เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
it's show time!omelasgirl
[iKON] ชวนมองหลายมุมมองของความเศร้าในจุดจบความสัมพันธ์ในแบบฉบับ New Kids
  •          ในที่สุดก็เดินทางมาถึงจุดสิ้นสุดของซีรี่ส์ New Kids ที่ประกอบไปด้วย 3 อัลบั้ม New Kids: Begin, Continue, The Final และล่าสุดกับ NEW KIDS REPACKAGE ที่มีเพลงไตเติ้ลอย่าง “I’M OK” ที่มีความน่าสนใจคือชื่อเพลงที่ขัดกับการบรรยายความเจ็บปวดในเนื้อเพลงอย่างสิ้นเชิง ในซีรี่ส์นี้มีความน่าสนใจคือเพลงไตเติลของแต่ละอัลบั้มนั้นเป็นการมองจุดจบของความสัมพันธ์อย่างหลากหลายทั้งสุขและเศร้าเสมือนการจบลงของความสัมพันธ์จริงๆที่ไม่มีความรู้สึกอย่างใดอย่างหนึ่งชัดเจน

    โดยรวมของซีรี่ส์นี้เปรียบเสมือนช่วงเวลาการเติบโตของวัยรุ่นคนหนึ่งที่เข้าสู่วัยที่พร้อมเติบโตเป็นผู้ใหญ่ โดยการเปิดตัวซีรี่ส์ด้วยเพลงด้วยเพลง Bling Bling และ B-DAY ที่เต็มไปด้วยสปิริตวัยรุ่น และภาพการเฉลิมฉลองอย่างสุดเหวี่ยงด้วยการเปิดแชมเปญไปหลายขวดในท่อน “Champagne pop pop pop” แสดงให้เห็นถึงการเปลี่ยนผ่านจากวัยเด็กสู่วัยผู้ใหญ่อย่างสนุกสนานผ่านสองเพลงนี
    เมื่อเติบโต ก็จะต้องมีความรักเป็นธรรมดา Love Scenerio เป็นเพลงไตเติลอัลบั้ม RETURN ได้กลายเป็นปรากฏการณ์สำหรับไอค่อนที่มียอดฟังถล่มทลายและทำให้หลายคนได้รู้จักกับวงนี้ จากท่อนฮิตที่ร้องกันได้ทั่วบ้านทั่วเมืองอย่าง “ซารางอึลเฮตตา อูริลกามันนา” ด้วยทำนองฟังสบาย แต่ความหมายของเพลงไม่ได้สบายอย่างทำนองเลย เนื้อหาเพลงนี้เป็นการเล่าความการมองย้อนกลับไปที่สัมพันธ์ในอดีตที่งดงามครั้งที่ยังอยู่ด้วยกันจนดำเนินมาถึงฉากจบที่ต้องแยกย้ายกันไป โดยตอนใกล้จบเพลงยิ่งทวีความขมขื่นในถ้อยคำที่บอกเล่ามาผ่านเสียงบ๊อบบี้มาร้องซ้ำท่อนฮิต ในอารมณ์ที่ต่างออกไปจากทั้งเพลง ที่หลายคนลงความเห็นว่าเปรียบได้กับว่าเขากำลังโทรหาอดีตคนรักเก่าด้วยน้ำเสียงกรึ่มๆกำลังโหยหาความสุขผ่านการรำลึกถึงความหลัง

    Killing Me จากอัลบั้ม New Kids: Continue เปลี่ยนจากมุมมองที่มองย้อนไปในอดีตก็เห็นแต่ความสวยงามครั้งที่ยังอยู่ด้วยกันใน Love scenerio กลายเป็นความทรมานที่รุนแรง และรู้สึกแย่ที่ต้องมารู้จักและรักกับอดีตคนรัก และเมื่อนึกถึงความทรงจำเหล่านั้นกลับกลายเป็นความทุกข์ที่คอยหลอกหลอนเขา ทำให้รู้สึกเหมือนกำลังถูกฆ่าผ่านการคิดถึงอดีตคนรักและความทรงจำที่ยังเคยรักกัน ที่อีกฝ่ายกลับทิ้งให้เขาจมอยู่กับความทุกข์ทรมานอย่างโดดเดี่ยว ถ้าเป็นไปได้ไม่รู้จักกันซะดีกว่า

    Goodbye Road จากอัลบั้ม New Kids: The Final เป็นการบอกลาทั้งๆที่ยังรักกัน แต่ไปด้วยกันไม่ได้ เพลงนี้ทำหน้าที่เป็นเพลงบอกเลิกที่เปี่ยมไปด้วยความเป็นห่วงและความหวังให้คนรักได้ไปเจอคนที่ดี ไม่ต้องมามัวนึกเสียดายอดีตที่อยู่ด้วยกัน เป็นการบอกเลิกที่จำเป็นต้องทำ ถ้าการแยกทางจะทำให้มีความสุขมากกว่าตอนที่อยู่ด้วยกัน ก็ขอให้เธอไปเถิด ไปเจอคนที่ดีกว่าฉัน

    การปิดซีรี่ส์ด้วยเพลง I’M OK ถือเป็นอีกเสตจสำคัญของการจากลา ที่เราไม่ต้องการความเห็นใจจากใคร ถึงแม้ว่าจะทุกข์ทรมานมากแค่ไหนก็ตามก็จะขออยู่คนเดียว และอยากให้เธอรับรู้ว่า เราสบายดี ด้วยการขอให้(อดีต)คนรักก้าวไปข้างหน้าและอย่าหันหลังกลับมามองเราด้วยสายตาที่สมเพชแบบนั้น เพราะเรา “โอเค” แค่ขอเวลาให้เราได้อยู่คนเดียว คิดทบทวนสิ่งที่เกิดขึ้นและดูแลตัวเองด้วยตัวเองดีกว่า

    เห็นได้ว่าไอค่อนนำเสนอจุดจบของความสัมพันธ์ได้อย่างหลากหลาย อีกทั้งยังแสดงให้เห็นว่าการจากกันกระทบจิตใจของคนๆนึงได้มากขนาดนี้ จนต้องมีหลายเพลงมาบรรยายถึงหลากหลายให้เห็นหลายมุมมองของการจบความสัมพันธ์ที่มีทั้งความโกรธแค้น เจ็บปวด แต่อย่างไรก็ตามก็ยังหวังลึกๆให้(อดีต)คนรักได้มีความสุข ไม่ต้องมาเห็นเราทุกข์ทรมานที่ความสัมพันธ์ของเราที่ต้องจบลง

      


Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in