เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
ระหว่างเราแดนสนธยา
ระหว่างเรา
  •      การแอบชอบใครสักคนไม่ใช่เรื่องที่ไม่ดีแต่ก็ไม่ใช่เรื่องที่ดีสะทีเดียว ขึ้นอยู่กับหลายๆปัจจัย อย่างเช่น สถานะ ช่วงวัยหรืออะไรก็ตามแต่ มันสามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคน ไม่มีวันหรือเวลาที่เป็นเหตุแน่ชัดแต่ที่รู้แน่ ๆสิ่งที่เรียกว่า "การแอบชอบ" นั้นเป็นเรื่องที่สามารถเป็นกำลังให้คุณได้ แม้ในวันไม่มีอะไรดีเลยสักอย่าง ขอแค่มีมันคุณก็สามารถมองเห็นโลกนี้เปลี่ยนไปพลิกจากหน้ามือเป็นหลังมือเลยทีเดียว 

    ขณะเดียวกันมันก็ยังสามารถทำให้โลกแสนสวยงดงามของคุณพังทลายล้มครืนลงได้ในชั่วพริบตาเช่นกัน เเต่ผู้คนเหล่านั้นก็ยังคงแสวงหามันหรือโดนมันเล่นงานอยู่ร่ำไป มันช่างน่าขำจริงๆ ที่ตลกกว่านั้นก็คือผมดันไปตกหลุมพลางมันซะได้ ใช่ครับตอนนี้ผมกำลังมีความรักและผมก็กำลัง  "แอบชอบเพื่อน"


           เขา’ เป็นเพื่อนสนิทของเพื่อนผม ผมแอบชอบเขาเมื่อประมาณกลางเทอมที่แล้วได้แต่ว่าตอนนั้นผมเลือกที่ไม่ทำอะไรเพียงเพราะผมกลัวว่า ถ้าผมทำอะไรพลาดพลั้งไปแสดงออกมากเกินไป ชอบมากเกินไป ผมจะเสียเพื่อนและมองหน้ากันไม่ติดจนกระทั่งเวลาผ่านไปจนหมดเทอมผมกลับไม่ได้ทำอะไรสักอย่างเพื่อความรักของผมเลย...  ในช่วงปลายปีเดียวกันนั้นเอง ผมได้รับรู้เรื่องราวบางอย่างที่ทำให้ภายในใจของผมกลับรู้สึกบางอย่างขึ้นมาอีกครั้งเขาคนนั้นกำลังสนใจผมอยู่เหมือนกัน ผมไม่รู้ว่าเขาจะสนใจผมในแง่ไหนหรือเพราะอะไรผมจึงเลือกที่จะคิดเข้าข้างตัวเองว่านี่เป็นโอกาสที่จะทำให้ผมรู้จักและสนิทกับเขาขึ้นอีกสักนิดแต่ผมยังไม่รู้หรอก ว่าผมควรจะเริ่มยังไง หรือเข้าหาแบบไหน ?


          กระทั่งวันที่โอกาสมาถึง ขณะที่ผมแชร์เพลงที่ผมชื่นชอบลงสตอรี่ไอจี เขาคนนั้นกลับทักมาคุยเกี่ยวกับเรื่องเพลง เราพิมพ์คุยกันเป็นชั่วโมงจากเรื่องเพลงกลายเป็นเรื่องงาน จากเรื่องงานกลายเป็นชีวิตประจำวันบางวันคุยกันด้วยประโยคเพียง 4-5 ประโยคหรือบางวันก็คุยกันจนหลับไปหลายคนมองว่าแค่นั้นมันไม่คุ้มคาที่จะรอ แต่สำหรับผมแล้วต่อให้เราคุยกันเพียงวันละประโยคมันกลับทำให้ผมมีความสุขเสียเหลือเกิน ความรู้สึกของผมมันเริ่มก่อตัวขึ้นเรื่อย ๆ เขาเริ่มที่จะทำหลายสิ่งหลายอย่างที่แตกต่างออกไปจากเดิมจากที่เราแทบจะไม่เคยคุยกัน จนถึงตอนนี้แค่เราเดินผ่านกันเราทั้งสองก็รับรู้ความรู้สึกพิเศษบางอย่างผ่านสายตาของกันและกันได้. 


          เรื่องราวที่เกิดขึ้นระหว่างผมกับเขามีหลายอย่างที่ผมไม่สามารถเล่าได้ทั้งหมด เพียงแต่การกระทำที่เราแสดงออกต่อกันนั้นพิเศษเกินกว่าที่เพื่อนกันจะทำนี่คือสิ่งที่ผมเลือกจะเชื่อ ชั่วขณะนั้นเองผมคิดเข้าข้างตัวเองเสียเต็มที่ว่าผมนั้นเป็นคน เป็นคนพิเศษสำหรับเขา’  ผมสังเกตุว่าเรามีสิ่งที่ชอบทั้งแนวเพลงหรืออะไรหลายๆอย่างเหมือนกันยิ่งผมได้รู้จักเขามากเท่าไหร่ ผมกลับชอบหลายอย่างๆ ทั้งสิ่งที่เขาเป็นหรือสิ่งที่ผมเห็นมากขึ้นเท่านั้น  ผมมองว่าความพยายามและความทุ่มเทของเขานั้นช่างเปี่ยมล้นไปด้วยความน่าหลงใหล ผมอยากที่จะเป็นกำลังให้เขาได้ก้าวต่อไปอย่างมั่นคง ผมมีความสุขมาก มีความสุขมากจริงๆ. 

  •      

       ....ทว่าช่วงเวลาแห่งความสุขเหล่านั้นอยู่ได้ไม่นาน เราเริ่มคุยกันน้อยลง ระยะห่างของเราเริ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ ถ้ามันเป็นระยะห่างที่มันสามารถวัดได้มันก็คงดีกว่าระยะห่างที่เราสามารถรับรู้แต่ไม่สามารถทำอะไรกับมันได้นี้อย่างแน่นอน เรื่องและสิ่งต่างๆถาโถมใส่ผมไม่หยุดย้อนไม่ว่าจะด้วยเรื่องของงานในคณะที่จะต้องทำส่งให้ทันหรือปัญหาทางด้านครอบครัว เพื่อน ปัญหาอีกมากมายที่พร้อมจะฉีกทึ้งร่างกายและจิตใจของคุณให้แตกออกเป็นเสี่ยงๆ  ทั้งความกดดัน ความเหนื่อยล้าและความอัดอั้นของผมมันผสมปนเปกันจนขุ่นมัวเหมือนน้ำที่ไม่ตกตะกอน ผมรับรู้ได้ว่าความรู้สึกของผมนั้นมันยากขึ้นเรื่อย ๆ 

    ท่าทีที่แสดงออกของเขาเริ่มเปลี่ยนไป ผมเริ่มไม่แน่ใจทั้งกับการกระทำของเขาหรืออะไรก็แล้วแต่ ผมไม่มั่นใจเลยว่ามันเกิดอะไรขึ้นตอนไหนหรือสิ่งไหนที่ผมพลาดไปสิ่งที่ผมกลัวที่สุดในใจไม่ใช่การที่ผมสารภาพออกไปแล้วเขาปฏิเสธ แต่สิ่งที่ผมกลัวที่สุดกลับกลายเป็นว่า "เราจะกลายเป็นคนที่ไม่เคยรู้จักกัน" และเรื่องราวที่เกิดขึ้นเหล่านั้นจะถูกลบเลือนหายไปเหมือนไม่เคยเกิดขึ้นมา

    อย่างน้อยขอเพียงแค่ความชัดเจนเท่านั้นที่ผมอยากรู้เขาไม่จำเป็นต้องตอบรับความรู้สึกผมก็ได้ ผมแค่อยากรับรู้ว่าจริงๆแล้วเขารู้สึกอะไรบ้างหรือป่าว หรือเขาไม่รู้สึกอะไรเลยเขาก็ควรปล่อยผมไป หรือว่าแท้จริงมันคือผมเองที่ยังติดอยู่ตรงนี้ไม่ไปไหน สุดท้ายผมก็ทำได้เพียงคิดและเก็บมันไว้ในใจเท่านั้น

    ทุกๆวันเวลาประมาณเที่ยงคืนผมมักจะออกไปที่ดาดฟ้า ไปยังตรงที่ประจำของผม จุดบุหรี่สักมวนนึงสูบมันให้เต็มปอด ปล่อยให้ความขมขื่นของมันทำหน้าที่แล้วยืนให้ลมพัดพาความเย็นมาโกรกหัวใจที่ร้อนรุ่มของผม ให้หัวใจของผมได้รับการปัดเป่าขึ้นมาบ้างในใจลึกๆ ผมก็แอบหวังว่าผมจะเจอเขาที่นั่นแม้จะมีโอกาสเล็กน้อยผมก็ยังคงหวัง ผมเริ่มหัวเราะและร้องไห้ไปพร้อมๆกัน อา... ความรู้สึกนี้มันช่างทรมานเหลือเกิน


    ผมควรจะทำยังไงกับมันดีผมคิดอยู่ตลอดว่าการกระทำของเขาคือการกระทำที่เพื่อนทั่วไปทำให้กันพยายามไม่คิดเข้าข้างตัวเอง แต่ว่าในใจลึกๆผมกลับไม่เชื่ออย่างนั้น ผมกลับเชื่อว่ามันมีความรู้สึกเกิดขึ้นระหว่างเราจริงๆแต่ผมก็ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับความรู้สึกเหล่านั้น ทำไมมันหายไปราวกับว่าไม่เคยมีผมเลือกที่จะเก็บความรู้สึกของตัวเองและถอยออกมาจากจุดนั้นผมพยายามจัดการกับความรู้สึกตัวเองและความคิดของตัวเองให้ดีที่สุด ผมได้แต่เฝ้ามองเขาอยู่ห่างๆจากชีวิตประจำวันหรือสตอรี่ไอจีของเขามีคุยเรื่องงานกันบ้างครั้งคราวไม่มีอะไรเกินกว่านั้นความรู้สึกของผมยังคงเหมือนเดินไม่เปลี่ยนเพียงแต่ผมยอมรับในความจริงเท่านั้น..

     

  •      ไม่นานมานี้เขามีเรื่องทุกข์ใจ เรื่องนี้ผมมั่นใจ ผมรับรู้ได้ถึงความโศกเศร้าหรือโดดเดี่ยวหรืออะไรสักอย่าง ความรู้สึกที่อยากอยู่คนเดียวของเขานั้น ผมรับรู้มันผ่านจากเพลงที่เขาแชร์ลงสตอรี่ไอจีเขาได้ลบเรื่องราวเกี่ยวกับตัวตนของเขาออกไปทั้งหมด เหลือไว้เพียงบัญชีเปล่าผมได้ทักไปหาเขา ผมรู้ดีว่าเขาคงไม่ตอบในทันทีหรอก ผมจึงทำได้เพียงกลบเกลื่อนความรู้สึกนั้นเอาไว้และนั่งก้มหน้าทำงานต่อไป 

    แต่แล้วจู่ๆความรู้สึกของผมมันก็ปะทุขึ้นมา สิ่งที่ไม่คาดคิดเกิดขึ้น ร่างกายผมขยับไปตามประโยคไม่กี่ประโยคที่ผุดขึ้นในหัวผม  ดาดฟ้า  ผมจึงได้รีบวิ่งออกจากห้องตรงดิ่งขึ้นไปยังดาดฟ้า ใจผมคิดไปต่างๆนาๆว่าจะเกิดเรื่องไม่ดีกับเขาหรือไม่ ?  ผมกลัวเหลือเกิน.. ผมกลัวว่าจะเป็นผมอีกแล้วที่ไม่สามารถทำอะไรได้อีก กลัวว่ามันเหตุการณ์นั้นมันจะกลับมาอีก การที่ไม่รู้อะไรเลยมันน่ากลัวสำหรับผม 

    เมื่อถึงดาดฟ้าผมกลับพบว่าที่แห่งนั้น มีเพียงแค่ความว่างเปล่า...  หากเป็นคนอื่นคงโล่งใจที่ว่าอย่างน้อยเขาก็ไม่ขึ้นมาบนที่อันตรายแห่งนี้แต่ผมกลับใจหล่นวูบและเคว้งคว้าง ผมรีบวิ่งไปดูตามขอบดาดฟ้าเพื่อเช็คว่ามีอะไรเกิดขึ้นหรือไม่ โชคดีเหลือเกินที่ไม่มีอะไรเกิดขึ้น โชคดีที่ครั้งนี้ไม่มีเหตุการณ์ที่ทำให้ผมรู้สึกว่ามันสายเกินไป ผมจึงกลับไปที่ห้องและทำงานที่คั่งค้างให้เสร็จและเอนตัวลงบนเตียงเพื่อที่จะนอน แต่ภายในใจของผมนั้นช่างว้าวุ่น เหมือนมีบางสิ่งเกาะกินหัวใจผมอยู่ตลอดเวลา นี่ผมเป็นห่วงเขามาก เป็นห่วงเขามากจริงๆ.

    ผมไม่สามารถทำอะไรเพื่อเขาได้เลย ข้อความที่ผมทักหาเขาไปนั้น เขายังไม่ตอบ แม้จะมีคนบอกผมว่าทำไมไม่ถามเพื่อนของเขาผมตอบกลับไปว่าผมมีสิทธิ์ที่จะทำอะไรแบบนั้นด้วยเหรอผมสามารถทำอะไรขนาดนั้นด้วยได้เหรอ ใช่แล้วละ.....ถ้าผมคิดกับเขาแค่เพื่อนผมคงทำไปแล้ว แต่ว่าไม่ใช่ผมไม่อยากใช้ประโยชน์จากความอ่อนแอเขามาเป็นข้อต่อรองสำหรับความรักของผม ดังนั้นตอนนี้ผมจึงรู้สึกทรมานอยู่มากที่ว่าผมนั้นกลับไร้ประโยชน์เสียจริงไม่สามารถทำอะไรเพื่อเขาคนนั้นได้เลย.. ผมควรจะทำอย่างไรดี ท้ายที่สุดแล้วผมกลับทำได้เเค่เพียงคอยการตอบกลับนี้อยู่กับสายสัมพันธ์ที่เลือนลางนี้ต่อไป



  •      ผมจะไม่เล่าว่าเรื่องราว "ระหว่างเรา" จบแบบไหน ถึงหน้านี้คุณคงสงสัยและมีคำถามเกิดขึ้นมากมาย ว่าผมนั้นได้สารภาพไหม? เกิดอะไรขึ้น? สมหวังไหม? ผิดหวังหรือป่าว? หรือมีคำถามนอกเหนือจากนี้อีกมากมาย ผมตอบได้เพียงแค่ว่าผมรู้สึกดีใจและยินดีที่ผมเคยได้สัมผัสกับความรู้สึกเหล่านี้ แม้จะมีเรื่องให้เสียใจและเป็นทุกข์อยู่บ้าง แต่อย่างน้อยผมเชื่อว่ามันเปลี่ยนผมไปมาก ผมไม่ได้เพียงเขียนเรื่องนี้เพื่อบอกเล่าประสบการณ์ แต่ผมเขียนเพื่อบอกว่าช่วงเวลานี้นี่แหละที่ทำให้ผมมองหลายๆสิ่งเปลี่ยนไป เป็นเพราะช่วงเวลานี้ที่ทำให้ผมรับรู้ได้ว่าสิ่งสำคัญจริงๆนั้นคืออะไร ? นี่คือจุดสำคัญที่ผมเลือกที่จะมอง สุดท้ายนี้ผมอยากฝากประโยคไว้หนึ่งประโยค

    "จุดสำคัญไม่ใช่ตอนจบของเรื่อง แต่เป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นระหว่างนั้นต่างหากที่สำคัญ"













    เรื่องนี้เป็นเรื่องแรกที่เขียนขึ้น ผิดพลาดประการใดขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยฮะ

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in