เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
FICTION iKONNapassorn CHAN
Promise Me แค่คนอีกคน
  • Promise  me.

    Promise  me  you  won’t  leave


    สัญญากับฉันนะ

    สัญญาว่าเธอจะไม่ไปไหน.



    cr : on the pic


    เมื่อคุณตกหลุมรักใครสักคน

    คุณก็พร้อมทำทุกอย่างเพื่อเขา

    และพร้อมยอมเขาทุกอย่างเช่นกัน


    กู จุนฮเว

    คิม จินฮวาน

    ลี ดงฮยอก

    คิม ฮันบิน


    ตามไปเม้าท์ได้ที่ Twitter : @FarNN_ZL


  • cr : on the pic


    One Day

    Sea …

     

                    ถ้าคุณรักใครสักคน คุณคงอยากให้เขามีความสุขมากที่สุด

              ผมเองก็เช่นกัน …

     

              มือใหญ่เอือมไปหยิบโทรศัพท์จากกระเป๋าคู่ตัวที่ถูกวางไว้เบาะข้างๆ ใบหล่อระบายยิ้มอย่างมีความสุขแค่เขาจะโทรหาใครบ้างคนที่เขาคิดถึง เขาก็มีความสุขแล้วล่ะ

              รอสายไม่นานปลายสายก็รับสาย

              “ว่าไงฮะเจ้าหนู” เสียงเล็กๆ ของปลายสายตอบกลับมาอย่างอารมณ์ดี

              “โธ่…พี่จินฮวาน พี่ลืมอะไรไปรึเปล่าครับ ผมนี้ไม่ใช่เจ้าหนูแล้วนะ” ปลายสายหัวเราะอย่างอารมณ์ดีที่แหย่ให้จุนฮเวโมโหได้

              “เอาน่า…ก็พี่เรียกจนติดปากไปแล้วนี้น่า”

              ร่างสูงคิดติดแค่เรียกเจ้าหนูเองเหรอ ไม่ติดอย่างอื่นของเขาบ้างเลยเหรอไง

              “เอาเงียบเลย โทรมามีไรเปล่า”

              “เดี๋ยวไปหานะครับ”

              “เฮ้ย…จะมาได้ไง นี้เพิ่งเที่ยงเองนะ เราเลิกเรียนแล้วเหรอ”

              “โดด”

              จุนฮเวบอกสั้นๆ แล้วตัดสายทิ้งไปทันที ทำให้คนตัวเล็กโวยวายที่ยังพูดไม่จบอีกคนก็ตัดสายทิ้งไปก่อน พอโทรกลับก็ไม่รับอีก เจอหน้าเมื่อไหร่ล่ะหน้าดู !!!

    มหาวิทยาลัย N

               รถเบนซ์คันงามก็มาจอดอยู่ที่ข้างๆ คณะนิเทศศาสตร์ที่จินฮวานเรียนอยู่ ร่างสูงของกู จุนฮเวเปิดประตูลงมา ผมรองทรงยาวสีดำ อยู่ในชุดนักเรียนมัธยมเอกชนชื่อดัง เขาออกมายืนพิงรถ เพื่อมองหาคนที่เขาโทรไปหาเมื่อกี๊ ไหนบอกเลิกเรียนแล้วไงว่ะ หายไปไหนอีกเนี่ย ร่างสูงยกนาฬิกาดู นี้ก็เกือบเที่ยงแล้ว เขาหิวจนจะกินไดโนเสาร์ได้ทั้งตัวแล้วเหอะ

              หน้าที่ติดไปทางเหวี่ยงอยู่แล้ว ดูเหวี่ยงขึ้นไปอีก เพราะอากาศข้างนอกก็ร้อนใช่เล่น แถมยังต้องมายืนรออีก สาวๆ ที่เดินผ่านไปผ่านมา ต่างพาให้ความสนใจกับเด็กหนุ่มตรงหน้า หุ่นสูงใหญ่ได้สัดส่วน ชายเสื้อนักเรียนที่ถูกดึงออกมาอย่างใส่ใจ เนคไทที่เจ้าตัวรูดลงอย่างรำคาน บวกกับในหน้าที่หล่อเหลาทำให้หน้ามองขึ้นไปอีก

              “พี่จินฮวาน พี่อยู่ไหนแล้วเนี่ย ผมมายืนรอนานแล้วนะครับ”

            ร่างสูงพูดใส่โทรศัพท์ ปกติแล้วเขาไม่ใช่คนที่พูดเพราะสักนิด แต่พอเป็นพี่จินฮวานผมเลยไม่กล้าพูดกับเขาสักงั้น

              “หันหลังมาสิ”

              ร่างสูงหันควับทันที

              “มารอแค่นี้ทำเป็นบ่น”

              จินฮวานเดินตรงมาหามนุษย์หน้าเหวี่ยง แล้วหยิบผ้าเช็ดหน้าออกมาจากกระเป๋าเสื้อ บรรจงเช็ดเหงื่อที่ใบหน้าหล่อของกู จุนฮเว

              มนุษย์หน้าเหวี่ยงที่ทำท่าเหมือนจะโกรธกับอมยิ้ม มองร่างเล็กที่เช็ดเหงื่อให้เขาอยู่

              “ค่อยเช็ดก็ได้ครับ ขึ้นรถกันเถอะ”

              ร่างสูงคว้ามือเล็กให้หยุด ก่อนจะจับมือพาเดินไปที่อีกด้านของรถ ร่างสูงเปิดประตูรถคนตัวเล็กกว่าก้าวขึ้นรถเขาจึงปิดประตูแล้วอ้อมมาทางฝั่งคนขับ

              “มารับพี่ไปไหน แล้วเราทำไมต้องโดดเรียนด้วย!”

              จินฮวานถามขึ้นพร้อมดุมนุษย์หน้าเหวี่ยงทันทีที่ขึ้รถเรียบร้อย

              “ผมก็โดดประจำแล้วป่ะ พี่ไม่เห็นต้องคิดมากเลย”

              “ก็รู้ว่าโดดบ่อย แต่นี้นายกำลังจะจบ.6 แล้วนะ นายควร…”

            “พอๆ พี่ ไม่เห็นต้องดุผมเลย ผมโตแล้วนะครับ ไม่ใช่เด็กๆ”

              คนตัวเล็กที่เถียงไม่ได้สะบัดหน้าพร้อมกอดอกมองข้างทางทันที ร่างสูงอมยิ้ม ไม่ใช่เขาไม่รู้ว่าคนตัวเล็กๆ เป็นห่วงเขาแค่ไหน

              ร่างสูงขับรถออกมาไกลจากตัวเมือง คนตัวเล็กมองเขาอย่างแปลกใจ แต่กลับไม่ยอมถาม เพราะเขายังเคืองๆ เรื่องที่เถียงกันอยู่

              “เดี๋ยวเราจะแวะกินข้าวที่ร้านแถวๆ ข้างทางนะครับ”

              คนตัวเล็กก็ยังนิ่ง ทำไปไม่สนใจ เขาส่ายหน้าเล็กน้อย

    ร้านอาหาร

            “สั่งอาหารสิครับ พี่จะกินอะไรหรือว่าจะให้ผมสั่งให้”

              คนตัวเล็กมองกวาดรายการอาหารแล้วสั่งข้าวผัดกุ้งอย่างเดียว เขาเลยสั่งข้าวเปล่ากับกับข้าวอีกสามอย่าง คนตัวเล็กนั่งมองไปทางอื่นตลอดเวลา ชวนคุยก็ถามคำตอบคำ ชักทำให้หงุดหงิดแล้วสิ

              ร่างสูงลุกขึ้นพรวดแล้วเดินออกมาข้างนอกเพื่อดับความหงุดหงิด แล้วหยิบบุหรี่ขึ้นมาสูบตรงบริเวณที่เขาติดป้ายไว้ให้สูบบุหรี่ได้ งอนอะไรไม่เข้าเรื่องตลอด แต่ก็น่ารักไปอีกแบบนะ

              จินฮวานกลับนั่งแทบไม่ติดที่จู่ๆ มนุษย์หน้าเหวี่ยงก็ลุกขึ้นเดินไปไหนก็ไม่รู้ ตอนนี้อาหารก็มาเสิร์ฟแล้ว แต่จุนฮเวก็ยังไม่เดินกลับมา จะออกเดินไปตามก็ไม่รู้จะไปตามที่ไหน เขาได้แต่นั่งเขี่ยอาหารไปมา

    แก้วน้ำเซเว่นถูกวางลงตรงของคนตัวเล็ก พร้อมกับร่างสูงของจุนฮเวที่นั่งลงกินข้าวทันที เสลอปี้ของโปรดของเขานั่นเอง ที่แท้ไปซื้ออันนี้มาง้อเขาเองเหรอ

              “ยิ้มแต่ให้กับของกิน แล้วไม่ยิ้มให้คนที่ไปซื้อเลยเหรอ”

              เสียงเหวี่ยงๆ ตามหน้าตาของเจ้าของเสียง ไม่ได้ทำให้คนตัวเล็กสนใจสักนิด แต่เขาก็รู้ว่าตัวเล็กของเขาพอใจ

              พอกินข้าวเสร็จจุนฮเวก็ขับรถต่อไป จินฮวานก็ทำหน้างงเข้าไปใหญ่ เจ้าเด็กนี้จะพาเขาไปไหน

              “แล้วเราไม่กลับบ้านกันเหรอ”

              “เรากำลังจะไปทะเลกัน”

              ร่างสูงหันมองหน้าคนตัวเล็กที่อ้าปากค้างไปแล้ว คนอะไรตกใจยังน่ารัก


    ทะเล

            ผมจอดรถตรงที่หน้าโรงแรม แล้วจับมือพี่จินฮวานให้เดินตามมา ส่วนมืออีกข้างก็ถือระเป๋าของผมและของพี่จินฮวาน ส่งกุญแจรถให้พนักงานเอารถไปเก็บ

              “ทำไมถึงชอบทำอะไรแบบนี้ด้วยก็ไม่รู้”

              “ถ้าผมบอกพี่ดีๆ พี่จะมาไหมล่ะ”

              “ไม่”

              “เหอะ”

              ผมยื่นกุญแจเปิดห้องพี่ชายตัวเล็กที่ยืนทำง้อบอกบุญไม่รับ พรุ่งนี้เป็นเสาร์แถมผมยังไปขออนุญาตพ่อแม่ของพี่จินฮวานมาแล้วด้วย ว่าจะนอนค้างที่นี้และเตรียมเสื้อผ้ามาพร้อม พี่จินฮวานเลยหาเรื่องงอแงกลับบ้านไม่ได้ คิดการใหญ่ต้องรอบคอบ

              “อาบน้ำก่อนไหมครับพี่”

              ผมวางกระเป๋าเสื้อผ้าลงบนเตียง พี่จินฮวานพยักหน้าก่อนจะหยิบกระเป๋าเสื้อผ้าตัวเองเข้าไปในห้องน้ำด้วย ผมเลยถอดเนคไทออกแล้วปลดกระดุมเสื้อออกหมดทุกเม็ด เพราะอากาศร้อนมากจริงๆ

              ผมกำลังจะไปเรียนที่ต่อแคนนาดาหลังจบม.ปลายที่นี้ แต่ผมยังไม่ได้บอกพี่จินฮวานเรื่องนี้เลย ผมนอนคิดมาหลายวันแล้วที่จะบอกพี่จินฮวานยังดี ใจจริงผมไม่อยากเรียนต่อที่ไหนนั่นเลย อยากจะไปเรียนที่เดียวกับพี่จินฮวาน แต่ขัดพ่อไม่ได้

              บ้านของเราอยู่ติดกันพ่อผมก็เป็นเพื่อนสนิทกับพ่อพี่จินฮวานอีกด้วย ทำให้เราโตมาพร้อมๆ กัน ถึงพี่จินฮวานจะแก่กว่าผมแต่เราก็สนิทกันมากๆ พี่จินฮวานตอนเด็กๆ ก็ตัวเล็กมาก ขนาดโตแล้วยังสูงแค่หน้าอกผมเอง เขาทั้งน่ารัก นิสัยดี ใจดีอีกต่างหากแตกต่างกับผมทั้งที่ใจร้อน ปากเสีย แต่เราก็เข้ากันได้ดีนะ ผมนอนคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อย จนพี่จินฮวานอาบน้ำเสร็จ ผมเลยลุกไปอาบน้ำบ้าง

              “ตัวหอมจัง”

              ผมเดินไปใกล้พี่จินฮวานแล้วพูดข้างหูๆ โดนไล่ตะเพลิดเข้าน้ำแทบไม่ทันทัน หอมจริงๆ นี้นา

    ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….................

    17 : 00 น.

              ผมกับพี่จินฮวานนอนเล่นกันอยู่บนเตียงในห้องขนาดห้าโมงเย็นแล้วอากาศยังร้อนอยู่เลย

              “พี่ว่าผมเหมาะกับคณะไหนที่สุด”

              พี่จินฮวานทำท่านึกแล้วจู่ๆ หัวเราะออกมา

              “ฮ่าๆๆๆ อย่างนายนี้นะ น่าเรียนเกษตรที่สุดแล้วล่ะ ทั้งตัวใหญ่ ทั้งถึกแบบนี้อ่ะ”

              คำตอบของพี่จินทำเอาผมกรอกตาแรงมาก หน้าผมมันเหมาะขนาดนั่นเลยเหรอ

              “โหยยย พี่จริงจังดิ”

              “พี่ก็จริงจังอยู่นะ ใครบอกพี่ล้อเล่น” คนตัวเล็กหันไปยิ้มตาหยีใส่คนที่นอนอยู่ข้างๆ ที่ทำหน้าเหวี่ยงแรงมาก เขาก็แค่ล้อเล่นเอง ดูทำหน้าเหมือนลิงไม่ได้กินกล้วยซะงั้น

              “ชอบอันไหนก็เรียนอันสิ ไม่เห็นยาก”

              “แล้วถ้าชอบพี่ต้องเรียนคณะไหน”

              ร่างสูงอมยิ้ม คนตัวเล็กพลิกตัวหนีไปอีกฝั่งทันที

              “หึๆๆ” เขินล่ะสิ

              พอแดดเริ่มเบาลงผมกับพี่เลยเดินลงมาข้างล่างของโรงแรม

              “หิวหรือยังครับ”

              ร่างเล็กส่ายหัว เราก็เลยเดินต่อไปที่ชายหาดมีผู้คนอยู่ปะปลายหลาย โรงแรมแห่งนี้อยู่ในเครือของการดูแลจากครอบครัวของผม แดดสีส้มๆ ตัดกับสีน้ำทะเลดูแล้วสวยจริงๆ แต่คนข้างๆ ผมนี้สิสวยยิ่งกว่าธรรมชาติเสียอีก

              “มองโน่นสิ หันมามองพี่ทำไม”จินฮวานหันมาบอกยิ้มๆ

              ผมไม่ได้ตอบกลับแค่หันหน้ากลับมามองพระอาทิตย์ที่กำลังค่อยๆ ตก ผมเอือมมือไปจับมือคนตัวเล็กข้างๆ อยากจะจับมือนี้ไปนานๆ แบบนี้ ผมอยากให้เวลาหยุดไว้แค่ตรงนี้เลยได้ไหม

              “ผมกำลังจะไปเรียนต่อที่แคนนาดา”

              ผมพูดทำลายความเงียบขึ้นมา พี่จินฮวานหันมามองผมทันที

              “อะ…อะไรนะ นายกำลังอ้ำพี่อยู่หรือไง”

              “พ่อผมต้องการให้ผมไปเรียนต่อที่นั่น ท่านเตรียมทุกอย่างไว้พร้อมแล้ว”

              พี่จินฮวานเงียบลงไป อย่าเงียบแบบนี้สิพี่ ผมใจคอไม่ดีนะ

              “สัญญาของเรานายลืมไปแล้วเหรอจุนฮเว”

              น้ำตาของพี่จินฮวานไหลลงมา ผมดึงเขามากอด ไม่ใช่ว่าผมลืมสัญญา อย่าร้องไห้เลยนะได้โปรด คนดีของผม อย่าร้องไห้

              “ฮึก…ไหนบอกว่าจะอยู่ฉัน จะไม่ทิ้งฉันไปไหน…สัญญากันไว้แบบนี้แล้วไม่ใช่เหรอ” เสียงเล็กดังอู้อี้อยู่กับอกผม แขนเล็กกอดรัดจนแน่น ผมกอดตอบ ยิ่งเขาร้องไห้แบบนี้ผมยิ่งเจ็บ

              “ผมไม่เคยลืมสัญญา แต่ที่ผมไปเพราะอยากรักษาสัญญาของเราไว้ต่างหาก”

              ผมดึงพี่จินฮวานออกจากอ้อมกอด เกลี่ยเช็ดน้ำตาเบาที่ข้างแก้ม ทุกอย่างที่เป็นเขาขึ้นมาสำคัญกับผมมาก พี่จินฮวานเปรียบเหมือนลมหายใจของผม…

              “เพื่อรักษาสัญญายังไง ในเมื่อนายต้องไปอยู่ที่อื่น ไม่ใช่ข้างๆ พี่อ่ะ”

              “พี่จินฮวานครับ…หนึ่งปีที่ผ่านมาผมยังรักพี่ ยังคิดว่าพี่เป็นแฟนเป็นอยู่ ยังคิดว่าพี่คือคนของผม และผมยังไม่สามารถกลับมาเป็นน้องชายของพี่ได้จริงๆ ผมถึงไปที่อื่น”

              ผมเหมือนอยู่ในน้ำลึก… ไม่มีอากาศ น้ำตาไหลเริ่มไหลออกมาไม่หยุด

              “เรากับมาเป็นเดิมได้ไหมพี่….ผมทนไม่ไหวว่ะที่เห็นพี่ไปรักคนอื่นแบบนี้”

              จินฮวานร้องไห้หนักมาก เขาไม่เคยคิดว่าการมาทะเลครั้งนี้ จะทำให้เขารู้อะไรหลายๆ อย่างของจุนฮเว น้องชายที่เขารักมากที่สุด จุนฮเวมาสารภาพรักกับผม เราก็เลยลองคบกันดู เพียงเวลาไม่กี่เดือนก็เลิกกัน เพราะเขาเองที่ไม่สามารถชอบจุนฮเวเหมือนกับคนรักได้ เลยขอกับมาเป็นเพียงพี่น้องกันเหมือนเดิม

              “พี่รักผมแบบผู้ชายคนๆ หนึ่งไม่ได้เลยไหมครับ”

              “…”

    มีแต่เสียงร้องไห้ที่เป็นคำตอบที่แน่ชัดแล้ววันนี้

    “ผมรักพี่ ผมรักพี่จินฮวาน พี่ได้ยินไหมครับ…ว่าผมรักพี่”

    ร่างสูงจับไหล่บางไว้แล้วเขย่าตัวให้จินฮวานตอบเข้าบ้าง ไม่ใช่แต่เอาร้องไห้ เขาเจ็บแค่ไหนที่ต้องทนเป็นน้องชายแสนดีที่ยอมอยู่ข้างๆ ผู้ชายที่เขารักมากที่สุด ยอมทนเจ็บเพราะอยากอยู่เคียงข้างเขาในทุกวินาที

    “พี่ไม่ได้รักเราได้ยินไหม!!!”

    จินฮวานตะคอกจนสุดเสียง มือที่บีบไหล่เขาไว้ ล่วงหล่นทันที ใบหน้าของจุนฮเวแดงกล่ำ ดวงตามีแต่น้ำตา ซึ่งไม่แตกต่างจากเขา

    “พี่มาทำให้ผมรักทำไมว่ะ”

    “…”

    “แล้วทำไมผมถึงได้เป็นแค่น้องชาย”

    “…”

    “แถมยังโง่ไปสัญญาอะไรบ้าๆ แบบนั่นไปกับพี่อีก!!!”

    ผมทรุดลงกับพื้นทราย น้ำตาลูกผู้ชายที่เขาว่ามันไหลยากวันนี้ มันไหลลงมา เพื่อระบายความเจ็บปวดในหัวใจของผม ยอมเขาทุกอย่างขนาดนี้แล้ว รักผมบ้างไม่ได้เหรอพี่จินฮวาน

    “จุนฮเว…”

    จินฮวานมองภาพตรงหน้า เขาไม่เคยจุนฮเวร้องไห้หนักขนาดนี้มาก่อน เขาอยากจะเดินเข้าไปกอดปลอบจุนฮเว แต่กับถูกรั้งไว้เสียก่อน

    “ฮันบิน…นายมาที่ได้ไง”

    “เราก็ตามนายมาไง”

    ผมลุกขึ้นมองภาพตรงหน้า ไอ้ฮันบินกำลังเช็ดน้ำตาให้คนที่ผมรักมากที่สุด และกำลังกอดอย่างหวงแหน เหมือนมีเข็มพันๆ เล่มทิ่มแทงตามร่างกายผมอยู่

    “ผมยอมแพ้พี่แล้ว พี่จินฮวาน”

    ผมเอ่ยขึ้น พี่จินฮวานผละออกจากกอดนั่น แต่ฮันบินผสานจับมือพี่จินฮวานไว้แน่น ผมมองมือที่จับกันอยู่ ดูก็รู้แล้วว่าเขารักกันขนาดไหน ถึงเวลาที่ผมต้องไปจริงๆ แล้วสินะ

    “ฝากดูแลพี่จินฮวานด้วยล่ะ ถ้าเขาเสียใจเมื่อไหร่ ฉันกลับมาแย่งคืนแน่”

    “ไม่มีวันนั่นแน่นอน” ฮันบินพูดด้วยเสียงหนักแน่น พร้อมกระชับที่จับกันอยู่

    “ดี ฉันไปล่ะ”

    ผมหันหลังเดินออกมา ผมรู้ว่าผมไม่สามารถแย่งพี่จินฮวานมาได้หรอกและหมอนั่นคงไม่ทำให้พี่จินฮวานเสียใจเป็นแน่

    “จุนฮเว…พี่รอนายกลับมาเป็นน้องชายของพี่นะ แล้วอย่าสัญญาของเราด้วย!”

    เสียงตะโกนของพี่จินฮวานดังไล่ตามหลังผมมา สองเท้าก้าวไปอย่างไร้เรียวแรง พี่ยังต้องการคนแบบผมอยู่อีกเหรอ ผมอยากลืมสัญญาของเรา พี่ได้ยินไหม ผมกลับไปเป็นน้องชายของพี่ไม่ได้อีกแล้ว …

     



    “สัญญากับฉันนะ

    สัญญาว่าเธอจะไม่ไปไหน.

    ถึงเราจะเลิกกันแล้ว

    แต่เราก็ยังกลับมาเป็นพี่น้องที่ดีต่อกันเหมือนเดิมนะ

     

     


     

    ผมแอบเดินตามจุนฮเวตั้งแต่ที่เขาทะเลาะกับพี่จินฮวาน เขาดูเหม่อลอยและเดินมาไกลจากโรงแรมมากๆ แล้วตอนนี้มืดมากๆ อีกด้วย แต่ดีหน่อยที่คืนนี้ ดวงจันทร์เต็มดวงเลยทำให้มีแสงสว่าง นั่น! จุนฮเวเขากำลังนั่งลงที่พื้นทรายใกล้กับทะเล จนน้ำซัดคลื่นกระทบเขาเต็มๆ

    ใบหน้าของจุนฮเวดูเจ็บปวดมากๆ เขาจะรู้รึเปล่าว่าคนที่แอบมองเขาอยู่ตรงนี้ ก็เจ็บปวดไม่ต่างจากเขาเลยสักนิด จุนฮเวยังคงร้องไห้ ร้องแบบที่ผมไม่เคยเห็นมาก่อน ทั้งที่ผมเป็นเพื่อนเขามาตลอด

    ผมเดินเข้าใกล้ๆ และนั่งลงข้างหมอนั่น แต่เขาก็ยังไม่รู้สึกตัวว่ามีคนมานั่งลงข้างๆ เขา น้ำทะเลเย็นมาก

    “ใช้น้ำดับความใจร้อนหรือไง”

    จุนฮเวค่อยๆ หันมา เขายิ้มเบาๆ แล้วทอดสายตามองไปยังที่เดิม

    “ถ้ามันดับได้ก็ดีสิ”

    “นายว่าฉันเหมือนคนโง่เลยไหม ที่ยังดื้อดึงไม่ยอมรับความจริงที่มันเกิดขึ้น พยายามรั้งให้เขามา ทั้งที่รู้ว่าเป็นไปไม่ได้...เขามีคนที่เขารักมากที่สุดอยู่แล้ว...ฉันรู้อยู่เต็มอกแต่ก็ยังทำมันลงไป”

    จุนฮเวพูดออกมาทั้งน้ำตา เขาคงเจ็บปวดมากจริงๆ

    “ดงฮยอกถ้านายจะรักใครสักคน นายก็ควรเผื่อใจไว้ด้วยนะ จะได้ไม่มีสภาพอย่างฉัน”

    จุนฮเวหันบอกมาทางผมก่อนจะกอดไหล่ผมไว้ เขาบอกผมช้าไปแล้วล่ะ เพราะตอนนี้ผมรักเขาแบบไม่สามารถเผื่อใจไว้ได้แล้ว หันมามองฉันสิ ฉันพร้อมจะอยู่เคียงข้างนายตลอดไปเลยนะจุนฮเว …



    การแอบรักใครสักคนในฐานะที่เป็นได้แค่เพื่อนเขาเท่านั่น เจ็บปวดพอๆ กับเขาที่สามารถเป็นได้แค่น้องชายคนที่เขารัก 

     

     

    The End …

Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in