ก่อนอื่นเลยขอแนะนำตัวเองหน่อยนะคะ เราชื่อออม เรียนวรรณกรรมสำหรับเด็ก (เอกที่มีที่เดียวในประเทศไทย-โดนล่อซื้อมาด้วยประโยคนี้) ตอนนี้ก็อยู่ชั้นปี 3 กำลังจะขึ้นชั้นปี 4 ในเทอมหน้า และกำลังเริ่มฝึกงานอยู่ค่ะ พวกเราปี 3 ได้รับรู้เรื่องฝึกงานมาตั้งแต่เดือนมีนาแล้ว ซึ่งเพื่อน ๆ หลายคนก็ทยอยได้ที่ฝึกงานตั้งแต่เดือนเมษา ซึ่งการฝึกงานของเอกเราไม่จำกัดประเภทงานเลย ขอให้เกี่ยวข้องกับสิ่งที่เราเรียนมาก็พอ เพื่อน ๆ ในเอกก็มีทั้งฝึกกับโรงเรียน ฝึกกับสำนักพิมพ์ ฝึกที่ห้องสมุด/พิพิธภัณฑ์ แม้แต่ฝึกที่โรงพยาบาลก็มี สำหรับตัวเราเองก็มีที่ฝึกงานในใจแล้ว เราอยากจะไปฝึกงานเกี่ยวกับบริษัทหรือค่ายเกี่ยวกับ Vtuber เพราะว่าเราสนใจเกี่ยวกับการทำคอนเทนท์
        

       ซึ่งจะขออธิบายเพิ่มเกี่ยวกับคำว่า Vtuber ก่อน V tuber เนี่ยมาจาก Virtual (แปลว่าเสมือนจริง) ผสมกับคำว่า YouTube ก็คือการที่นำตัวละครหรืออวตาร์มาใช้แทนคนจริง ๆ ในการสตรีมผ่านแพลตฟอร์ม YouTube
        บางคนอาจจะสงสัยว่าแล้วทำไมถึงไม่ไปฝึกงานที่บริษัทหรือ Studio ที่เกี่ยวข้องกับ YouTuber โดยตรงเลย เพราะว่าเรารู้สึกว่า Youtuber เนี่ยมีเยอะแล้ว แต่ Vtuber ในประเทศไทยเนี่ยเป็นอะไรที่ค่อนข้างใหม่ซึ่งในอนาคตตลาด Vtuber ก็น่าจะขยายได้มากขึ้น อีกอย่างคือมันสามารถต่อยอดได้ เรารู้สึกว่าคอนเทนท์ของ Vtuber เนี่ยก็จะมีความคล้ายกับ YouTuber แต่ก็จะมีความเฉพาะทางมากกว่า อาจจะด้วยข้อจำกัดหลาย ๆ ของตัวโมเดล แต่เรามองว่าตรงข้อจำกัดตรงนี้เป็นข้อดี เพราะว่ามันเป็นการศึกษาและเรียนรู้ ในด้านที่ลึกขึ้นแบบที่ YouTuber น่าจะให้เราไม่ได้
    

     มีคำพูดที่เรามักจะติดปากอยู่ช่วงหนึ่งนั่นคือคำว่า "มุ่งสู่อนาคต" ในช่วงแรกเราใช้คำนี้พูดกับเพื่อนบ่อย ๆ ในการชักชวนเพื่อนในกลุ่มให้มาฝึกงานที่บริษัทหรือค่าย (Vtuber) เดียวกัน แต่เพื่อนก็มีความสนใจในการฝึกงานคนละด้าน ซึ่งตรงนี้เราก็เคารพการตัดสินใจของเพื่อน แล้วก็ตัดสินใจว่าต่อให้ไปฝึกงานคนเดียวก็จะไป เป็นการมุ่งสู่อนาคตแบบเหงา ๆ  แต่คำว่า "มุ่งสู่อนาคต" เราคิดแบบนั้นจริง ๆ เพราะเราคิดว่าในอนาคตอะไรที่เป็น Virtual เนี่ยมันมันเริ่มเข้ามามีบทบาทในชีวิตเรามากขึ้นอย่างเช่น Facebook ที่มี Metaverse ดังนั้นก็ก่อนที่จะเลือกว่าจะฝึกงานที่ไหนดี ก็ทำการศึกษาว่าในประเทศไทยมีบริษัทหรือค่ายเกี่ยวกับ Vtuber ที่ไหนบ้าง เปิดรับเด็กฝึกงานไหม หลังจากเจอค่ายที่อยากลองไปฝึกงานด้วยแล้วก็ลองส่ง resume+portfolio ของเราไป แต่ก็ต้องผิดหวังนิดหน่อยเพราะว่าเราไม่ได้ถูกเลือกให้เป็นเด็กฝึกงาน (เพราะไม่มีอีเมลตอบกลับมา)
      แต่หลังจากนั้นไม่นาน ก็มีโอกาสได้คุยกับเพื่อนคนหนึ่งที่สนใจที่จะทำงานฝึกงานเกี่ยวกับ Vtuber เหมือนกัน ซึ่งเพื่อนก็ได้แนะนำให้เรารู้จักกับค่ายหนึ่ง ก็เลยตัดสินใจว่าเราจะลองส่ง resume+portfolio ของเราไปที่บริษัทนี้ดู ในตำแหน่งเดียวกันกับเพื่อนเลย นั่นก็คือคอนเทนท์ครีเอเตอร์ ซึ่งผลปรากฏว่าเรากับเพื่อนก็ได้ฝึกงานที่เดียวกัน ตำแหน่งเดียวกัน เพราะไม่เหงาแล้วแน่ ๆ
ซึ่งเราก็รู้สึกดีใจนะ ดีใจที่เขา(ค่าย)เลือกเรา แล้วเราก็ดีใจที่เราไม่ท้อแล้วเบนเข็มไปเลือกฝึกงานด้านอื่นไปก่อน เลยคิดเข้าข้างตัวเองว่าเราก็เป็นคนมุ่งมั่นเหมือนกันนะเนี่ย 
         หลังจากที่ได้รับเลือกให้เป็นเด็กฝึกงานเต็มตัวแล้ว ก็มีโอกาสได้พูดคุยคร่าว ๆ กับพี่เฟิร์น พี่เฟิร์นเป็นหัวหน้าทีมครีเอทีฟและผู้ดูแลการฝึกงานของเรากับเพื่อน เรารู้สึกโอเคมากกับการมาเป็นเด็กฝึกงานที่นี่ เพราะว่าพี่ที่ดูแลเปิดโอกาสให้เราได้เลือกว่าอยากทำอะไรหรือสนใจด้านไหนเป็นพิเศษ และพร้อมจะสอนและมอบหมายงานที่พวกเราสนใจให้ ก่อนจะนัดวันเวลาในการพูดคุยครั้งถัดไป
ใน ep.0 ก็จะมีเนื้อหาประมาณนี้ค่ะ ถ้า ใครสนใจเกี่ยวกับการทำคอนเทนท์หรือการทำงานเกี่ยวกับ Vtuber ก็สามารถติดตามบล็อกของเราได้ มามุ่งสู่อนาคตด้วยกันนะคะ 

ปล. ใน EP. ต่อ ๆ ไปจะขอเรียก Vtuber สั้น ๆ ว่า วี เพื่อความสะดวกส่วนตัวและอรรถรสที่เพิ่มขึ้น