Fictober 2018 by @_error407 : Day 06 "Promise" + Day 07 "Suit"
Fandom : Detroit: Become Human
Pairing : Hank Anderson x Connor (Mobster x Toyboy AU)
Author: @sullie_sp
A/N: ***WARNING: PWP! / ABUSIVE/TOXIC RELATIONSHIP / DEEP-THROAT / DIRTY TALK / VIOLENCE*** งานโกงมาอีกแล้วค่ะ คราวนี้นอกจากจะเลทแล้ว จับสองหัวข้อเป็นหนึ่งแล้ว ยังจะโกงตรงความหมายของคำว่า suit อีก โดยที่เราเลือกใช้ความหมายที่แปลว่า "เหมาะสม/ไปด้วยกันได้" ที่ให้คาร์ลุงกับน้องไว้ก็แทบไม่มีผลกับเนื้อเรื่องหรอกค่ะ(เพราะไม่มีพล็อตอะไรเลย-----) แค่เป็นส่วนเติมแต่งจากจินตนาการของเราเฉย ๆ :D บอกไว้ก่อนว่าแรงจริง ๆ ทั้งคำพูด ทั้งการกระทำ ใครรับไม่ได้สามารถปิดได้เลยค่ะ แต่ถ้าจะอ่านต่อก็ขอขอบคุณจากใจ และของดรับบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปทุกชนิดนะคะ Y-Y
เพล้ง!!
"ฉันบอกไว้ว่ายังไง ทำไมถึงขัดคำสั่ง!"
แก้วใสลอยไปตามอากาศปะทะกับพื้นผิวจนแตกเป็นเสี่ยง ๆ ของเหลวสีเข้มที่บรรจุอยู่ภายในสาดกระเซ็นพร้อมกับชิ้นส่วนน้อยใหญ่ไม่เท่ากันกระจัดกระจายร่วงหล่นตามแรงโน้มถ่วง เสียงคำรามจากฝั่งตรงข้ามดังลั่น ร่างสูงท้วมนั้นเห็นได้ชัดว่ากำลังสั่นด้วยอารมณ์โกรธคุกกรุ่นราวกับไฟเผาไหม้ตัวเขา
แต่อีกฟากหนึ่งนั้น เขา ผู้ที่อยู่ข้างเศษแก้วกลับยืนนิ่งเฉย ตามองลงต่ำไปยังมือของตนที่กำลังพลิกไปมา กำมือกดเล็บขูดสีเล่น ไม่ได้สะทกสะท้านกับการที่ตัวเองเกือบเป็นเป้าหมายของวัตถุที่ถูกปามาเลยแม้แต่น้อย
"ผมไปหาคนรู้จัก ไม่ได้ไปทำอะไรซะหน่อย"
เขายืนหลังพิงกำแพงเอื่อยอ่ายพลางยกแขนขึ้นกอดไขว้ต่ำกว่าอกของตนเล็กน้อย ใบหน้าเงยขึ้น ประสานกับร่างที่จับจ้องด้วยสายตาดุดันขณะยกเท้าซ้ายลอยแกว่งไปด้านหลังเล็กน้อย ก่อนจะปล่อยให้ปลายเท้าที่ห่อหุ้มด้วยรองเท้าหนังเงาวับตกลงพื้น
ตึก
ซ้ำแล้ว
ตึก
ซ้ำเล่า
ตึก
"ฉันสั่ง ไม่ว่าเหตุผลอะไรก็ห้ามไปทั้งนั้น"
ตึก
"ผมก็ไม่ได้อยากไป แต่มันสนุกกว่าไง"
ตึก
"คอนเนอร์!"
เสียงเรียกชื่อดังลั่นไปทั่งห้อง พร้อมเสียงกระแทกกับพื้นตึงตังและร่างที่ขยับเข้ามาใกล้ขึ้น
ตึก!
เสียงกระแทกหัวรองเท้ากับพื้นดังเป็นครั้งสุดท้ายนั้นแรงกว่าปกติ เขากดส้นเพื่อเตะรองเท้าหลุดออกทีละข้าง ก่อนจะถูกกระชากด้วยแรงของมือใหญ่ที่ดึงเสื้อเชิ้ตดำจนยับยู่ยี่
ปึง!
เจ้าของชื่อถูกจับกระแทกกับกำแพงข้างหลังตน น้ำหนักของหมัดที่กดบนอกนั้นมากพอที่จะรั้งให้ตัวลอย
แล้วเขาก็ได้เห็นภาพอย่างชัดเจน
ใบหน้าที่ไร้ซึ่งการกดอารมณ์หรืออาจเป็นเพราะมากเกินจนกักเก็บไว้ไม่ได้อีกต่อไป ลมหายใจหนัก แรงจนเขาเห็นอกนั่นกระเพื่อมขึ้นลง ฟันบนล่างหลังริมฝีปากบดเข้าหากันกรอด ๆ
"ฉันสั่งอะไร แกต้องทำตาม"
เสียงคำรามต่ำนั้นเล็ดรอดผ่านไรฟัน มือหนาปล่อยเสื้อทำให้เขาหล่นลงยืนกับพื้นและทันใดนั้นความรู้สึกเจ็บแปลบราวกับเข็มทิ่มแทงแล่นจากเท้าจนเขาสะดุ้ง
ร่างนั้นขยับใกล้กว่าเดิมจนยืนติดตัวเขา จนรู้สึกถึงอุณหภูมิของอีกฝ่ายทะลุผ่านอาภรณ์หนา
แล้วมือที่เคยจับเสื้อนั้น พลันเปลี่ยนขึ้นจับรอบคอขาวเนียน
"เพราะแกเป็นของฉัน"
แรงบีบเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วจนทำให้อากาศหายใจลดน้อยลง
เขาส่ายหน้าไปมา
นิ้วเรียวจากมือทั้งสองข้างพยายามแทรกระหว่างลำคอของตัวเองกับปลอกคอเนื้อเพื่อง้างออก แต่จะให้ไปสู้แรงคนตัวโตนั่นคงเป็นไปไม่ได้
อีกอย่าง
เขาก็ไม่ได้คิดจะหลุดจากพันธนาการอยู่แล้วด้วย
"ผม.. ไม่เคยบอก ว่า.. ผม..."
เขาพูดขึ้นพร้อมกับบีบมือหนานั้นสุดแรง
"เป็น... อึก! ... ของคุณแค่คนเดียวนะ"
เมื่อพูดเสร็จแล้ว ปากกระจับก็ยกยิ้ม
ดวงตาสีไม้เข้มของเขาจับจ้องด้วยสายตาสีฟ้าที่ไม่ได้ชวนให้รู้สึกถึงความเย็น เพราะคำพูดของเขานั้นไม่ต่างอะไรกับการราดน้ำมันลงบนกองเพลิงเลยแม้แต่น้อย
เขาดึงมือตัวเองออก ใช้เล็บจิกข่วนหลังมืออีกฝ่ายจนเป็นรอยเลือดซิบ ขาข้างหนึ่งยกขึ้นเล็กน้อยดันหน้าขาของตนถูกับอะไรบางอย่างเชื่องช้าอย่างยั่วเย้า
แต่ไม่นานนักร่างกายก็บิดเร่าแรงกว่าเดิม ดิ้นรนตามสัญชาตญาณเอาชีวิตรอด
"ฮ...แฮงค์ ...... ค .. อึกก"
ตุบ!
ร่างนั้นถอยหลังออกห่างไป
แล้วเขาก็ได้รับการปล่อยเป็นอิสระ
เข่ากระแทกลงกับพื้น
พร้อมกับน้ำหนักตัวกดทับลงบนขาของตน
"เฮือก! ... ค... แค่กกก! ... "
เสียงไอแหบแห้งหลังจากรีบหอบเอาอากาศเพื่อการหายใจเข้าสู่ปอดปริมาณมากอย่างรวดเร็วจนสำลัก ตัวก้มงองุ้มจนหัวแทบโขกพื้น มือจับรอบคอของตนที่ปัจจุบันสีของรอยแดงจากการบีบรัดขึ้นบนผิวอย่างชัดเจน
"ฮึก... ฮ... ฮิ ๆๆ"
แล้วเขาก็หัวเราะออกมา
ทำให้เสียงเท้าของผู้ที่กำลังจะหันเดินจากเขาไปนั้นหยุด
"ฮิ ๆๆๆๆ ... ฮ่ะ...... ฮ่า ๆๆๆๆๆๆ"
เสียงหัวเราะเล็ก ๆ นั้นเริ่มดังขึ้นทีละน้อย
เขาหัวเราะอยู่อย่างนั้น
หัวเราะ
เค้นเสียง
เต็มเสียง
สุดเสียง
หยุดไม่ได้
ไม่ก็ ไม่อยากหยุด
"ฮะ ๆๆๆๆ ... ฮ่า ๆๆๆๆๆๆๆ"
เจ็บ
ราวกับเส้นเสียงแทบฉีกขาด
ไม่ยอมหยุด
ไร้การควบคุม
เขายืดตัวนั่งพิงกับผนัง
ยังคงหัวเราะอย่างเป็นบ้าเป็นหลังต่อ
เพียะ!
ใบหน้าของเขาถูกแรงปะทะจากมือที่ตบเข้ามาอย่างจังให้ตัวเซล้มลง
ศีรษะกระแทกพื้นจนรู้สึกมึนอึ้ง
แก้มแดงชา มุมปากปรากฎจุดของเหลวสีเข้มสด
คาวชะมัด
"ฉันน่าจะฆ่าแกให้ตายไปซะ"
เขาได้ยินเสียงเฉียบขาดนั้นขณะพยายามใช้มือยันตัวเองให้ลุกขึ้นกลับมานั่งคุกเข่าตามเดิม
"คุณทำไม่ได้หรอก"
ใบหน้าเงยขึ้นเผชิญกับอีกคน
"ไม่งั้น ผมคงตายไปนานแล้ว"
เขารู้สึกว่าตัวเองกำลังยิ้มเยาะออกมา
รอยยิ้มของผู้บอบบางแสดงออกถึงการเย้ยหยัน
กับสีหน้าจากผู้แกร่งที่ยังคงพยายามซ่อนความรู้สึกตนเอาไว้
"ปากเก่งเหมือนเคย"
เด็กหนุ่มได้ยินดังนั้นก็เอียงหัวเล็กน้อย
ลุกตัวยืนด้วยเข่าสองข้าง
"เก่งขนาดไหนเหรอครับ"
เขายกมือจับเส้นเข็มขัดตรงหน้า แกะดึงออกจากกันทิ้งให้สายห้อยต่องแต่ง
ปากกดจูบลงบนส่วนนูนที่เริ่มขยายตัวจนรู้สึกถึงความโค้ง
ตาช้อนขึ้นประสานกับเจ้าของ
"ให้ผมแสดงให้ดูไหมล่ะ"
นิ้วเกี่ยวกระดุมกางเกงหลุด ก่อนจะใช้ฟันกัดซิปรูดลงช้า ๆ จนสุด
เขาเอียงหน้าเล็กน้อย ปากงับเข้ากับของแข็งโดยมีชั้นในกั้นอยู่แล้วเม้มสลับกับปล่อย
"ถ้าอยากมากขนาดนั้น ให้ฉันจับแกส่งไปซ่องเสียดีไหม"
อีกฝ่ายพูดขึ้นขณะที่เขากำลังดึงผ้าลง
กายเนื้อไร้สิ่งบดบังนั้นชี้ปลายมายังใบหน้าของเขา
มือข้างหนึ่งย้ายไปจับขาใหญ่ทั้งสองข้างเพื่อทรงตัวไว้
กดปากจูบอย่างแผ่วเบาราวกับกำลังชื่นชมสิ่งตรงหน้าอยู่
"ไม่มีใครทนคุณได้เท่าผม"
มืออีกข้างที่ว่างจับแก่นนั้นเอียงข้าง
ปากขยับเม้มตามแนวยาว
ตาปรือจ้องอวัยวะที่ตนสัมผัสอยู่
"คุณขาดผมไม่ได้หรอก"
เปลี่ยนตำแหน่ง
แล้วงับอีกครั้งใกล้กับส่วนโคน
"ต้องเป็นผมเท่านั้น"
เขาปล่อยมือจากแท่งอุ่นไปจับขาอีกข้าง เอียงแก้มไล้อย่างเนิบนาบพร้อมถอยหน้า
"เห็นด้วยไหมครับ"
เขาเชิดหน้าขึ้น ล็อกสายตาทั้งสองฝ่ายให้ชนกัน ลิ้นชุ่มน้ำลายแลบเลียกายจากข้างใต้ตวัดเข้าปากที่เปิดกว้างรอรับ
"อ...อืมม ..."
ปากนุ่มครอบกายเนื้อเอาไว้เพียงกึ่งหนึ่ง ดูดดุนเสียแรงจนเกิดเสียงจ๊วบแล้วใช้ลิ้นวนรอบส่วนหัวหยอกล้อสลับกับการกดแตะย้ำ
หัวขยับไปข้างหน้า
ถอยหลัง
ทำซ้ำ พร้อมส่งเสียงฮึมฮัมในคอ
มองไปยังแววตาที่ยังคงเต็มไปด้วยไฟแผดเผาในนั้น
ขยับเร็วขึ้นอีกนิด
แล้วสังเกตปฏิกิริยาตอบสนอง
"หึ... ก็ได้แค่นี้"
เจ้าของแก่นกายพูดขึ้น
และเขาก็รู้สึกได้ถึงแรงจิกเส้นผมด้านบนดึงให้ถอยหน้าออกห่างอย่างรุนแรงจนเผลอกัดสิ่งที่คาอยู่ในปากครูดตลอดยันปลายสีสด
หลังหัวกระแทกเข้ากับผนังทำเองเขาลงไปนั่งสัมผัสกับพื้น
เท้าเตะเขี่ยขาของเขาให้ยืดเหยียดตรงทั้งสองข้าง แล้วร่างนั้นก็ขยับมายืนคร่อม เท้าทั้งสองอยู่ถัดไปจากต้นขาของเขาพร้อมกับการรุกรานทางปากที่เกิดจากการถูกจิกหัวเข้าไปรับของร้อนจนแทบมิดด้าม
"อุก .ก..... ค.. แค่กกก"
เขาใช้มือทุบตีขาที่ยืนอยู่ขณะที่โดนจิกผม ดึงหัวให้ปากของเขาครอบครองอีกฝ่ายแล้วกดท้ายทอยเขาค้างไว้ไม่ยอมปล่อย มุมปากแตกรู้สึกเจ็บแปลบกว่าเดิมจากการง้างกว้างจนแผลฉีกเพิ่ม
ท่อนเนื้อที่แข็งขยายเต็มนั้นคับแน่นจนหายใจไม่ออก สำลักน้ำลายของตนท่วมไหลย้อยออกมา
"ฉันถึงไม่ให้แกไปไหนไง"
น้ำเสียงเยาะเย้ยราวกับพยายามตอกกลับสิ่งที่เขาได้เคยพูดไว้ และสายตาที่เคยมอบให้ไป
ของเหลวใสเอ่อคลอดวงตาทั้งสองข้างของเขาจนการมองเห็นมัวลง
เขาจับขาทั้งสองข้างบีบแน่น เป็นสัญญาณให้คนคนนั้นรู้ว่าตนกำลังขาดอากาศหายใจอีกครา
"ไม่แปลกใจทำไมถึงชอบไปร่านในถิ่นพวกนั้นนัก"
จบประโยคนั้น แรงที่กดอยู่กลับดึงให้หัวของเขาออกห่าง
เขารีบใช้จังหวะนี้ในการหายใจเก็บให้ได้มากที่สุด
เพราะรู้ดี
ว่าคนตรงหน้ายังไม่มีทีท่าว่าจะจบกับเขาง่าย ๆ
"พวกเดียวกัน ก็มักจะไปหดหัวมั่วกันเอง"
เขายกมือทาบอกของตนกำเสื้อแน่นขณะที่ยังคงหอบหายใจ
รู้สึกได้ถึงของเหลวไหลอาบข้างแก้ม ย้อยตามปากและคาง
เพียะ!
แรงของฝ่ามือหนานั้นปะทะเข้าที่แก้มของเขา ซ้ำรอยเดิมอีกครั้ง
ขณะที่ร่างกายกำลังจะล้มออกข้าง มือเดิมนั้นก็ดึงหัวเขาไว้ให้ตัวนั่งตรง
พร้อมกับตัวเขาที่ปล่อยให้รุกล้ำโพรงปากต่อ
อย่างเต็มใจ
"ใช้ไม่ได้"
เรี่ยวแรงค่อย ๆ หายไปทีละน้อย มือที่เคยทุบตีหน้าขาอีกฝ่ายนั้นทำได้แค่ทาบจับไว้หลวม ๆ เหลือแต่สติสัมปชัญญะที่ยังตื่นอยู่
นอกจากหัวที่ถูกกดแล้ว ยังรู้สึกได้ถึงร่างอีกฝ่ายที่ขยับเข้าหาปากของเขาด้วยตัวเอง
เร็ว
รุนแรง
หลายครั้งที่ปลายของร้อนกระทุ้งลึกเกินจนเขาสำลัก แต่เจ้าของดูท่าว่าจะไม่สนใจ ยังคงใช้ปากของเขาต่อไป
"อะ... อา า ..."
เสียงหายใจแรงและเสียงร้องลอยเข้าโสตประสาท แม้จะถูกกลบด้วยอาการสำลักของตนแต่มันก็ทำให้เขารู้ว่าเวลาใกล้หมดลงแล้ว
ชอบ
แรงบีบกดหัวของเขานั้นมากและนานพอที่จะทำให้ปวด
ริมฝีปากทั้งสองเริ่มชาเกินกว่าจะบีบเค้นกายแข็ง
ร่างกายของเขานั้นอ่อนแรง ค่อย ๆ ไร้ความรู้สึกไปทีละนิด
จนกระทั่ง
"อึกกก! ... อ...อื้มมม ฮ..."
ดวงตาเบิกกว้างเมื่อของเหลวหนืดถูกปล่อยออกมาจนเต็มล้น ทิ้งรสคาวเฝื่อนคละคลุ้งไปทั่วปาก
เขายกมือเพื่อออกแรงดันร่างนั้นอีกครา แต่กลับไม่เป็นผลเลยแม้แต่น้อย ส่งให้เขาต้องกลืนน้ำกามนั้นลงคอจนสำลัก
ยิ่งไขว่คว้าหาอากาศ กลับกลายเป็นการขยับปากและลิ้นรอบท่อนเนื้อมากขึ้น
"แกนี่มัน เกินเยียวยาจริง ๆ"
แล้วเขาก็ถูกปล่อยให้นั่งนิ่งพิงกับกำแพงอยู่อย่างนั้น
เขาไอออกมาอย่างหนัก ยิ่งหอบหายใจก็ยิ่งสำลักน้ำที่ตกค้างอยู่ในคอ
ไม่นาน เสียงไอนั้นก็พลันเปลี่ยนเป็นเสียงหัวเราะ
"เกิน ย... เยียวยา ฮ... ฮิกก เหมือน คุณ ไง ..."
เขาปล่อยให้แผ่นหลังพิงแนบกำแพงเพื่อให้นั่งอยู่ได้
ปากพ่นคำค่อนแขวะส่งกลับราวกับกำลังเรียกร้องอะไรจากอีกฝ่าย
ความสนใจ
ภาพเบลอจนเขาไม่สามารถรับรู้ได้ว่าคนตรงหน้ากำลังทำอะไรอยู่
หูก็ได้ยินแต่เสียงวี้ดจาง ๆ
มีเพียงการหายใจหอบหนััก กับรสชาติตกค้างของเลือดจากแผลที่มุมปากและของเหลวหนืดอุ่น
แต่อย่างน้อย ถ้าทำให้ร่างของตนถูกยกขึ้นพาดบ่าคนตัวโตได้นั้น
ก็น่าจะแปลว่าได้ผลอยู่ล่ะนะ
"เหมือนแก... เรอะ"
เขาหลับตาลง ปล่อยให้เสียงต่าง ๆ ไหลผ่าน
เสียงคำพูดเมื่อครู่ที่เขาแทบไม่ได้ยิน
เสียงฝีเท้าหนักจาง ๆ
เสียงของประตูที่ถูกเปิดออก และฟาดปิดอย่างจัง
เสียงของร่างเขาที่ถูกโยนลงบนผ้านุ่ม ๆ
เขาปรือตาขึ้น
นอนขดตัว ทอดมองไปยังปลายเตียง
"ฉันจะทำให้แกรู้ ว่าฉันไม่มีอะไรเหมือนแก"
เสียงต่ำแหบและแข็งกร้าว ดุดัน คุ้นเคย
เสียงของเสื้อหนาที่ถูกสะบัดลงกับพื้นหลังถอดออก
เสียงถอดรองเท้าอย่างเร่งรีบ
เสียงยวบยาบจากน้ำหนักของร่างที่ขึ้นมาอยู่บนเตียงเดียวกับเขา
ยิ้ม
เพราะรู้ดีว่า กำลังจะเกิดอะไรขึ้นต่อจากนี้
เขายิ้มออกมา
เมื่อเห็นใบหน้าที่คุ้นเคยในระยะประชิด
มาพร้อมกับน้ำหนักที่กดลงทาบปากของเขาจนสนิท
.
.
.
.
.
.
.
.
"มาอยู่กับฉันสิ"
"สัญญาได้ไหม ว่าคุณจะไม่ทิ้งผมไปไหน"
"ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ฉันก็จะไม่ทิ้งนาย"
"ไม่ว่าจะนานแค่ไหนก็ตาม คุณห้ามเปลี่ยนใจนะ"
"ไม่มีวัน"
--END--
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in