Fandom: ユーリ!!! on ICE
* แฟนฟิคชั่นเเรื่องนี้เป็นเพียงจินตนาการของไรเตอร์และแต่งขึ้นเพื่อความบันเทิง ไม่มีความเกี่ยวข้องกับบุคคล สถานที่ หรือเหตุการณ์จริงใดๆ ทั้งสิ้น และแฟนฟิคชั่นเรื่องนี้เป็นแฟนฟิคชั่น BL…ถ้าใครไม่ชอบแนะนำให้ปิดค่ะ *
[+] REMARK: เป็น universe เดียวกับเรื่อง [seungchuchu] oh darling you look like christmas morning ค่ะ
****************************
ยูริ พลีเซตสกี้ไม่เคยแคร์ว่าตัวเองจะทำอะไรไม่ถูกใจใครไหม และนั่นเองที่ทำให้หนุ่มน้อยไม่ยี่หระต่อเหล่าบรรยากาศผู้คนแออัดในร้านสตาร์บัคส์และยึดครองโต๊ะสำหรับสองคนนั่งไว้เองอย่างสบายใจ
แต่ก็ใช่ว่าจะมีใครกล้าหาเรื่องยูริหรอก…เพราะถึงจะหน้าตาน่ารักเข้าขั้นเรียกว่าสวยได้เลย แต่ตอนนี้ยูริก็มีสีหน้าอย่างปกติ ซึ่งก็คือหน้านิ่วคิ้วขมวดอย่างอยากจะถีบอะไรสักอย่างให้ล้มกลิ้ง…อะไรสักอย่างที่ในตอนนี้ก็คือตารางสอนของเด็กชั้นปีหนึ่ง ยูริรู้สึกอย่างจะพังประตูห้องอาจารย์เข้าไปด่ากราดนักว่าใช้สมองส่วนไหนคิดในการวางตารางเรียนให้แทบทุกวันมีคาบเช้าสุดขีดแล้วอีกทีก็บ่าย ทิ้งช่วงว่างระหว่างกลางวันไว้ให้เขาต้องค้างเติ่งอยู่ตามร้านกาแฟหรือห้องสมุดมาได้เป็นเดือนแล้ว
มิล่าถึงขั้นให้บัตรสตาร์บัคส์ของตัวเองไว้กับเขาเพื่อให้ช่วยสะสมแต้มแล้วน่ะคิดดู…
มือเรียวพลิกหน้าหนังสือการ์ตูนของตัวเองพร้อมทำเสียงเฮอะ ขยับๆ ขาที่เหยียดยาวไปวางบนเก้าอี้ฝั่งตรงข้ามเล็กน้อยเพื่อให้หายเมื่อย และก็ง่วนกับการซดช็อกโกแล็ตร้อนของตัวเองอยู่เลยตอนที่รู้สึกได้ถึงเงาที่ทาบทับลงมา
นี่ไม่ใช่เงาแรกที่ยูริได้เจอในวันนี้…มีมนุษย์หลายคนพยายามจะมาแชร์โต๊ะกับเขาแล้วในเวลาชั่วโมงครึ่งที่ผ่านมา และแน่นอนว่าทุกคนก็ล้วนแต่ได้รับคำตอบแบบเดิมจากเขา นั่นจึงทำให้ยูริไม่คิดจะมาเปลี่ยนคำตอบอะไรเอาตอนนี้ ไม่แคร์สักนิดเดียวว่าชายหนุ่มหน้านิ่งตรงหน้าตนจะดูน่าเกรงเบาๆ ด้วยเสื้อไบเกอร์แจ็คเก็ตหนังกับผมทรงอันเดอร์คัท
“ตรงนี้ไม่ว่าง” พิเศษกว่าทุกทีตรงที่ยูริไม่รอให้อีกฝ่ายเอ่ยปากขอ หนุ่มน้อยเม้มปากเป็นเส้นตรง ขยับๆ ขาให้วางลงไปบนเก้าอี้เยอะกว่าเดิม “ไปหาที่อื่นนั่งซะ โอเคนะ?”
จากที่ผ่านๆ มา ตรงนี้จะเป็นคิวของอีกฝ่ายแล้วในการแย้งด้วยข้อเท็จจริง แต่ครั้งนี้แปลกไปก็ตรงที่แทนที่จะชักสีหน้านิดๆ หรือมีความกรุ่นโกรธจางๆ ในน้ำเสียง ชายหนุ่มตรงหน้าเขากลับแค่พูดนิ่งๆ “มันไม่มีโต๊ะว่างแล้วล่ะ”
ถ้อยคำทุ้มต่ำนั้นราบเรียบ ทำให้ยูริคิดถึงเสียงคลื่นในวันลมสงบของหน้าหนาวขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก และนั่นเองที่ทำให้เขาเผลอลืมในการตวัดเสียงให้ห้วนห้าวกว่าทุกที “แล้วไง?”
ดวงตาสีเข้มมีประกายขันๆ เล็กน้อยในเสี้ยววินาที และแทนที่จะถอนหายใจใส่ยูริแล้วเดินจากไปอย่างทุกคนที่ผ่านมา เจ้าไบเกอร์แจ็คเก็ตนี่กลับพูดตอบ “ฉันก็จะอ่านหนังสือเหมือนกัน เพราะงั้นไม่เสียงดังหรอก…ให้ฉันนั่งด้วยได้ไหม?”
คงเพราะเขาเตรียมตัวรับมือแค่กับสายตาทิ่มแทงกับถ้อยคำเสียดสี พอมาเป็นคำขอสุภาพแบบนี้ ยูริเลยไปต่อไม่เป็นเอาเสียดื้อๆ…ความเงียบที่อีกฝ่ายคงตีความเป็นคำยอมตกลง เพราะเจ้าตัววางถ้วยกาแฟลงมาบนโต๊ะ กิริยาที่ทำให้ยูริอยากเตะตัวเองนัก…เพราะเขาเผลอยกขาลงจากเก้าอี้โดยอัตโนมัติ เปิดช่องให้อีกฝ่ายดึงเก้าอี้ไปนั่งได้อย่างน่าเจ็บใจที่สุด
ช่างเถอะวะ หนุ่มน้อยพยายามปลอบใจตัวเอง เพราะยังไง พอช็อกโกแล็ตหมดถ้วยเราก็ไม่นั่งต่ออยู่แล้วนี่นา
คนตรงหน้าค้นเอาแผ่นกระดาษขึ้นมาวางเมื่อนั่งได้สบายๆ แล้ว มันเป็นกระดาษที่ถ่ายเอกสารมาและมีตัวหนังสืออัดยิบย่อย ชื่อเจ้าของถูกเขียนหวัดๆ เอาไว้ตรงหัวกระดาษ มองปราดเดียวก็รู้ว่าต้องเป็นเอกสารประกอบการเรียนของชั้นปีที่สูงกว่ายูริแน่นอน
แถมมีตั้งหลายหน้า ดวงตาสีเขียวไม่รู้ตัวเลยว่ามองอีกฝ่ายอยู่ หมอนี่เรียนอะไรเนี่ย…
ชายหนุ่มผมสีเข้มลอบมองคนที่จ้องเป๋งมาที่เอกสารของตน ก่อนจะพูดนิ่งๆ…ไม่มีกระแสเคืองใจใดๆ เหมือนเดิม “มันคือบทวิเคราะห์งานของเวอร์จิลน่ะ”
ยูริหน้าร้อนวาบขึ้นมาทันควัน รีบผงะตัวออกห่างนิดๆ “ใครถามกันล่ะ…!”
อีกฝ่ายยักไหล่ “ก็เห็นนายมอง”
หนุ่มน้อยแทบโยนหนังสือการ์ตูนของตัวเองลงกระเป๋าเป้ กระดกช็อกโกแล็ตร้อนหมดในสามอึกแล้วลุกขึ้นยืนทันที ก่อนจะก้าวยาวๆ ออกจากร้านไปแบบไม่เหลียวหลัง ไม่รู้ตัวเลยสักนิดว่าตัวเองนั้นดูเหมือนแมวที่พุ่งปราดหนีมือคนมากกว่าเดินจากไปแบบน่ากลัวอลังการอย่างที่คิด
ไอ้หมอนั่นมันอะไรของมัน?? ยูริคิดพลางกระแทกเท้าไปตามทาง ทรงผมพิลึก พูดจาพิลึก
หนุ่มน้อยหวนคิดถึงชื่อที่ได้เห็นตรงหัวกระดาษอีกที
ชื่อก็พิลึก ส่งเสียงหายใจเฮอะๆ เพิ่มอีกนิด แต่ช่างๆ มันไปเถอะ เพราะยังไงก็ไม่เจอกันอีกแล้วหรอก
ซึ่งแน่นอนว่าในตอนนั้น…ยูริ พลีเซตสกี้ไม่รู้เลยสักนิดเดียวว่าตนคาดคะเนเรื่องโอตาเบค อัลตินผิดไปอย่างมหันต์ที่สุดของที่สุด
tbc.
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in