เมื่อต้องเดินทางไปนิวยอร์คคนเดียว เป็นคนป้ำๆเป๋อ
และภาษาจัดว่าแย่มาก
เมื่อต้องเผชิญกับความรู้สึกที่จะต้องจากบ้านไปไกลเพียงลำพังและยังรู้อีกว่า กลับมาบ่อยๆไม่ได้ มันทำให้ต่อมความกลัวผลิตขึ้นมาทวีคูณ ฉันนั่งนับถอยหลังทุกวัน พร้อมๆกับวางแผนนัดเจอเพื่อนๆ วางแผนตระเวนกินอาหารไทยให้หายอยาก จนกระทั่งถึงวันนี้...8 วันก่อนการเดินทาง ฉันต้องเผชิญกับปัญหาเบาๆให้ได้ลองลิ้มชิมรสกับคำว่าอุปสรรคเข้าสะแล้ว
ไม่รู้ว่าเป็นเรื่องดีหรือเรื่องร้ายกันแน่ที่ฉันต้องมาแก้จมูกในเวลานี้!! เรื่องมันมีอยู่ว่า ฉันตกลงปลงใจเอาจมูกน้อยๆของฉันไปเพิ่มสัน เพิ่มกำแพงไม่ให้น้ำตาไหลถึงกันเวลานอนตะแคง เหมือนในอดีต เหตุการณ์ก่อสร้างนี้เกิดขึ้นเมื่อ 2 ปีก่อน เวลาล่วงเลยผ่านมาทำให้มีบางส่วนชำรุด เกิดรอยแดงๆเหมือนหัวสิวขนาดเล็กบริเวณปลายจมูก และรอยนี้ก็เพิ่งมาเกิดขึ้นในวันนี้!! ถ้ามองในแง่ดี คือ ถ้ารอยนี้ยังไม่เกิดและฉันตัดสินใจไม่ไปหาหมอ ฉันก็คงต้องบินไปนิวยอร์ค เจอกับสภาพอากาศที่หนาวจนจมูกเกิดการอักเสบรุนแรง และฉันต้องบินกลับมาแก้ มันคงทำให้ฉันรู้สึกแย่กว่านี้
และเมื่อฉันตัดสินใจรีบไปพบหมอ คุณหมอก็พูดทันทีว่า ต้องแก้!! ก่อนที่จะบินไปอเมริกา ภาพข่าวที่ฉันเพิ่งดูเมื่อคืนนี้ลอยมาในหัวทันที เสียงดังกึกก้องที่นักข่าวรายงานว่า มีพายุหิมะเกิดขึ้นที่นิวยอร์คอยู่ในขณะนี้และคาดว่าจะยาวนานไปจนถึงวันที่ฉันเดินทางดังซ้ำไปซ้ำมาในหัวฉัน...ฉันไม่พูดพล่ำทำเพลง ตอบตกลงทันที
8 วัน ก่อนการเดินทางของฉัน มันจึงกลายเป็นการนั่งๆนอนๆหน้าบวม
ทำอะไรไม่ได้ กินอาหารทะเลไม่ได้ ซึ่งความจริงแล้ว อาทิตย์สุดท้ายนี้
ฉันมีนัดเลี้ยงฉลองกับเพื่อนๆมากมายและญาติผู้ใหญ่อีก ทุกอย่างพังคลื้น
และยังมีนัดใส่ครอบฟันกับคุณหมออีก แน่นอนว่าหน้ากำลังบวมได้ที่เลย อ้าปากได้เพียงนิดเดียว จนคุณหมอต้องใช้เครื่องช่วยอ้า ชีวิตของฉันช่วง 2-3 ปีมานี้ มันช่างเข้มข้น ไม่เรื่อยเปื่อย ไม่ธรรมดาเอาสะเลย นึกถึงสมัยที่ทำงานราชการ เป็นเวลา 2 ปีที่ชีวิตแสนเรียบง่าย ไม่ได้เข้า รพ.ไม่ได้เที่ยว ไม่ได้มีโอกาสทำอะไรใหม่ๆเลยตอนนั้น ใฝ่ฝันที่จะได้ไปต่างประเทศและมีชีวิตที่โลดโผน แต่ตอนนี้ ขนาดยังไม่เริ่มต้น ฉันกลับคิดถึงชีวิตที่เรียบง่ายสมัยทำงานราชการเสียแล้ว
...Dairy จากสมุดบันทึกเมื่อสามปีที่แล้ว
Next Chapter ....<Start in the Kitchen1>
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in