สำหรับฉันแล้ว สายฝนที่โปรยปรายมักชวนให้คิดถึงสุโขทัยอยู่เสมอ
ถ้าจะมีหน้าไหนที่เหมาะกับการไปเที่ยวจังหวัดนี้ ก็คงจะเป็นหน้าฝนนี่แหละ
เพราะนอกจากแสงแดดจะไม่ร้อนจนแสบผิว เรายังจะได้เห็นท้องนาเขียวๆ สบายตา
ยิ่งฝนตกด้วยยิ่งได้กลิ่นดินให้ฟินกันไปแถบๆ
แน่นอนว่ามาสุโขทัย จุดหมายที่พลาดไม่ได้ก็คืออุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย
ที่ถ้าอยากจะชมให้ทั่วก็ต้องเผื่อเวลาไว้สักวัน-สองวันเลยทีเดียว
อุทยานแห่งนี้ครอบคลุมบริเวณที่เคยเป็นศูนย์กลางการปกครอง
ของอาณาจักรสุโขทัยของเรานั่นเอง ถ้ามองจากมุมสูงแล้ว
เราจะเห็นว่าผังเมืองสุโขทัยนั้นเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า
กำแพงเมืองเป็นกำแพงพูนดิน 3 ชั้น ที่เกิดจากการขุดดินขึ้นมาถมเป็นกำแพง
พื้นดินที่ขุดก็ทำเป็นคูเมือง มีประตูเมืองอยู่ 4 ทิศ ส่วนรอบกำแพงเมืองในรัศมี 5 กิโลเมตร
ก็ยังมีโบราณสถานอีก 70 กว่าแห่ง ส่วนในกำแพงเมืองนั้น มีร่องรอยพระราชวังและวัดอยู่ 26 แห่ง
โดยปกติแล้ว คนไทยเรามักจะมุ่งไปที่ "วัดมหาธาตุ" ซึ่งเป็นวัดสำคัญประจำกรุงสุโขทัย
โดยเจดีย์มหาธาตุ เจดีย์ประธานซึ่งสร้างขึ้น
เป็นทรงพุ่มข้าวบิณฑ์นี้ถือว่าเป็นศิลปะแบบสุโขทัยแท้
มหาเจดีย์นี้ลอมรอบด้วยเจดีย์อีก 8 องค์บนฐานเดียวกัน
โดยด้านตะวันออกของเจดีย์มีวิหารศิลาแลง พร้อมแท่นที่เคยประดิษฐานพระศรีศากยมุนี
พระพุทธรูปสำริดที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ที่ปัจจุบันประดิษฐานอยู่ที่วัดสุทัศน์เทพวราราม
นอกจากนี้รอบๆยังมีเจดีย์ต่างๆ ตั้งกระจัดกระจายอยู่อีก 200 องค์
ส่วนโบราณสถานนอกกำแพงเมืองนั้น
ถ้าไม่ไปสักการะ องค์พระใหญ่ที่วัดศรีชุม
หลายคนมักจะไปชม วัดช้างล้อม
ซึ่งเป็นหนึ่งในวัดที่สำคัญที่สุดนอกกำแพงเมือง
เจดีย์องค์ประธานเป็นเจดีย์ทรงกลมแบบลังกา
รอบฐานประดับด้วยปูนปั้นรูปช้างยืนหนุนฐานเจดีย์อยู่ 32 รูป
ว่ากันว่าการนำช้างมาประดับนี้อาจมาจากความเชื่อ
ตามพุทธประวัติที่ว่าช้างเป็นสัตว์มงคลที่ช่วยค้ำชูพระพุทธศาสนา
ทุกๆคืนวันศุกร์-อาทิตย์ ระหว่างเดือนเมษายน-ธันวาคม
ทางอุทยานฯจะเปิดไฟให้นักท่องเที่ยวมาชม
โบราณสถานวัดช้างล้อมตอนกลางคืนได้ด้วย
นี่แหละ…. สุโขทัยที่ฉันและคนทั่วไปรู้จัก
แต่สุโขทัยในความจริงยังไม่หมดแค่นั้น!
แม้เราจะร่ำเรียนกันมาว่า ...
สุโขทัยคือแหล่งผลิตเครื่องสังคโลกสำคัญมาตั้งแต่โบราณ
แต่คนส่วนใหญ่มักจะไม่รู้ว่าที่นี่มีกิจกรรมให้นักท่องเที่ยว
ปั้นและเขียนลายบนเครื่องสังคโลก เพื่อเป็นของที่ระลึกติดไม้ติดมือกลับบ้านไปด้วย
เนื่องจากปัจจุบันนี้สุโขทัย อยู่ในความดูแลของ
องค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (องค์การมหาชน)
การผลิตเครื่องสังคโลกที่แต่ก่อนเป็นศิลปะ ที่สืบทอดกันรุ่นต่อรุ่นเท่านั้น
(แต่ละครอบครัวก็มีสูตรเฉพาะของตัวเองอีกต่างหาก)
ก็เปิดรับนักท่องเที่ยวมากยิ่งขึ้น ในสุโขทัยจึงมีเวิร์กช็อปหลายแห่ง
ที่นักท่องเที่ยวสามารถเข้าไปแสดงฝีมือได้


เหนื่อยจากปั่นจักรยานชมโบราณสถานแล้ว ...
หันมาเปลี่ยนบรรยากาศเป็นปั้นหม้อปั้นไห
เขียนลายบนเครื่องสังคโลกก็สนุกไปอีกแบบ
หลายคนได้มาลองครั้งหนึ่งแล้วยังไม่พอใจในฝีมือตัวเอง
ก็กลับไปลับฝีมือแล้วกลับมาวาดใหม่ก็มีนะเออ! เขียนโดย คุณชิดสุภางค์ ฉายวิโรจน์www.mylifeinwander.wordpress.com
ภาพ: องค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน
ถ้าชอบเที่ยวแนวนี้ ลองแอด Line@ ของอพท. (@dastatravel)
เพื่อรับข่าวสารข้อมูลเกี่ยวกับสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆเพิ่มเติม
SCAN เลย!

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in