เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
Meanwhilewonny4tw
คิมชีฮยอน
  • มนุษย์ผู้มีน้ำใจซื้อขาหมูมาฝากมีชื่อว่าคิมชีฮยอน

     

    ขาหมูเอย พิซซ่าเอย ไก่ทอดเอย วันไหนลืมซื้อของทำกับข้าวติดห้องไว้ก็หิ้วท้องไปฝากครัวบ้านเขาด้วย น่าจะออกตัวว่าเป็นแขกกิตติมศักดิ์ประจำโต๊ะอาหารบ้านคิมได้แล้ว เลี้ยงดูดีจนเพื่อนรักตัวเล็กตัวน้อยร้อยเจ็ดสิบสี่เซนฟันธงแปดสิบเปอร์เซ็นต์ว่าหล่อนไม่ได้ชอบพี่เขาหรอก หวังอี๋เหริน แค่เห็นเป็นพระผู้มาโปรดเพราะให้ของกินเท่านั้นแหละ

     

    อีกยี่สิบเปอร์เซ็นต์เพราะสวย เพื่อนซี้หน้ามึนอีกคนเสริมทันควันเข้ากันเป็นปี่เป็นขลุ่ย มีทัพหลังยิ้มหวานเจี๊ยบเป็นลูกคู่หัวเราะชอบใจ

     

    ได้ยินแล้วค้อนตาคว่ำ พูดไปโน่น ถึงมันจะจริงนี้ดนึงก็เถอะ

     

    เรื่องสวยน่ะ

     

    สวย คิมชีฮยอนเป็นคนสวย ถึงเธอพูดเองจะฟังแปลกๆ และตอนนี้มันก็ผ่านจุดนั้นมานานมากแล้วด้วย สองปีที่อยู่ร่วมชายคาอพาร์ตเมนต์เดียวกัน อี๋เหรินเห็นอีกฝ่ายครบหมดทุกร่างแล้ว ซึ่งรวมไปถึงร่างหน้าสดหัวฟูตื่นไม่เต็มตา ร่างใส่แตะมัดแกละเหมือนเด็กประถมแต่หัวเราะเสียงดังเป็นตาลุงแก่ๆ ยันร่างปล่อยผียึดไมค์ร้องคาราโอเกะโต้รุ่งแล้วไปจบที่บ่นงึมงำเสียงแหบเสียงแห้งวันรุ่งขึ้น

     

    เห็นกระทั่งร่างโก๊ะกังทะเล่อทะล่าวิ่งชนสัญญาณหนีไฟจนชาวบ้านแตกตื่นกันทั้งอาคาร เดือดร้อนต้องไล่ขอโทษขอโพยผู้ร่วมอาศัยเป็นการใหญ่ เรียกว่าไม่เหลือแม้แต่เศษเสี้ยวความหวั่นไหวในรูปลักษณ์แล้ว อย่างมากก็ให้แค่พี่สาวข้างบ้านที่หน้าตาดีหน่อยเท่านั้น

     

    เพราะงั้นสวยของเธอออกจะต่างจากที่เจ้าพวกนี้เข้าใจอยู่หน่อยๆ

     

     

     

    อี๋เหรินเช่าห้องพักอยู่คนเดียวในอพาร์ตเมนต์ใจกลางเมืองที่แม่หาให้ได้สองปีกว่าแล้ว ไม่ใช่สถานที่หรูหราอะไร แต่เดินทางไปไหนมาไหนสะดวก ระบบรักษาความปลอดภัยแน่นหนา (สงสัยเหมือนกันว่าแม่เป็นมาเฟียหรือยังไง จัดการเรื่องที่พักที่เรียนต่างแดนทันใจอย่างกับเสกได้ แล้วก็หมายใจว่าจะทำตัวดีๆ กับแม่ทุกปีใหม่ที่กลับบ้าน) เพื่อนบ้านอัธยาศัยดีหายห่วง อย่างน้อยก็ไม่มีใครแสดงท่าทีรังเกียจเดียดฉันท์เด็กสาวต่างชาติผู้ย้ายมาจับจองห้องชั้นสามอย่างที่นึกกลัว   

     

    หนึ่งในเพื่อนบ้านที่เอ็นดูอาหมวยชั้นสามเป็นพิเศษคือพี่สาวตัวจิ๋วที่อยู่เหนือขึ้นไปสองชั้น หญิงสาวเปิดร้านกาแฟเล็กๆ อยู่ฝั่งตรงข้าม เป็นร้านแบบเอสเพรสโซ่บาร์ที่เน้นเสิร์ฟกาแฟมากกว่าคาเฟ่เลยมีที่นั่งไม่มาก ถึงอย่างนั้นก็มีลูกค้าทั้งขาประจำและขาจรมานั่งไม่ขาดสาย อี๋เหรินก็เช่นกัน เลิกเรียนแล้วมักจะไปนั่งเล่นเสมอ

     

    ไม่ต้องบอกใช่ไหมว่าเธอเจอชีฮยอนครั้งแรกที่นั่น

     

    ที่นั่งประจำของคิมชีฮยอนคือริมม้านั่งยาวติดประตูเข้าร้าน มาทีไรก็เห็นเอนพิงกระจกแทบจะสิงเข้าไปอยู่แล้ว ราวกับพยายามทำตัวลีบเล็กไม่ให้เกะกะคนที่เดินผ่านไปผ่านมา ไม่ว่าจะรู้ตัวหรือไม่ อี๋เหรินกลับรู้สึกเหมือนอีกฝ่ายนั่งอยู่ในตำแหน่งที่ตกเป็นเป้าสายตาคนทั้งโลก

     

    ก็เลยกะจะเข้าไปนั่งเงียบๆ ไม่กระดุกกระดิก จะได้ไม่เป็นการรบกวน ทว่าเจ้าถิ่นโน้มตัวข้ามแท่นพลาสติกที่ใช้ต่างโต๊ะมามองตามตาไม่กะพริบเหมือนเธอเป็นสิ่งมีชีวิตจากดาวอื่นที่โลกเพิ่งค้นพบ

     

    แล้วยิ้ม

     

    วินาทีนั้น เด็กสาวลืมตัวจ้องอย่างเผลอไผล มองเรียวปากสดฉ่ำค่อยๆ คลี่ยิ้มกระจ่าง ไม่ใช่ยิ้มยิงฟันดันนัยน์ตาใสหรี่หยีลงแบบที่ต่อมาจะได้เห็นบ่อยๆ แต่เป็นยิ้มตรึงใจส่งให้สว่างไสวไปทั้งหน้า เหมือนดอกไม้สีขาวดอกเล็กๆ ยามผลิบานทีละดอกจนเต็มท้องทุ่งในหน้าร้อน

     

    "เฮ้ย น้องปอม เหม่อไรเนี่ย ข้าวไม่ร้อนมันจะไม่อร่อยนะ กินเร็ว!"

     

    น้องปอมสะดุ้งโหยง เสียงเคาะตะเกียบกับขอบถ้วยดึงโฟกัสกลับมาอยู่ที่อาหาร ร้านกาแฟร้านเดิม ที่นั่งประจำที่เดิม ต่างกันตรงบรรยากาศไม่ได้งดงามดุจความฝันแบบนั้นอีกแล้ว เนื่องจากตอนนี้มนุษย์หนึ่งเดียวในเกาหลีใต้ที่เรียกเธอด้วยชื่อเล่นเหมือนเห็นเป็นหมาปอมจริงๆ กำลังก้มหน้าก้มตาพุ้ยข้าวเข้าปากประหนึ่งหิวโหยมาแรมวัน

     

    หากนั่นไม่ได้เปลี่ยนแปลงความรู้สึกลิงโลดเงียบๆ ในใจต่อการมีตัวตนของคนตรงหน้า แม้จะแลกมาด้วยการสบตาตรงๆ ไม่ได้อีก

     

    รอยยิ้มของคิมชีฮยอนประทับลงในใจหวังอี๋เหรินตั้งแต่วันนั้น

Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in