เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
me : 2020panpanmeme
เรื่องเล่าลำดับที่ ๐๐ - ๑ : ว่าด้วยสายลม แสงแดด ชีวิต และ แมว
  • หลายต่อหลายครั้ง
    แทบจะอยากหยุดหายใจ
    ฉันมักหมดเวลาไปกับการนั่งนิ่ง
    ทิ้งตัวบนเก้าอี้ที่ริมระเบียง

    หลังจากจบมหา'ลัย
    ฉันก็บอกลาบุหรี่ไปแล้วเรียบร้อย
    ถึงปกติจะไม่ใช่คนสูบบุหรี่
    แต่ก็มีติดห้องไว้บ้าง
    เพราะฉะนั้นภาพของตัวเอง สองปีหลังมานี้
    ก็ไม่มีภาพนิ้วคีบบุหรี่พร้อมด้วยกระป๋องเบียร์
    อีกต่อไปแล้ว — 

    ฉันมักจะห้ามตัวเอง
    ไม่ให้ทำในสิ่งที่หาเหตุผลให้ตัวเองไม่ได้เสมอ  
    แน่นอนว่า
    หลายครั้งที่ฉันก็ยอมแพ้ให้กับ ... อารมณ์
    และร่างกายของตัวเองซ้ำซ้ำ
    ซ้ำแล้วซ้ำเล่า อย่างน่าหงุดหงิด
    บุหรี่คือสิ่งที่ฉันบอกลาถาวร
    ก็เพราะหาเหตุผลไม่ได้ที่จะถือเอาไว้
    แต่กระป๋องเบียร์เย็นๆก็ยังคงเย้ายวนใจ
    ในวันที่ใจแห้ง ... 
    ความรู้สึกอยากปลอบใจนั่น
    ขอนับเป็นเหตุผลแล้วกันนะ

    เหตุผลที่ว่านั่น เหตุผลที่ฉันถามถึง
    ก็คงรวมไปถึงเหตุผลของ...การมีชีวิตอยู่ ด้วย ล่ะมั้ง 

    ฉันนั่งอยู่ที่เดิม
    เฝ้าคิด ทบทวน หาเหตุผล
    ว่าฉันเกิดขึ้นมาทำไม
    ...
    เกิดมาด้วยเหตุการณ์แบบไหน
    ...

    พ่อแม่รักกันหรือเปล่า
    ฉันเกิดคำถามเหล่านี้เพราะตั้งแต่จำความได้
    พ่อกับแม่ ไม่เคยดีต่อกันเลย

    ฉันมักจะได้อยู่ในสถานะผู้ชม
    เวลาพ่อแม่ทะเลาะกันต่อหน้า 
    การจดจำและยึดอดีตไว้แน่น
    ไม่ใช่สิ่งที่ควรทำ

    แต่ยิ่งบอกตัวเองแบบนั้น
    ก็เหมือนยิ่งเน้นย้ำมันเข้าไป


    ‘ช่างมันเถอะ’ ‘จะมีประโยชน์อะไร’
    เป็นประโยคที่ฉันบอกตัวเองซ้ำซ้ำ
    แต่นั่นเท่ากับการเดินหนีไป หรือ ยกมือขึ้นปิดหู
    แกล้งลืม แกล้งไม่สนใจอะไร
    เพื่อให้ตัวเองได้เดินหน้าต่อ
    ฉันเลือกที่จะเดินหนี
    มากกว่าเดินไปตรวจสอบดูว่าแท้จริงเกิดอะไรขึ้น
    เพราะฉันคิดว่าตัวเอง ไม่มีสิทธิิ์ 
    ฉันเป็นเพียงลูก
    เป็นแค่เด็ก
    และไม่อยากรู้สึกเจ็บปวดใดใดทั้งสิ้น

    แต่แล้ว...วันเวลา
    ก็จูงมืออดีตให้มาหลอกหลอนฉันอีกครั้ง
    เรื่อยมา...

    เหนื่อยแล้วนะ
    รู้มั้ย...

    ฉันบอกตัวเองแบบนั้น
    แต่ฉันก็ปล่อยตัวเอง
    ... ให้หายใจต่อไป

    ฉันได้แต่ภาวนาในใจ
    ให้พระเจ้าเอาลมหายใจฉันไปเสียที

    นี่คงเป็นอีกครั้งที่พระเจ้าไม่ตอบอะไรฉันเลย
    ฉันทิ้งตัวลงบนเก้าอี้เนิ่นนาน
    น้ำตาไหลลงจากหางตา ไปที่ขมับ ซึมไปตามเส้นผม
    ไหลไปตามกาวิตี้ของจักรวาล
    เพราะฉันเงยหน้าเอาคอพาดกับพนักพิง

    ถึงจะเหนื่อยจนไม่อยากสู้อะไร
    แต่สุดท้าย
    ร่างกายที่โอบอุ้มวิญญาณจิตอันโรยราอยู่นั้น
    กลับไม่ท้อถอย ยังคงเดินหน้า หายใจต่อไป

    ‘เมี้ยว’
    หมับบบ~
    ครืดดดดดดๆ

    เจ้าแมวที่ฉันเลี้ยงเอาไว้
    กระโดดหมับขึ้นมาที่หน้าตัก
    ถูไถอย่างไร้เดียงสา
    พลางทำเสียง purr ในลำคอ

    ดวงตาที่ขยายจนกลมโต
    เพราะแสงไฟสลัวภายในห้อง
    ทำให้รูม่านตาขยายอย่างกับเม็ดลำไย
    ถึงจะไม่ชอบกินลำไย
    แต่พอมองหน้า มองตา เจ้าเหมียว ฉันก็รู้สึกใจชื่นขึ้นมา

    ไม่น่าเชื่อว่าเจ้านี่จะทำให้ฉันคลายอารมณ์
    จากความเจ็บปวด
    เพราะการกดทับของอดีต
    ราวกับเครื่องดูดฝุ่นกำลังแรงสูงที่ดูดกลืนทุกอย่าง
    ที่ถูกมันจ่อเข้าไปใกล้

    เจ้าเหมียวถูไถและหลับสบาย
    หน้าแนบชิดแผ่นท้องของฉันที่นั่งทิ้งตัวบนเก้าอี้
    หน้าเชิด — เป็นสัญญาณเชื้อเชิญให้ลูบไล้ ถูไถ
    (ตามเคย)
    เป็นแบบนั้นได้สักพัก
    เจ้าเหมียวก็ลุกเดินไป
    นั่งในมุมของตัวเอง

    เจ้านั่นเข้ามา
    ทำให้ความเจ็บปวดหายไป
    แม้แต่ตอนที่ลุกจากไป
    ก็เหมือนกับว่า
    มันได้กระตุก นำเอาซากความเจ็บปวดให้หลุดร่อนไปด้วย

    เจ้าเหมียวทำหน้าที่ได้เกินตัว
    แต่ขยะในใจฉันมันคงมากเกินไป
    ถึงได้เจ็บไม่เลิกขนาดนี้...

    สายลมพัดเอื่อย
    ถึงตอนนี้โลกข้างนอกจะวุ่นวาย
    ผู้คนกลัวตาย
    แต่ฉันกลับเฉยเมยและเย็นชาต่อโรคร้ายนั่น
    ฉันควรจะกลัว...

    แต่สิ่งที่มันอยู่ในใจฉัน
    ลุกลามรวดเร็วยิ่งกว่าไวรัสใดใด


    สุดท้ายแล้ว
    ต่อให้โลกนี้เป็นยังไง
    จะเปลี่ยนไปอย่างเลวร้ายหรืองดงามขึ้นกว่านี้
    ฉันก็ยังคงต้องการมีเพียง
    สายลม แสงแดด และเจ้าเหมียว เท่านั้น ☁️


    ถึงความเจ็บปวดจะไม่หายไป
    แต่ฉันตั้งใจว่า
    จะ ‘เลิกรู้สึกเจ็บปวด’
    (เขา...บอกกับฉันแบบนั้น — แม้ว่าเค้าจะเป็นคนทำให้ฉันเจ็บปวดบ่อยๆ แต่ฉันก็เลือกที่จะเชื่อเค้า...)


    ยังทำได้ไม่ดีหรอก
    แต่ ตอนนี้ ...ฉันยังอยู่ดี ยังหายใจอยู่
    ก็คงจะมีความสุขไปกับการมองแสงแดด
    เต้นระบำ ไปกับเงาไม้
    ...นั่งเรื่อยเปื่อย
    ปล่อยให้สายลมคลอเคลีย
         และมีตัวอุ่นๆของเจ้าเหมียว
    คอยโอบกอดร่างใหญ่ใจบางของฉันเอาไว้

    ชีวิตที่ดูเหมือนจะใช้ลมหายใจอย่างสิ้นเปลืองและไร้ค่า
    แต่ก็นะ ...
    แค่ตอนนี้ รักษาตัวเอง
    ให้ใจไม่บิดเบี้ยวไปกว่านี้
    ไม่ทำให้ใครต้องเจ็บปวดเพราะเรามากกว่านี้
    ใช้ชีวิตให้ง่ายขึ้น
    เป็นภาระของโลกใบนี้ให้น้อยลง

    เท่านี้แล้วกัน
    ที่จะทำได้ตอนนี้
    ที่ยังมีชีวิต

    friday night - in march ,2020 ‘,-‘,






Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in