หลังจากที่ตัดสินใจเปลี่ยนหัวข้อธีสิสและเกิดเป็นโครงการชุมซนฟรีสะเป็ด ช่วงแรกยอมรับว่า เรามีเรื่องที่อยากทำและอะไรหลายอย่างวิ่งอยู่ในหัว บางทีมันเยอะเกินไป จนไม่สามารถเรียบเรียงออกมาเป็นเรื่องราว หรือขั้นตอนอย่างเห็นได้ชัด ส่วนนี้เองทำให้ในระยะแรกเริ่มของการทำงาน เราเน้นใช้ความเคยชินและสิ่งที่ตนเองคิดว่าใช่ เนี่ยแหละเรามาถูกทาง เพิ่มเติมกับการปรึกษาครู เพื่อน และคนรอบตัวในการตัดสินใจทำอะไรหลาย ๆ อย่าง แต่เราก็คอยบอกตัวเองเสมอว่า เราสงสัย เราทำ และไม่มีใครรู้ผลลัพธ์ของตอนสุดท้าย หน้าที่ที่ดีที่สุดของเราในขณะนั้น คือพยายามและค่อย ๆ เอาสิ่งที่อยู่ในหัวออกมาให้เหมาะสมมากที่สุด
ช่วงแรกเราเลยอยู่กับเด็ก ๆ ผ่านการเล่นกับเขาในแบบที่เขาเล่น อยู่กับเขาในแบบที่เขาอยู่ รวมถึงการรับฟังและพูดคุยกันแบบเพื่อนที่เคารพซึ่งกันและกัน โดยในช่วงแรกที่เราเข้าไปทำความรู้จักเด็ก ๆ หลายคนมีเส้นบางอย่าง และระมัดระวังการพูดคุยกับเรา เพราะด้วยเหตุผลบางอย่างของเด็กเองที่ต้องระวังตนเองต่อผู้อื่นไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง จึงทำให้เราต้องระมัดระวังอะไรหลาย ๆ อย่างเช่นกัน บางครั้งมันจึงเป็นงานยากสำหรับเราที่จะสร้างความสัมพันธ์และความไว้ใจต่อกันกับเด็ก ๆ ทำให้ต้องใช้เวลาในการเรียนรู้กันก่อนเริ่มทำกิจกรรมสร้างสรรค์จริง ๆ ถึง 6 ครั้ง แต่ละครั้งมักมีเรื่องให้เราเรียนรู้และปรับตัวเสมอ ด้วยระยะเวลาอันจำกัดนี้ทำให้เราต้องเร่งมือทำหลายอย่างไปพร้อมกัน ทั้งไปหาเด็กที่พื้นที่และคิดกิจกรรมที่จะทำต่อจากตอนนั้น ตอนนั้นเป็นช่วงเวลาที่รู้สึกว่า เรามาถูกทางแล้ว
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in