ตอนย้ายมาเกาหลีใหม่ๆ หวังอี๋เหรินพกความกังวลเท่าโลกมาจากหางโจว ลำพังตัวเองหัวเดียวกระเทียมลีบ ภาษาก็ไม่กระดิก จะมีชีวิตรอดต่างบ้านต่างเมืองได้ยังไง บอกตามตรง เด็กสาววัยสิบหกปีตอนนั้นคิดว่าเจ้อเจียงมณฑลเดียวกว้างใหญ่ไพศาลพอแล้ว ไม่นึกอยากไปแสวงหาความแปลกใหม่ที่ไหนอีก
แค่เคยเปรยว่า "เกาหลีน่าสนใจจัง" ไม่คิดว่าจะมีใครได้ยินด้วยซ้ำ แม่ก็รุนหลังให้มา
ไม่รู้เพราะแม่โน้มน้าวเก่ง หรือเพราะเสี้ยวหนึ่งในจิตใจที่ไม่เคยรู้ว่าตัวเองมีอยู่ก็อยากโบยบินสู่โลกกว้าง ถึงได้ยอมทำใจดีสู้เสือจากบ้านมาผจญภัยในดินแดนที่ไม่มีทั้งญาติพี่น้องและคนรู้จักแบบนี้
แต่แม่ไม่เคยบอกว่ามาอยู่เกาหลีแล้วจะเจอคนไม่รู้จักมักจี่ที่เลี้ยงดูเธอดีไม่ต่างจากแม่อีกคน ผูกมิตรกับเพื่อนฝูงรุ่นราวคราวเดียวกันจนสนิทสนมราวพี่น้องคลานตามกันมา หรือวันดีคืนดีชะโงกหน้าลงมาจากระเบียงห้องตอนสายๆ แล้วปะกับตาเรียววิบวับพร้อมยิ้มแฉ่งอวดฟันกระต่ายเข้าอย่างจัง
ไวเท่าความคิด คนที่เพิ่งเผลอสบตาด้วยชูถุงใส่อาหารขึ้นมาโบกไหวๆ ในสภาพใส่กางเกงขาสั้นรองเท้าแตะเหมือนเพิ่งโดนใช้ไปตลาดสดๆ ร้อนๆ
"น้องปอม! ลงมากินข้าวกัน ซื้อขาหมูมาฝาก"
แม่ไม่เคยบอกด้วยว่าคนเราสามารถตกหลุมรักใครสักคนจากน้ำเสียง สายตา และรอยยิ้มได้
อา.......
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in