เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
Girl x Friend (ss1-2) | hunhanhuan_97
-17-
  • สองเดือนผ่านไปแล้ว ลู่หานเรียนรู้ที่จะใช่ชีวิตกับวัฒนธรรมใหม่ๆ เพื่อนใหม่ๆ และชีวิตใหม่ๆของตัวเอง มีเพียงเพื่อนคนเดียวที่ยังติดต่อหากันอยู่ก็คือควอนโบรัม คนที่คอยช่วยเหลือเธอเวลาเรียนและเรื่องอื่นๆอีกนับไม่ถ้วน หญิงสาวเลือกที่จะไม่ติดต่อกับเพื่อนกลุ่มเดิมเพราะนั่นอาจทำให้กำแพงที่เธอก่อไว้สูงเสียดฟ้าทลายลงมาได้ ลู่หานไม่อยากให้เป็นแบบนั้น

    รถประจำทางจอดลงที่หน้าบ้าน ลู่หานหอบสัมภาระลงมาและเดินเข้าบ้านไป น่าแปลกที่วันนี้รถเต๋าสีมิ้นท์จอดสนิทอยู่ที่บ้าน ลูกชายของบ้านนี้คงกลับมา ใช่..อาคิระกลับบ้านมาทุกเย็นวันศุกร์ไม่ใช่เย็นวันพุธแบบที่เธอกำลังเห็น

    “กลับมาแล้วค่ะ” เสียงใสตะโกนให้คนในบ้านรับรู้การกลับมาของเธอ เสียงตึงตังดังออกมาจากในบ้าน เป็นอาคิระที่วิ่งเข้ามาช่วยเธอถือขาตั้งกล้องหนักๆ ท่าทางกระตือรือร้นของเด็กหนุ่มต้องมีอะไรไม่ชอบมาพากลแน่ๆ ลู่หานของเดาไว้ล่วงหน้า

    “เธอไม่กลับบ้านวันพุธนี่”

    “แหงหล่ะ ถ้าไม่ใช่เพราะพัสดุกล่องเบ้อเริ่มหน้าห้องผม ผมก็ไม่กลับมาบ้านวันนี้หรอกครับ” อาคิระเบ้ปาก เด็กหนุ่มวางขาตั้งกล้องไว้และหันไปสนใจกล่องพัสดุสีน้ำตาลที่จ่าหน้าถึงเธอ ลายมือหวัดๆแบบนี้เธอเคยเห็นมาก่อน ไม่ใช่ของโบรัมและโอเซฮุนอย่างแน่นอน

    “ขอบคุณที่อุตส่าห์เอามาให้นะ จริงสิ! ฮิเดโกะฝากจดหมายมาให้เธอด้วยหล่ะ” มือบางยื่นซองสีน้ำตาลให้แก่เจ้าของที่ควรได้รับ ระหว่างที่อาคิระกำลังง่วนกับการแกะห่อนั่น ลู่หานก็หลบขึ้นห้องมาพร้อมกับกล่องพัสดุไร้ชื่อผู้ส่ง

    คัตเตอร์บนโต๊ะถูกนำมาใช้งานอีกครั้ง เธอจรดปลายมีดลงไปกรีดให้สก๊อตเทปขาดออกจากกันก่อนจะเปิดมันออกดู แน่นอนว่ามันไม่ใช่ระเบิด ไม่อย่างนั้นคงไม่ผ่านมาจนถึงมือเธอได้ ภายในกล่องมีจดหมายและของอื่นๆอีกสามสี่อย่างในกล่องใบนี้ หญิงสาวเลือกหยิบจดหมายมาเปิดอ่านก่อนเป็นอันดับแรก

    ‘ถึง ลู่หาน

    สวัสดีลู่หาน ฉันคิมจงอิน เป็นคนเขียนจดหมายฉบับนี้มา ตัวหนังสืออาจจะอ่านยากไปเสียหน่อยแต่ก็พยายามอ่านหน่อยแล้วกัน ฉันคิดว่าเธอคงสงสัยที่ฉันส่งพัสดุกล่องนี้มาให้เธอได้อย่างแม่นยำ ความจริงแล้วคือคยองซูไปถามคนที่ชื่อโบรัมมาและเธอเองก็ยินดีที่จะบอกเรา
    ฉันและเพื่อนๆที่อยู่ที่ไทยคิดถึงเธอมาก พวกเราจึงซื้อของส่งมาให้เธอ หวังว่าจะชอบนะ มาเริ่มที่ของฉันกับคยองซูดีกว่า เราสองคนรวมเงินกันซื้อเสวตเตอร์ให้ เป็นสีฟ้าอ่อนนะไม่รู้ว่าเธอจะชอบรึเปล่า ฉันคิดว่าที่นั้นคงหนาวเลยซื้อตัวที่หนาๆมาให้ เห็นคยองซูบอกว่าช่วงนี้หิมะกำลังตกงั้นหรอ? ถ้ามีเวลาว่างก็ถ่ายรูปมาฝากฉันสักใบสองใบแล้วก็ขนมมาฝากคยองซูด้วย เราสองคนรอการตอบจดหมายของเธอ’

    มือเล็กค้นหาเสื้อตัวดังกล่าว มันออกจะใหญ่ไปสักหน่อยแต่ก็น่ารักไปอีกแบบ ลู่หานพับเสื้อลงและอ่านจดหมายต่อ

    ‘ชิ้นต่อไปเป็นของมินซอกกับเวนดี้ กระเป๋าแบรนด์เนมที่ฉันไม่ค่อยจะรู้จัก มันชื่ออะไรสักอย่างนี้แหละแต่ฉันจำชื่อมันไม่ได้ ราคาแพงเอาเรื่องเลยนะ แต่ก็อย่างว่าหล่ะ มินซอกออกจะรวยซะขนาดนั้น ไหนจะเวนดี้อีก ส่วนชิ้นที่อยู่ในกระเป๋าแพงๆนั้นเป็นของจงแดนะ เขาซื้อหนังสือมาให้เธออ่านฆ่าเวลาเวลาเธอไม่มีอะไรทำ ฉันคิดว่าเธอน่าจะไม่มีเวลาอ่านมันมากกว่านะ’

    กระเป๋าหนังสีน้ำตาลเกรดเอถูกแพคมาอย่างดี พลาสติกกันกระแทกถูกแกะออก หญิงสาวยิ้มเมื่อพบว่าด้านในของกระเป๋ามีหนังสือฆ่าเวลาที่เธอหมายตาเอาไว้นานแล้วแต่ไม่เคยได้ไปซื้อมาสักที

    ‘ของชิ้นต่อไปคือขนมจากแบคฮยอนและรุ่นพี่ชานยอล สองคนนั้นกลัวว่าเธอจะคิดถึงขนมกรุบกรอบที่ที่นั่นไม่มีขายจึงเหมามาให้เธอโดยเฉพาะ หวังว่าจะถูกใจ มีข่าวดีอีกอย่าง สองคนนั้นกำลังจะแต่งงานในอีกไม่ช้า เธอเตรียมตัวบินกลับมาเป็นเพื่อนเจ้าสาวได้เลย แบคฮยอนฝากบอกให้ฉันเขียนมา’

    ‘นี่เป็นของชิ้นสุดท้ายแล้วหล่ะ เธอคงเดาได้ว่าเป็นของใคร ฉันไม่รู้ว่าภายในกล่องใบนั่นใส่อะไรไว้ ถ้าเธอเปิดดูแล้วช่วยเขียนบอกทีว่ามันคืออะไร ส่งมาให้ฉันอ่านด้วยถ้าไม่เป็นการรบกวน
    ปล. งานวันรับปริญญาเธอจะมาใช่มั้ย ฉันหวังว่าจะเห็นเธอตอนที่ประกาศชื่อรับใบประกาศนียบัตร
    คิมจงอิน’


    ลู่หานพับจดหมายใส่ซองไว้เช่นเดิม มือบางหยิบกล่องพัสดุที่มีขนาดเล็กกว่าออกมา ภายในนั้นมีโปสการ์ดจากที่ต่างๆ มีดอกไม้ช่อเล็กๆที่เริ่มจะเฉา และมีเกียร์สลักชื่อรุ่นที่เขาเคยฝากไว้ที่เธอครั้งหนึ่ง ไม่มีจดหมายหรือข้อความแนบมา มีเพียงของสามสิ่งที่บรรจุอยู่ในนั้น ลู่หานไม่เข้าใจเลยสักนิดว่าโอเซฮุนคิดจะทำอะไรอยู่




    หนึ่งอาทิตย์ถัดมา

    เหนือความคาดหมาย จงอินได้รับพัสดุตอบกลับจากลู่หานที่อยู่ไกลกันหลายร้อยไมล์ มือหนาพิมพ์ไลน์ส่งในแชทกลุ่มเพื่อเรียกรวมตัว เหล่าเพื่อนให้ทยอยกันมาที่ใต้คณะของเขาอย่างพร้อมหน้า โอเซฮุนคือคนแรกที่มาเร็วที่สุดซึ่งไม่ต้องถามหาเหตุผลก็รู้ได้ไม่ยาก

    หลังจากที่มากันครบองค์ประชุม ว่าที่คุณหมอก็จรดปลายมีดเปิดกล่องพัสดุดังกล่าว มีขนมมากมายที่ถูกบรรจุใส่ถุงแบ่งให้เท่ากันประมาณแปดถุงพร้อมจดหมายตอบกลับ จงอินแบ่งขนมในกล่องให้ทุกคนตามชื่อที่เขียนติดไว้ก่อนจะเปิดอ่านจดหมายเสียงดังฟังชัดให้ทุกคนได้ยิน

    “สวัสดีนะทุกคน ขอบคุณสำหรับของที่ส่งไปให้ มันแพงมากจนฉันไม่กล้าเอาไปใช้เลยหล่ะ ขอบคุณนะหมอกับแฟนหมอ เสื้อที่ส่งมาให้ใส่แล้วอุ่นมาเลย ที่จงอินถามมาว่าหิมะกำลังตกน่ะเรื่องจริง ที่นี่หนาวมากจนมือฉันแดงเลยหล่ะ ฉันส่งภาพถ่ายที่ฉันถ่ายเองมาให้ด้วยนะหวังว่าจะชอบ มีขนมมาฝากทุกคนด้วย สมใจอยากแล้วใช่มั้ยล่ะคยองซู ฉันไม่รู้ว่าเธอชอบอะไรเป็นพิเศษเลือกเลือกที่ฉันชอบมาแทน มีให้ทุกคนเลยนะ

    กระเป๋าหนังใบนั่นสวยมากจนฉันไม่กล้าเอามาใช้เลยเพราะกลัวจะเปื้อน มินซอกกับเวนดี้ก็อย่าโกรธกันนะ ส่วนจงแด หนังสือที่นายส่งมาให้ฉันชอบมากเลย นายรู้ได้ยังไงว่าฉันชอบหนังสือเล่มนั่น นายเป็นพ่อมดรึเปล่า

    ขอบคุณแบคกับรุ่นพี่ชานมากนะคะที่อุตส่าห์ส่งขนมมาให้ ฉันกินหมดไปหลายถุงแล้วแถมยังแบ่งให้อาคิระ(ลูกชายของโฮสต์)กับฮิเดโกะ(แฟนอาคิระ)ทานด้วย พวกเขาบอกว่าอร่อยและหวังว่าพี่ๆจะส่งมันมาให้อีกในไม่ช้า ปล. ฉันจะกลับไปรับปริญญาใบแรกในชีวิตแน่นอน”

    “จบแล้วหรอ?” เซฮุนถามขึ้นหลังจากจงอินอ่านจบ ว่าที่หมอพยักหน้าและส่งจดหมายให้ดูว่าตนไม่ได้โกหก แววตาเปล่งแสงหม่นลงไป จงแดได้แต่ตบบ่าปลอบใจเพื่อนอย่างไม่รู้จะแก้สถานการณ์อึมครึมอย่างไรดี

    เวนดี้หยิบรูปที่แนบในซองจดหมายมาวางเรียงไว้บนโต๊ะ มีอยู่รูปหนึ่งที่สะดุดตาเธอมากจนต้องหยิบมาดูใกล้

    “สองคนนี้หน้าคล้ายไอ่ฮุนกับลู่หานเลยเนอะ”

    “จริงด้วย บนโลกใบนี้ยังมีคนหน้าเหมือนกันอยู่ด้วยหรอ? ฉันหล่ะเชื่อจริงๆ” มินซอก

    “คงจะชื่ออาคิระกับฮิเดโกะหล่ะมั้ง พวกเขาดูน่ารักดีนะ” จงอินเสริม

    พรึบ!

    “กูไปก่อนนะพวกมึง ไปก่อนนะเฮีย” เซฮุนลุกออกไปด้วยสีหน้าหม่นหมอง เขาแค่รู้สึกน้อยใจที่อีกฝ่ายไม่ยอมจดหมายกลับมาแบบที่เพื่อนๆได้รับ ชายหนุ่มนั่งใจลอยบนรถรางสายเก่า เขาเพิ่งตระหนักได้ว่าลู่หานกำลังโกรธเขาและอยากที่จะลืมเรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นระหว่างเขากับเธอไปเสีย ห่อขนมที่ทำจากกระดาษสีน้ำตาลถูกเปิดออก มีขนมหลายอย่างน่าตาหน้ากินทั้งนั้นแต่เขาดันไม่มีอารมณ์จะกิน สายตาคมเหลือบไปเห็นแผ่นกระดาษสีขาวที่ถูกซ่อนไว้ลึกสุดออกมาคลี่อ่าน

    ‘ฉันไม่เข้าใจว่านายต้องการอะไรจากการที่ส่งเกียร์รุ่นซึ่งเป็นของสำคัญของนายมาให้ฉัน อย่าพยายามทำสิ่งที่ฉันเคยทำมาแล้ว มันไม่คุ้มค่าเลยด้วยซ้ำ นายรู้มั้ยว่าตลอดสามปีที่ผ่านมาฉันพยายามทำตัวเองให้ดูดีขึ้น ให้สวยขึ้น ทำอะไรหลายอย่างเพื่อนายแต่นายไม่เคยเห็นฉันในสายตาเลย ถ้าวันนั้นฉันไม่ไปที่โรงเรียนเก่า นายก็คงจำฉันไม่ได้ นายไม่รู้ด้วยซ้ำว่าฉันอยู่ใกล้นายแค่เอื้อมแต่นายก็เลือกที่จะไม่สนใจ นายไม่เคยรู้อะไรเลยจริงๆแม้กระทั่งใจของตัวเอง ฉันคิดว่าฉันพยายามมามากพอแล้ว ถึงเวลาที่ฉันจะก้าวไปข้างหน้าและเลิกจมอยู่กับความฝันลมๆแล้งๆของตัวเองเสียที’

    กระดาษในมือถูกลดลงพร้อมหัวใจที่บอบช้ำ มันเป็นการตอกย้ำว่าเขาแทบจะไม่มีหนทางใดที่จะกลับไปสนิทใจกับอีกฝ่ายได้อีก เซฮุนไม่ใช่คนที่ไม่เคยไม่รู้สึกเจ็บปวด เพียงแต่เขาเลือกที่จะเก็บมันไว้ให้ห่างจากผู้คน สองเท้าก้าวลงจากรถด้วยอาการเนือยๆ มือหนาบิดลูกประตูเข้าไปในห้องก่อนจะทิ้งตัวลงบนเตียงที่เขาใช้มันมาเกือบสี่ปี




    อาคิระมองสร้อยที่มีจี้เป็นรูปฟันเฟืองในมือของตัวเองโดยมีพี่สาวชาวต่างชาติและแฟนสาวนั่งอยู่ด้วย เด็กหนุ่มคืนมันให้กับเจ้าของก่อนจะตอบคำถามที่ถูกพี่ลู่หานถามมา

    “ทางนี้ไม่ได้ให้ความสำคัญอะไรกับฟันเฟืองนี่มากหรอกครับ ผมเรียนอย่างเดียว ประเพณีรับน้องก็มีแค่การสังสรรค์ให้รู้จักพี่รู้จักน้องครับ เราไม่มีของแทนใจแบบนี้หรอก ว่าแต่นี้คงไม่ใช่ของพี่หรอกใช่มั้ย?”

    “อืม ของคนที่เคยแอบชอบน่ะ เค้าส่งมาให้ เรียนวิศวะเหมือนเธอเลย”

    “ส่งมาแบบนี้มันมีความหมายอะไรหรอคะพี่ฮานะ มันต้องวิเศษมากเลยใช่มั้ย?” ฮานะถามขึ้น

    “ทางบ้านของพี่..คนที่เรียนวิศวะจะได้เจ้านี่มา มันเป็นของสำคัญน่ะ กว่าจะได้มันมาก็ยากใช่ย่อย เด็กวิศวะเลยหวงฟันเฟืองนี้มาก”

    “ถ้ามันสำคัญแล้วทำไมเขาถึงส่งมาให้พี่หล่ะครับ” อาคิระเอ่ยถามอย่างไม่เข้าใจตามประสาผู้ชาย

    “อาคิระคนโง่ อะไรที่สำคัญมากๆก็ต้องให้กับคนที่สำคัญมากๆไงเล่า นายนี่ไม่โรแมนติกเอาซะเลยนะ” ฮิเดโกะต่อว่า เด็กสาวร่างเล็กกุมมือบางไว้ก่อนจะเอ่ยประโยคหนึ่งที่ทำให้ใจของลู่หานกระตุก “ฉันคิดว่าพี่ฮานะคือคนสำคัญของเขา ฉันอยากให้พี่ลองคิดดูอีกนิดก่อนที่จะตัดสินใจอะไรลงไป ไม่ใช่แค่เขาที่เสียใจ แต่พี่เองก็จะเสียใจด้วยนะคะทั้งๆที่โอกาสมารออยู่ตรงหน้าแล้ว ถึงแม้ว่าครั้งหนึ่งจะเคยพลาดไปแต่มันก็ไม่สายที่จะคว้ามันไว้อีกครั้งนะคะ”

    “พี่.. ฮึก พี่อยากจะพอแล้ว พี่ไม่ไหวแล้วจริงๆ” ร่างบางสะอื้นตัวโยน ความอ่อนแอที่สะสมมาประทุราวกับเขื่อนที่สะสมน้ำไว้มากจนเกินไป ในความจริงแล้วลู่หานก็ยังคงชอบเซฮุนอยู่ซ้ำๆแบบนี้ตลอด เธอไม่มีทางใดเลยที่จะตัดใจจากเขาได้ หนีมาเรียนไกลถึงญี่ปุ่นก็เพราะต้องการทำใจให้ลืมเขาไปแต่มันก็ไม่ได้ช่วยอะไรเลย

    “พี่ยังชอบเขา ฮือ..ฮึก พี่ตัดใจจากเขาไม่ได้”

    “มันจะต้องโอเคค่ะพี่ฮานะ มันจะต้องโอเค” ฮิเดโกะสวมกอดพี่สาวชาวต่างชาติด้วยความสงสาร เธอเข้าใจความรู้สึกแอบรักดีว่ามันเป็นยังไง

Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in