที่เรานัดกันไว้ว่าจะไปด้วยกันหลังเรียนจบเธอได้แต่ยืนร้องไห้อยู่หน้าหลุมศพของเขา และเสียดายเวลาที่ผ่านมา เธอทำอะไรลงไปเธอน่าจะใส่ใจความรักของเราให้มากกว่านี้ แต่เพราะเด็กไปเราเด็กเกินไปที่จะเข้าใจทุกอย่างได้ทันที จนรู้ตัวอีกทีทุกอย่างมันก็สายไปแล้ว

    ตอนนี้เธอได้รับโอกาสอีกครั้ง และเธอจะทำให้ความทรงจำครั้งนี้ดีที่สุดเราไปร้านขนมด้วยกัน พยายามคุยกันมากขึ้น เราสอบเข้ามหาวิทยาลัยเดียวกันตามที่หวังไปทะเลที่เรานัดกันไว้ว่าจะไปหลังเรียนจบด้วยกัน เราต่างให้กำลังใจกันตอนโปรเจกต์ที่จะเสนออาจารย์นั้นยากเหลือเกินและตอนนี้เรากำลังพากันไปร้านถ่ายรูปเพื่อถ่ายภาพชุดวันแต่งงานของเรา

    ร้านนี้ตกแต่งรูปภาพของผู้ที่เคยมาถ่ายรูปกับร้านซึ่งส่วนใหญ่เป็นรูปคู่รัก เธอและเขาพบเจอร้านนี้โดยบังเอิญ เราชอบและอยากลองถ่ายรูปเก็บไว้เป็นที่ระลึกวันที่ดีนี้ไว้ เพราะมันเป็นทั้งวันแต่งงานและยังเป็นวันครบรอบของเราด้วย เราเจอกับคุณตาที่เต็มไปด้วยรอยยิ้มคุณตาจัดดูองค์ประกอบทุกอย่างเรียบร้อยและเตรียมถ่ายรูปก่อนจะยิ้มอีกครั้ง

    “ไม่ต้องเกร็งครับ ทำตัวตามสบาย เรามาเก็บความทรงจำที่ดีอย่างที่คุณหวังไว้กันนะครับ”

    เรามองหน้ากัน บอกรักกันและยิ้มให้กันอีกครั้ง ก่อนจะหันไปมองกล้องแล้วฉีกยิ้มที่คิดว่าสวยที่สุดส่งสายตาเปี่ยมล้นความสุขของเราไปที่กล้อง ที่จะบันทึกช่วงเวลานี้เอาไว้

    “จะถ่ายแล้วนะครับ

     

    3

     

    2

     

    1

     

     

    แชะ

     

    โคมไฟดวงเล็กถูกเปิดขึ้นสะท้อนไปยังกรอบรูปที่ตั้งอยู่ ในกรอบรูปมีรูปคนสองคนที่ถ่ายด้วยกล้องฟิล์มใบหน้าของพวกเขาล้วนเต็มไปด้วยรอยยิ้มพร้อมกับดวงตาที่เต็มไปด้วยความสุข ช่อดอกไม้อันใหม่ถูกวางไว้ด้านหน้า พร้อมกับสายตาที่มองรูปนั้นด้วยความรู้สึกหลากอารมณ์

     

    “สุขสันต์วันครบรอบ ยังคิดถึงเธอเสมอเลย”

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in