เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
THE HIDDEN SHIPfanggnidaa
DAY 10 : Coming of Age
  • DAY 10 : Coming of Age

    Paring : Park Jihoon x Kim Jonghyun

     

                   

                    พัคจีฮุนเป็นพวกกเฬวราก  

     

                    ใครๆต่างก็รู้กัน ไม่มีใครยุ่งวุ่นวายกับเขา เพราะเขาอันตรายเกินกว่าที่จะมีปฏิสัมพันธ์ด้วย

     

                    หัวรุนแรง ชอบใช้กำลัง

     

                    ไม่น่าคบหา

     

                    ไร้ค่า

     

                    จะมีก็แต่คิมจงฮยอน  

                    ประธานนักเรียนและนักเรียนดีเด่น ผู้เป็นที่รักของอาจารย์และนักเรียนทุกคน

     

                    ใจดีอ่อนโยนและใจเย็นกับทุกสิ่งทุกอย่าง

                    แม้แต่ในตอนนี้

     

                    “หยุด!! จีฮุน พี่บอกให้หยุดไงอยากโดนไล่ออกมากนักเหรอ?” มือของจีฮุนที่ง้างหมัดพร้อมที่จะเหวี่ยงหมัดหนักๆนั้นลงที่ใบหน้าของควอนฮยอนบิน คนที่เขาเกลียดขี้หน้า คนที่พยายามสานสัมพันธ์กับคิมจงฮยอน ต้องลดระดับลงเพียงเพราะประโยคเตือนของคนตัวเล็กที่มายืนอยู่ข้างๆเขา

     

                    “มึงไปซะ แล้วไม่ต้องมายุ่งกับจงฮยอนอีก” ออกปากไล่ร่างสูงที่แสนเกลียดให้ออกไปจากตรงนี้ ก่อนที่ความอดทนจะหมดลงอีกครั้ง เพราะเขาเกลียดสีหน้าล้อเลียนที่กำลังกวนอารมณ์อันขุ่นมัวของเขาให้ปะทุขึ้นอีกเสียให้ได้

     

                   

                    “เจ็บไหม?” คนตัวเล็กถามขึ้นมาหลังจากที่ปล่อยให้ความเงียบครอบงำทุกอย่างรวมทั้งความเงียบ ที่ช่วยเก็บกดอารมณ์ที่รุนแรงของพัคจีฮุนให้ลดลง

     

                    “อะไร ไม่ได้โดนไอ้เหี้ยนั่นต่อยซะหน่อย” เขาพูดจริงเขาไม่ได้โดนฮยอนบินต่อยหรือทำอะไรเลย ถ้าคนที่เจ็บ ก็คงมีแต่ฝ่ายนั้นเสียมากกว่า

     

                    “โกหก”

     

                    “ไม่ได้โกหก ดูเลย ไม่มีแผลสักนิด” เขายื่นหน้าไปใกล้คนตัวเล็กเพื่อที่จะได้มองได้อย่างชัดเจนว่าไม่มีรอยแผลอะไรเลยบนใบหน้าของเขา

     

                    “ไม่เจ็บก็ดีแล้ว ไม่มีแผลก็ดีแล้ว พี่จะได้สบายใจ” คนข้างๆกำลังยิ้มไม่ต้องบอกก็รู้ว่าจงฮยอนหมายถึงเรื่องอะไร

     

                    “จงฮยอน”

     

                    “หืม ว่าไง?”

     

                    “ฉันไม่รู้ว่าจะพูดออกมายังไง มัน… มันอึดอัด มันล้นไปซะหมดเลย มัน…”

     

                    “ถ้าพูดออกมาแล้วมันเจ็บก็ไม่ต้องพูด แต่ถ้าอยากพูดเมื่อไหร่ก็พูดเลยนะพี่ก็ยังอยู่ตรงนี้เสมอ”

     

                     

     

                    คิมจงฮยอนเป็นเพียงคนเดียวที่รู้ว่าครอบครัวของพัคจีฮุน ไม่อบอุ่น ไม่ได้มีพ่อที่เป็นเหมือนซุปเปอร์ฮีโร่ในใจ ไม่ได้มีแม่ที่คอยเคียงข้างให้กำลังใจเวลาที่ท้อแท้ แต่ครอบครัวของพัคจีฮุนมีแต่พ่อที่ชอบใช้ความรุนแรง ไม่ได้ใช้ความรุนแรงกับเขาแต่การกระทำทุกอย่างตกไปที่คนเป็นแม่ ที่จะต้องเจ็บปวดทั้งร่างกายและจิตใจทุกครั้งเวลาที่พ่อโมโห 

                    เสียงของหัวใจของเขาก็มักจะนำพาให้ตัวของพัคจีฮุนไปหาแม่ทุกครั้งเวลาที่แม่เจ็บ เขาหวังจะปลอบให้แม่ของเขาหยุดร้องแต่ทุกครั้งสิ่งที่ได้กลับมาก็คือถ้อยคำและวาจาที่เสียดแทงและทิ่มแทงหัวใจของเขาจนเคยชิน

     

                    พัคจีฮุนไม่มีแผลที่ร่างกาย เขามีเพียงแผลในจิตใจ มันเหวอะหวะ จนไม่คิดว่าจะมีใครมาเยียวยารักษาได้อีกแล้ว

     

    และคิมจงฮยอนเป็นเพียงคนเดียวที่กล้าเข้ามาในโลกของพัคจีฮุน จะเพราะอะไรก็ช่างที่ทำให้คนตรงหน้า เข้ามารับรู้เรื่องราวของเขา เพราะเป็นประธานนักเรียน หรือเพราะคิมจงฮยอนใจดีกับทุกคน เหตุผลอะไรก็ช่างพัคจีฮุนไม่สน เขาก็แค่อยากให้คิมจงฮยอนอยู่ในโลกของเขาไปนานๆ เขาอยากให้เป็นคิมจงฮยอนที่เข้ามาเยียวยาแผลในใจให้เป็นรูปเป็นร่างเหมือนเดิม

     

                    “จงฮยอน”

     

                    “อะไรเหรอ”

     

                    “อย่าทิ้งฉันไปไหนนะ ฉันไม่มีใครแล้ว” พูดประโยคโง่เง่านั่นออก เขาน่ะ อ่อนแอจะตายไป เขาก็แค่อยากมีใครสักคนที่อยู่ข้างๆเขาและเข้าใจเขา พัคจีฮุนต้องการแค่นั้นจริงๆ

     

                    คิมจงฮยอนไม่ได้ตอบรับอะไรกับคำพูดของพัคจีฮุนมีเพียงมือเล็กของจงฮยอนที่กำลังบีบมือหนาของคนข้างๆเพื่อแทนคำตอบของทุกสิ่งทุกอย่าง

     

    จะไม่ทิ้งไปไหนจะอยู่ข้างๆเสมอ

     

                    “ขอบ้างได้ไหม?”

     

                    “อะไร”

     

                    “อย่ามีเรื่องชกต่อยแบบนี้อีกได้ไหมจีฮุนมันไม่ดีเลยสักนิด”

     

                    “ฉันห้ามตัวเองไม่ได้ ฉันทนไม่ได้” เขาพูดด้วยความสัตย์จริงเขาพยายามที่จะอดทนอดกลั้นกับอารมณ์ร้อนของตัวเองแล้วทุกครั้ง แต่ก็ทำไม่ได้เลยสักครั้ง

     

    ครั้งแรกที่เขาได้ลองต่อยใครสักคนภาพในหัวของจีฮุนคือพ่อที่เข้าไปกระชากผมของแม่และผลักไปทางผนังห้อง วินาทีที่ภาพปรากฏออกมาเขาก็เหวี่ยงหมัดลงไปที่หน้าของคนที่ทำให้เขาโมโหและเขาก็ได้คำตอบว่าพ่อเองก็คงรู้สึกดีที่ได้ระบายอารมณ์กับใครสักคนด้วยวิธีแบบนี้ เฉกเช่นเดียวกับเขา

     

    “นายชอบไหมเวลาที่พ่อนายทำร้ายแม่”

     

    “ไม่ ฉันเกลียด ฉันไม่ชอบ” ก็แน่ล่ะ ใครจะอยากให้พ่อมาทำร้ายแม่ เขาไม่ชอบเลยสักนิด

     

    “นายไม่ชอบที่พ่อทำร้ายแม่แต่นายก็ไปทำร้ายคนอื่นน่ะเหรอ”

     

    “ก็มัน--”

     

    “อดทนได้ไหม นะ พี่ขอ อีกนิดเดียวเท่านั้นนะจีฮุน” จงฮยอนไม่เคยขออะไรเขาเลยจะมีก็แต่เรื่องนี้

     

    “ไม่รู้ว่าจะทำได้หรือเปล่า”

     

    “ได้สิพี่เชื่อว่านายทำได้”

     

    “เชื่อในตัวฉันจริงเหรอจงฮยอน”เขาถามจงฮยอน ก็เพราะว่าเขาต้องการความมั่นใจ นานแล้วไม่เคยมีใครเชื่อมั่นในตัวเขาเลย ไม่สิ ตั้งแต่เกิดมาไม่มีใครเชื่อในตัวเขาเลย ไม่มีใครเห็นว่าเขามีตัวตน

     

    “คนเราต้องก้าวต่อไปนะจีฮุน วันนึงนายต้องเติบโต วันนึงนายจะเข้าใจในทุกๆอย่าง”

     

     

    พัคจีฮุนเชื่อคิมจงฮยอนสักวันหนึ่งเขาจะต้องก้าวต่อไปเหมือนที่วันหนึ่งคิมจงฮยอนก็ต้องก้าวออกไปจากรั้วของโรงเรียนและเขาก็จะต้องอยู่ต่อไปเพื่อให้ถึงเวลาที่เขาจะก้าวออกไปเช่นกัน 

    เพราะชีวิตไม่เคยหยุดเพื่อใคร เวลาไม่หยุดเดิน มนุษย์เราเติบโตขึ้นทุกวัน ไม่ใช่เพียงเติบโตทางด้านอายุแต่เป็นการเติบโตในด้านของความคิด

     

     

     

    Words; 1090

    #Novelber2017

    #ffnvb

     

    Coming of Age สำหรับเราคือการเติบโตขึ้นค่ะเติบโตในเรื่องของความคิด จีฮุนที่มีอารมณ์รุนแรงนั้นเกิดขึ้นจากสภาพแวดล้อมของครอบครัวค่ะ เหมือนที่เขาบอกว่า ผู้ใหญ่เป็นยังไง เด็กก็เป็นแบบนั้น เด็กรับทุกอย่างจากพ่อแม่มาเต็มๆทุกอย่าง จีฮุนเลยรับเอาพฤติกรรมนั้นมาทำบ้างและเห็นว่าการใช้ความรุนแรงเป็นเรื่องปกติค่ะ ส่วนจงฮยอน เขาไม่ได้สอนอะไรจีฮุนมากนักหรอกค่ะ แต่เขาคือคนที่เชื่อใจและอยู่ข้างๆจีฮุน แน่นอนว่าคนแบบจีฮุนก็เพียงแค่ต้องการใครสักคนที่มาอยู่ข้างๆและเชื่อมั่นในตัวเขาก็เท่านั้นค่ะ หรือจะลองนึกภาพถึงเด็กเกเรก็ได้นะคะ ส่วนหนึ่งเขาต้องการการยอมรับน่ะค่ะ และวิธีของเขาก็คือการเรียกร้องความสนใจ ซึ่งแน่นอนว่าวันนึงเขาจะต้องโตขึ้นค่ะ วันนั้นเมื่อมีวุฒิภาวะมากพอ คนเหล่านั้นจะเข้าใจชีวิตมากขึ้นค่ะ ถ้าเขาได้โอกาสนะคะ

Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in