เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
me : 2020panpanmeme
เมคกิ้งเทปของฟ้าใส
  • อยากเขียนเก็บเอาไว้ 
    เกี่ยวกับของหนึ่งชิ้นที่ฉันได้รับ

    ขณะที่กำลังนั่งจัดโต๊ะทำงาน
    สายตาเหลือบไปมองเห็นกล่องเมคกิ้งเทปบนโต๊ะทำงาน

    ปกติฉันจะเลือกซื้อสีพื้นๆ หรือซื้อสีที่คล้ายของเดิมที่มีอยู่ ฉันไม่ชอบสีสันที่โดดเด่นเกินไป (ยกเว้นดอกไม้ อันนี้ยอมให้หมดทุกสีสันบนโลก) แต่มีเมคกิ้งเทปอันหนึ่ง สีสันสะดุดตาขึ้นมา เพราะมันเป็นอันที่ฉันไม่ได้ซื้อเอง



    ‘ ครูขา หนูให้ ...’ 
    ฟ้าใสยื่นมือมาทางฉัน
    พร้อมกับแบมือออก 
    โชว์เมคกิ้งเทปลายหมีแพนด้าในมือ
    ด้วยระดับความสูงของเจ้าหนูฟ้าใสที่สูงถึงแค่เอวฉัน
    ทำให้เห็นแววตาเป็นประกายไร้เดียงสาอย่างชัดเจน

    ฟ้าใสเป็นเด็กในชุมชนใกล้ๆโบสถ์
    เราเจอกันทุกวันอาทิตย์

    ฟ้าใสและเด็กคนอื่นๆ เป็นเด็กสดใส ร่าเริง 
    จริงใจ และ เปิดเผย — ทุกครั้งที่เจอกัน เด็กๆ จะวิ่งเข้ามากอดพร้อมด้วยเสียงเรียกชื่อฉันอย่่างสดใส แน่นอนว่า ฟ้าใสมักจะวิ่งมาถึงฉันเป็นคนแรก

    ‘ฟ้าใสไม่เก็บไว้ใช้หรอ’
    ฉันตอบกลับไป และไม่กล้ารับเอาไว้
    อาจจะเพราะฉันคิดว่าฉันมีเยอะแล้ว
    และนั่นไม่ได้เป็นลายที่ฉันชอบ

    (ฉันหน่ะทั้งเอาแต่ใจและไม่ค่อยนึกถึงใจคนอื่นเลย)

    ‘ไม่เอา~ หนูอยากให้ครู’
    เด็กน้อยทำเสียง งอแงเล็กน้อย
    ฉันมองกลับเข้าไปในแววตานั้นอีกครั้ง

    ‘โอเค้’
    ฉันยื่นมือออกไปรับเอาเมคกิ้งเทปนั้นมา

    ‘ครูเก็บไว้ที่ไหน เก็บดีดีนะ’
    ฟ้าใสกำชับ 

    ‘เก็บดีแน่นอน ... นี่ เก็บไว้ในกระเป๋าอย่่างดี’
    ฉันตอบพร้อมเอามือปะๆไปที่กางเกงฝั่งที่หย่อนเมคกิ้งเทปนั้นลงไป

    ฉันรู้ว่าของสิ่งนี้ฉันคงไม่ได้ใช้
    แต่มันเป็นของที่อีกฝ่ายมุ่งมั่นที่จะมอบให้
    ฉันจึงรับไว้เพราะไม่อยากให้ฟ้าใสรู้สึกเสียความตั้งใจ

    หากประเมินราคาแล้ว เมคกิ้งเทปนี้คงเป็นของธรรมดาที่เด็กๆซื้อมาแปะเล่นกัน แต่หากเทียบกับเงินที่เขามีแล้ว นี่ก็ไม่ใช่ของที่ราคาถูกๆ

    แต่ฟ้าใสเลือกที่จะมอบมันให้เรา


    ฉันคิด : 

    • ฉันรู้สึกประทับใจหัวใจแห่งการให้ของเด็กคนนี้มากๆ
    ของสิ่งนั้นอาจจะเป็นของราคาแพง เมื่อเทียบกับเงินที่เขามี และเขาเลือกที่จะให้ของนั้นกับเรา โดยไม่เสียดาย

    • ฉันมองดูตัวเอง : เราได้ให้อะไรที่มีค่าในชีวิตของเรา แก่คนอื่นบ้าง ? 

    โดยธรรมชาติเรามักเก็บของดีๆ ไว้กับตัวเอง เอาของที่เราไม่ชอบหรือไม่ใช้แล้ว ให้คนอื่น — แต่การให้ของดี แม้ในขณะที่เราก็ไม่มีนั้น มันเผยให้เห็นคุณลักษณะแห่งหัวใจของการเป็นผู้ให้

    เปรียบเทียบเหมือนการได้รับข้าวสักจานจากคุณป้าชาวสวนกับเศรษฐีผู้มีเงินใช้แบบไม่มีวันหมด อาหารอย่างเดียวกันอาจจะมีมูลค่าต่างกันเมื่อเทียบกับสิ่งที่เขามี — 



    [ ตอนนี้ฉันอาจจะพบว่า ฉันไม่ได้ให้อะไรใครสักเท่าไหร่
    แต่ขอเริ่มจาก การ ‘ขอบคุณ’ สิ่งที่ได้รับอย่างมากมายในชีวิตของฉันก่อนก็แล้วกันเนอะ ]



    • แว้บนึงที่นึกถึงคือ ความรักที่ฉันได้จนหมดใจ ของพระเจ้า ที่ส่งพระเยซู มาสวมสภาพเป็นมนุษย์แบบฉัน 

    มนุษย์ ที่เจ็บปวดได้ ร้องไห้ได้ 
    จะเกิดอะไรขึ้น ถ้าพระองค์ตัดสินใจ ไม่รับบาปแทนฉันบนไม้กางเขน !

    ฉันก็คงเป็นฉันเหมือนเดิม

    แต่การที่ฉันได้รับการไถ่จากบาปแล้ว 
    ไม่ได้ทำให้ฉันถูกเสกแล้วกลายเป็นคนใหม่เสียทีเดียว

    ฉันก็ยังคงเป็นฉันเหมือนเดิม — แต่สิ่งที่ต่างออกไปคือ 


    - ตอนนี้ฉันเป็นที่รักของพระองค์ :

     ใครสักคนที่ตายเพื่อเรา 
    แน่นอนว่า เขาจะรักเรามากแค่ไหน 
    เขาไม่ได้ให้แค่ของที่ดีที่สุด 
    แต่เขาให้ทั้งชีวิต 


    ฉันจึงเป็นที่รักของพระองค์


    - ฉันเป็นอิสรภาพจากชีวิตแห่งความบาปและกายเนื้อ : 

    แน่นอน  ฉันยังเป็นมนุษย์ธรรมดา
    อ่อนไหวง่าย ร้องไห้ โวยวาย อ่อนแอ โกรธ งอแง สารพัดจะเป็นได้ — แต่ฉันไม่ต้องทำดีเพื่อให้ตัวเองได้ไปสวรรค์นี่นะ 

    อิสรภาพที่ว่าคือ ฉันค่อยๆ เปลี่ยนแปลงตัวเองได้
    ค่อยๆเป็นค่อยๆไปกับตัวเองได้
    ยอมรับความบกพร่องของตัวเองได้
    ค่อยๆแก้ไข ค่อยๆสร้างใหม่
    ยอมให้พระเจ้า ยอมให้คนรอบตัว ได้ช่วยฉันได้

    อื้ม ยาวอีกแล้ว
    ขอบคุณฟ้าใส ที่ทำให้ฉันรู้สึกชื่นใจขึ้นมา
    และขอบคุณทุกสิ่งที่มี ที่เกิด ที่เป็น ในชีวิตฉัน
    มันไม่ใช่ชีวิตที่วิเศษอะไรหรอก

    — แต่เมื่อคิดว่า ทุกสิ่งที่เราได้รับ
    มันมากเกินกว่าที่สมควรจะได้รับ
    เราก็ได้กลายเป็นคนธรรมดาที่มีค่าขึ้นมา —

    : วันแบบนี้...เราจะฟังเพลงแบบไหนกันดี ~

    ตอนนี้ที่ออฟฟิศเปิดเพลงของพี่ต้า พาราดอกซ์แหละ (ย้อนวัยคิดถึงสมัยหัดฟังเพลงใหม่ๆเลย)
    อื้มๆ ก็อาจจะเหมาะแล้วก็ได้นะ :-)
Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in