เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
50 สิ่งที่คุณควรทำหากเป็นนิสิตมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์Joy Asawasripongtorn
Part 1 : 50 สิ่งที่คุณควรทำหากเป็นนิสิตมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
  • วันนี้ขอเสนออออออออออออ

    "50 สิ่งที่คุณควรทำหากเป็นนิสิตมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์"

    Part 1

    จริงๆ เรื่องมันมีอยู่ว่าาาาาาาา

    I'm Unofficially Graduated !!!

    เอาจริงคือตั้งแต่เมื่อวาน แต่วันนี้คือวันสุดท้ายของการส่งงานสุดท้าย

    เลยเพิ่งได้ฤกษ์ ในการดรามาทิ้งท้ายชีวิตมหาลัยซะหน่อย

    ซึ่ง 50 อย่างนี้ก็มีทั้งที่มีสาระและไม่มีสาระอะนะ อย่าไปสนใจมาก อ่านขำๆละกันเนาะ ใครขี้เกียจอ่านก็อ่านแค่หัวข้อก็ได้ อุตส่าพิมง่ะ โดยจะแบ่งเป็น 2 Part ละกันเนาะ ขอพักมือหน่อย 
    เอ้ามาเริ่มกันเลย

    1. กิจกรรม ก้าวแรกสู่บัณฑิตยุคใหม่ 
    เริ่มกันด้วยกิจกรรมสำหรับปี 1 ใสใสละกันเนาะ เอาจริงคือกิจกรรมนี้อาจ
    เปลี่ยนชื่อไปตามปีที่จัดแหละนะ แต่ตอนที่เราอยู่จะกำหนดให้เข้าตามคณะ จะจัด 4 วัน ก็มีการแนะนำพวกชีวิตในมหาวิทยาลัย กิจกรรม สภาพแวดล้อมต่างๆ เหมือนให้เด็กปี 1 ที่ยังไม่รู้จักกันมานั่งฟังปฐมนิเทศอะไรอารมณ์นั้นแหละ เป็นกิจกรรมบังคับนะจ๊ะ ไม่เข้าต้องเข้าชดเชยปีหน้าก่อนจบเด้อ ได้ซองหนังแจกพร้อมน้ำขนม จัดที่อาคารจักรฯ

    2. กิจกรรมอ้อมกอดนนทรี
    ตามมาติดๆ กับกิจกรรมรับน้องใหม่ จัดโดยองค์การบริหาร องค์การนิสิต 
    (อบ.ก.) ซึ่งรูปแบบเมื่อนานมาแล้วคือการแบ่งเป็น 5 โซน โซนละ 5 ฐาน ให้สโมสรนิสิต ชมรมต่างๆมาทำฐานร่วมกัน ตอนเย็นมีคอนเสิร์ต นอกจากจะเป็นการรับน้องใหม่ การร่วมมือกันขององค์กรกิจกรรมนิสิตแล้ว ยังเป็นโอกาสให้นิสิตจากทุกคณะมาเจอกันด้วย (ใครจะแอบส่องหนุ่มเหล่สาวคณะอื่นงานนี้เปิดโอกาสเต็มที่ย์) พยายามหาเพื่อนจากกิจกรรมนี้เยอะๆ นะ
    แต่ปีที่ผ่านมาปรับเปลี่ยนรูปแบบเป็น 4 วัน (ส่วนตัวไม่ชอบเลย ชอบให้มา
    กันวันเดียวมากกว่า) โดยเปลี่ยนเป็น 5 ฐาน พอดีไม่ได้เข้าร่วมเลยรุ้ไม่ครบ แต่ที่โจษขานกันคือ ทัวร์ตะลัย กับฐานที่ให้ไปดูหอประวัติ ส่วนปีหน้าและต่อๆไปจะเป็นอย่างไรนั้นต้องคอยติดตามครัช

    3. Freshy Day Freshy Night (Kasetsart Fest to fresh)
    หรือที่รู้จักกันในการประกวด Freshy boy&girl ซึ่งปีที่ผ่านมาเกือบไม่ได้จัดเนื่องจากกฎของสกอ. ไม่ให้รับน้องหลัง 1 เดือน แต่ถ้าใครเคยเข้าร่วมจะรู้ว่ารูปแบบกิจกรรมไม่ได้เกี่ยวไรกับรับน้องเลยแม้แต่ซักกะผีก คือตอนเช้าตักบาตรทำบุญ ทำความสะอาดมหาวิทยาลัย แล้วตอนบ่ายตอนเย็นก็มีแปรอักษร (เริ่มทำในปี57) แล้วก็คอนเสิร์ต พร้อมกับการประกวด Freshy boy กับ freshy girl เป็นอีกกิจกรรมที่นอกจากจะได้เห็นคนหล่อคนสวยที่ซุ่มซ้อมเก็บตัวกันมาเป็นเดือนแล้ว ยังเป็นโอกาสให้ได้เจอคณะอื่นๆ อีกเช่นเคย รวมถึงในงานมีของกินของแจกจากสปอนเซอร์ภายนอก แล้วยังมีคอนเสิร์ต ที่มักจะเกิดเรื่องพีคๆ เสมอๆ แล้วก็ขอเตือนก่อนเลยว่า เป็นงานที่ไม่เคยเลิกก่อนเที่ยงคืนเลยซักปี ตลอด 4 ปีที่อยู่มา 555

    4. รับเสร็จฯ ในวันงานรับปริญญา + บูมพี่บัณฑิต
    เป็นงานพิธีการงานแรกของชีวิตปี 1 เลยก็ว่าได้ (แต่เราเคยทำตอนอยุ่ม.6ที่
    โรงเรียนอะนะ 555) นั่งรอรับเสร็จประธานพิธีพระราชทานปริญญาบัตร (มักจะเป็นเจ้าฟ้าหญิงฯ) แล้วก็การบูมพี่บัณฑิตในตอนเช้าก่อนเข้าห้องประชุม ส่วนใหญ่จะเป็นพวกเด็กกิจกรรม โดยมีทั่งเงินเมเจอร์ ชมรม หอพัก โดยเงินที่ได้นิสิตก็จะนำไปทำกิจกรรมในรุ่นรุ่นในองค์กรนั้นๆ เหมือนเป็นธรรมเนียมที่ทำๆกันมา ส่วนตัวมองว่า ควรเตี๊ยมกับพี่บัณฑิตก่อนว่าจะบูม ถ้าพี่เค้าเต็มใจก็โอเค แต่ถ้าเตี๊ยมแล้วไม่ได้ผล อย่าไปบังคับบัณฑิตเลยเน้อ โดยน้องๆก็จะล้อมวงร้องเพลงให้ บูมให้ เหมือนเป็นการแสดงความยินดีที่บัณฑิตฝ่านฟันชีวิตในมหาวิทยาลัยมาได้

    5. เข้าร่วม Art of Party
    จริงๆก็ไม่ใช่กิจกรรมสลักสำคัญอะไร 555 แค่เป็นวิชากลาง (ที่เกษตรจะ
    เรียกว่าวิชาบูรณาการ) ในวิชา Art of Living (หรือที่เรียกกันว่า Art of sleeping) ที่จะมีกิจกรรมให้ไปทำ ซึ่ง art of party เป็นหนึ่งในกิจกรรมนั้น แนะนำให้เลือก นอกจากจะได้แต่งสวยแต่งหล่อกันแล้ว ยังได้รับการสอนมารยาทบนโต๊ะอาหาร ทั้งหญิงทั้งชายก็เข้าร่วมได้ เหมือนฝึกสกิลการเข้าสังคมในระดับนึง
    นอกจากนี้ ถ้าเราไม่ได้มีคู่ควงไป เค้าก็จะจับคู่ให้หน้างานนั่นแล ซึ่งก็มีโอกาสในการเจอเพื่อนใหม่ๆ ทั้งในและนอกคณะด้วย (หรืออาจได้แฟนนะ อิอิ)

    6. วิชาศาสตร์แห่งแผ่นดิน
    เหมือนมหาวิทยาลัยจะบังคับให้เด็กรหัสใหม่ๆ เรียน เหมือนอารมณ์ TU 
    100 ของธรรมศาสตร์ ปลูกฝังความเป็นเกษตรศาสตร์ (ต้องบอกก่อนว่ารุ่นของนี่ไม่ต้องเรียน 555) โดยมีเนื้อหาวิชาเรียนเกี่ยวกับมหาวิทยาลัยของเรานี่แหละ จริงๆตอนเทอม 1 ก็คิดว่าจะลงเรียนขำๆดูเหมือนกัน แต่เวลาไม่ลงตัว เลยอดไป ก็ขอให้น้องๆ รุ่นใหม่สนุกสนานกับการเรียนวิชานี้นะ อย่างน้อย ออกไปเผื่อใครถามเกี่ยวกับม.เราจะได้ตอบได้ไม่มากก็น้อย 555

    7. สงกรานต์กลางกรุง ลั่นทุ่งบางเขน
    มาถึงกิจกรรมที่ปีไหนๆ ก็เข้าร่วมได้กันบ้างเนาะ กิจกรรมนี้เริ่มมาในยุคที่
    อาจารย์บดินทร์ รัศมีเทศ เป็นว่าที่อธิการบดี ให้อาจารย์ บุคลากร และนิสิตของม.เกษตรได้มีกิจกรรม เพราะปกติช่วงนี้มอจะเงียบมาก โดยในปีแรกมีพื้นที่บริเวณให้เล่นอยู่บนถนนไรซ์เบอร์รี่ (เส้นหน้างาม 1 ถึงหน้าคณะบริหารธุรกิจ) มีน้ำเติมให้ มีการักษาความปลอดภัยที่ดี คนที่มาเล่นก็เป็นคนในสังคมม.เกษตรด้วยกันทั้งนั้น ใครไม่มีแผนอะไรก็ขอเชิญนะครัช (จัดมา 2 ปีละ นี่ไม่เคยได้อยู่เล่นซักปี เสียดายมากๆ)

    8. งานถวายพระพร ในโอกาสสำคัญของราชวงศ์องค์ต่างๆ
    เนื่องจากนี่เป็นเด็กกิจกรรม เลยมีโอกาสได้เข้าไปถวายพระพรเป็นงานใส่
    สูท เป็นงานถ่ายรูป 555 จัดที่ตึก 50 ปี มีการถวายพระพรจากทุกหน่วยงานของม.เกษตร ทุกคณะ แล้วก็องค์กรนิสิตต่างๆ ด้านนอกก็จะมีที่ให้ลงนามถวายพระพร ช่วงของงานก็จะอยุ่ตามวันโอกาสพิเศษนั้นๆ แหละ เช่น วันพ่อ วันแม่ วันเกิดฟ้าชาย สมเด็จพระเทพ ฟ้าหญิง ฯลฯ สำหรับนิสิตทั่วไปก็สามารถไปกับสโมสรนิสิตของคณะตัวเองได้ นอกจากตอนปี 1 ที่ต้องรับเสด็จแล้ว งานนี้ก็จะเป็นงานที่จะได้ลองยัดตัวเองลงไปในกระโปรงพิธีการอีกครั้ง เหมือนเป็นการเตือนใจตัวเอง (ถึงความอ้วน ถถถถ)

    9. วันนนทรีทรงปลูก ดนตรีทรงโปรด 
    จัด ณ หอประชุมใหญ่ (ตรงสระพหลฯ) ในวันที่ 19 พฤศจิกายน เป็นวัน
    รำลึกในวันที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงเสด็จพระราชดำเนินมาปลูกต้นนนทรี 9 ต้นรอบหอประชุมอันเป็นต้นไม้สัญลักษณ์ประจำมหาวิทยาลัย และในวันนั้นได้ทรงดนตรีร่วมกับง อ.ส.วันศุกร์ ซึ่งมีอาจารย์ และศิษย์เก่าของมหาวิทยาลัย รวมอยู่ด้วย ได้แก่ อาจารย์ระพี สาคริก (นักดนตรีและโฆษก) ม.ร.ว. เทพฤทธิ์ เทวกุล (โฆษก) และนายอวบ เหมะรัชตะ
    โดยนิสิตก็จะมีการเดินจุดเทียน แล้วก็รำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณในวันนั้นกัน เป็นงานพิธีการใส่สูทอีกเช่นกัน 55

    10. วันสถาปนามหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
    เริ่มเหนื่อยในการพิมพ์ 555 เป็นงานวันที่ 2 กุมภาพันธ์ของทุกปีที่ทุก
    หน่วยงาน ทุกวิทยาเขตจะมาวางพวงมาลาที่หน้าอนุสาวรีย์ 3 บูรพาจารย์ เพื่อรำลึกถึงวันที่ก่อตั้งมหาวิทยาลัยและรำลึกถึงผู้ก่อตั้งมหาวิทยาลัยของเราด้วย นอกจากนี้ยังเหมือนการรวมรุ่นศิษย์เก่า555 ถ้ามีโอกาสตอนยังเป็นนิสิตก็อยากลองให้ไปดูนะ มีของกินตั้งแต่เช้ามืด เป็นงานพิธีการใส่สูทอีกเช่นเคย

    11. วันสืบ นาคะเสถียร 
    อย่างที่รู้กันว่า 1 กันยายน ของทุกปีเป็นวันรำลึกการจากไปของ สืบ นาคะ
    เสถียร นักอนุรักษ์ทรัพยากรป่าไม้ รุ่นพี่ KU 35 เป็นนักอนุรักษ์ ได้เข้าร่วมต่อสู้คัดค้านการสร้างเขื่อนน้ำโจน ในบริเวณทุ่งใหญ่นเรศวร จังหวัดกาญจนบุรี โดยสืบยืนยันว่า การสร้างเขื่อนเป็นการทำลายล้างเผ่าพันธุ์แหล่งอาหาร ตลอดจนที่อยู่อาศัยของสัตว์ป่าอย่างรุนแรง กระทั่งความช่วยเหลือจากมนุษย์ไม่สามารถชดเชยได้ โดยการรวมพลังของกลุ่มนักอนุรักษ์ ซึ่งในที่สุดโครงการสร้างเขื่อนน้ำโจนได้ถูกระงับไป
    การต่อสู้เพื่อป่าไม้ ของพี่สืบและมูลนิธีสืบ นาคะเสถียร ยังสืบทอดถึงปัจจุบัน ใครอยากรู้ว่าในงานมีอะไรบ้าง แนะนำให้ลองไปกันดูซักครั้งนะ ตอนแรกเป็นคนที่ไม่ได้ซาบซึ้งกับใรแบบนี้เลย แต่ดูคีตราชนิพนธ์ไป แล้วก็ได้ไปดู VTR ในงานนี้ ก็รู้สึกได้ว่า เห้ย คนๆ นึงลุกขึ้นมาต่อสู้เพื่ออะไรซักอย่างมันเท่มากๆเลยนะ

    12. หอประวัติ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
    อยู่บริเวณประตู งามฯ3 เก็บรวบรวมหลักฐานตั้งแต่ก่อตั้งมหาวิทยาลัย ทั้ง
    เครื่องแบบ ตำราเรียน เหมือนเป็นพิพิธภันฑ์มหาวิทยาลัยก็ว่าได้ ถ้ามีโอกาสก็ลองแวะเวียนไปดูได้ ชอบเครื่องแบบสมัยก่อนมาก ที่กระโปรงจะเป็นสีเขียว เกร๋เท่ แล้วก็วิวัฒนาการของมอ เรื่องราวเก่าๆ ถูกเก็บบันทึกไว้ที่นี่

    13. พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ กรุงเทพมหานคร 
    อยู่บริเวณทางเข้ามอฝั่งประตูพหล ถัดจากหอประชุมใหญ่มาหน่อย ดูแล
    โดยกรมประมง เป็นพิพิธภัณฑ์ที่ไม่ได้ไปมานานมากแล้ว แต่จำได้ว่าชอบมากๆ คือเราชอบสัตว์น้ำอยุ่แล้วอะ ตอนเด็กๆชอบดูปลาไหลไฟฟ้ามากๆ ค่าเข้าราคาน่ารักแล้วก็อยู่ใกล้มอ ว่างๆก็แวะเวียนไปดูได้

    14. สำนักพิพิธภัณฑ์ และวัฒนธรรมการเกษตร
    อยู่ตรงมุมของมหาวิทยาลัยถัดจากประตูงาม 3 มี ชมรมโขนละครและ
    ดนตรีไทยอยู่ข้างหน้า เป็นพิพิธภัณฑ์ที่สวยนะ มีหอประชมด้วย แต่ด้วยเวลาที่ผ่านไป เลยค่อนข้างเงียบเหงา แต่ที่นี่สวยและน่าถ่ายรูปมาก งานลอยกระทงก็เคคยจัดที่นี่แล้วก็ล่าสุดงานประชุมของเราห้องข้างในโอ่โถงมาก เปนตัวเลือกที่ดีในการจัดงานที่ต้องใช้ห้องประชุม เพราะค่าเช่าถูกกว่าหอประชุมใหญ่ 555

    15. สะดือมหาวิทยาลัย + Time Capsule
    สะดือมหาลัยคือตรงวงเวียนหน้าสำนักหอสมุดฝั่งเก่า ที่มีตราพระพิรุณทรง
    นาค ตรงนั้นนอกจากจะถือว่าเป็นสะดือมหาวิทยาลัยแล้ว (ที่เรียกกว่าสะดือ เพราะถ้ามองจากแผนที่ของพื้นที่ที่ม.เกษตรได้มาตอนแรกสุดดแล้วจะอยู่ตรงกลางแผนที่พอดี แต่เมื่อเวลาผ่านไป พื้นที่แบ่งให้กรมกองต่างๆ เลยดูไม่กลางซะแล้ว 555) ยังมีการฝัง Time Capsule ของมหาวิทยาลัย อารมณ์ว่าของใช้ เครื่องแบบ หลักฐานใดใดของมอไว้ตรงนี้ ด้วยที่ว่าใน ... ปีข้างหน้าจะมาเปิดดูว่า เห้ย มอเรามีอะไรเปลี่ยนไปบ้าง เหมือนสร้างหลักฐานไว้ให้คนรุ่นหลัง

    16. ทดลองเดิน 7-11 ให้ครบ 3 ที่
    ในม.เกษตรของเรา มี 7-11 อยุ่ 4 ที่ ถ้าอยู่มอมาตั้ง 4 ปีไม่เคยไปครบก็กะ
    ไรอยุ่เนอะ 4 สาขา ก็มีที่บาร์ใหม่ หน้าตึกเทพฯ ศร.1(รูหนู) แล้วก็ข้างพุทธเกษตร(เป็น 7-11 ที่ใหญ่ที่สุด) ขนาดมีตั้ง 4 ที่ก็ยังรู้สึกว่าไม่พออยุ่ดี 7-11 และที่เล็กซะเหลือเกิน 555

    17. ขี่จักรยานรอบมอตาม bike lane และ Loving Way
    หลายคนอาจจะบอกว่า bike lane นั้นอันตรายซะเหลือเกิน ซึ่งก็จริง 555 
    ต้องใช้สกิลขั้นสูงในการปั่นเลยล่ะ แต่อยากให้ลองไปกันนะ บางช่วงต่อถึงจะมีปัญหา แต่เราว่าเส้นทางทำให้ได้เหมือนสำรวจมอเลยล่ะ
    ทั้งนี้เส้นทางที่แนะนำมากคือ loving way คือมันสวย มันดี รถไม่เยอะ 
    แม้ว่าจะสั้นไปหน่อยก็เถอะ แล้วก็เป็นความเชื่อของเด็กเกษตรว่าถ้าชายหญิงปั่นจักรยาน-ซ้อนท้ายกันเส้นนี้จะได้เป็นแฟนกันล่ะอิอิ

    18. ปั่นเรือเป็ดคณะประมง
    แม้จะเป็นคณะที่ไกลไปซักหน่อย แต่ถ้าได้เข้าไปจะอิจฉามากกก เป็นคณะ
    ที่มีพื้นที่กว้างมากกกกก มีสระน้ำด้วย แล้วเร็วๆนี้ก็มีเรือเป็ดมาให้นิสิตปั่นเล่นกัน ยามเย็นๆ นี่แสงสวยมาก สะพานขาวก็เหมาะสำหรับการถ่ายรูปนะ

    19. นั่งตะลัยให้ครบทุกสาย 
    ปจจุบัน ตะลัยมี 5 สาย คือถ้าชีวิตนิสิตปกติก็ไม่จำเป็นต้องนั่งให้ครบก็ได้ 
    แต่ไหนๆ คนขับตะลัยก็หายากเกือบจะยิ่งกว่ารักแท้ ก็ลองนั่งให้มันรบ จะได้รู้ว่าแต่ละสายนั่งไปไหนได้บ้าง แม้จะช้า จะร้อนบ้าง แต่เราว่าการได้นั่งตะลัยเป็นความ classic อย่างนึงของม.เกษตรเลยนะ

    20. พายเรือ + ให้อาหารปลาสระน้ำหลังตึกสำนักทะเบียน
    เช่นกัน ว่าที่นี่ตั้งแต่ทำเป็นสระน้ำใหม่นั้น กลายเป็นสถานที่ยอดฮิตในการ
    ถ่ายรูปเลยก็ว่าได้ แสงสวย มีต้นไม้ล้อมรอบ มีเรือให้พาย มีอาหารปลาให้เลี้ยง ดูเป็นกิจกรรมที่ดีก่อนกลับบ้านชิคๆ

    21. เดินตลาดนัดครึ่งเดือนกรมการข้าว + ตลาดนัดทุกวันอังคาร ณ วนศาสตร์ + ตลาดนัดวันศุกร์ กรมประมง
    ด้วยความที่อยู่เกษตรมาแต่เด็ก พ่อชอบพามาเดิน 3 ตลาดนี้ ตลาดนัดครึ่ง
    เดือนนี่เปลี่ยนมาหลายที่มาก เมื่อก่อนจัดบาร์ใหม่ แล้วก็ย้ายไปจัดที่ไหนไม่รุ แล้วก็มาที่กรมการข้าว เป็นตลาดนัดที่ใหญ่ที่สุด จัดทุกประมาณ 15 วัน มีสากกะเบือยันเรือรบ ของเยอะมาก ของกินก็เยอะมากเช่นกัน
    ตลาดนัด วน. เน้นของกินเป็นหลัก จัดอาทิตย์ละครั้งที่คณะวนศาสตร์ 
    ตลาดนัดวันศุกร์กรมประมง ชื่อก็บอกอยู่ว่าจัดวันศุกร์ อยู่ข้างๆ พิพิธภัณธ์
    สัตว์น้ำที่กล่าวไปนั่นแล

    22. รู้จัก KUWIN + Edu Farm + Max learn กัน
    KUWIN เป็นชื่อ wifi ในมอ ที่เร็วปรี๊ดปร๊าด จะเร็วที่สุดที่สำนักคอม อารมณ์
    ว่าโหลดบิตหนัง 1 เรื่องได้ถายในไม่ถึง 10 นาทีจีจี ส่วนรอบๆมอก็ครอบคลุม แต่ก็ขอให้ระวังจุดอับนะ เช่น คณะเราเป็นต้น ทั้งๆที่อยู่ถัดจาดสำนักคอมนิดเดียว 555
    Edu Farm เพิ่งรู้ว่ามันมีตอนปี 4 แต่เหมือนจะมีมานานแล้ว เป็นเว็บที่ไว้อัพ
    โหลดชีทเรียนความรู้ การสื่อสารกันระหว่างอาจารย์กับนิสิต
    Max Learn คล้ายๆ Edu Farm ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมต้องมีเยอะแยะ 55

    23. เรียนวิชาพลศึกษา มากกว่า 2 ตัว
    อย่างที่รู้กันว่านิสิตม.เกษตรเรา ต้องเรียนวิชาที่แสนจะลงยากลงเย็น เสคก็น้อย เวลาก็หาลงตารางยาก อย่างวิชาพลศึกษากันใน 4 ปี 8 เทอมเนี่ยตั้ง 2 ตัว แต่จะพูดว่านี่เป็นคนที่เรียนพละไปแล้ว 5 ตัว แล้วก็มีเพื่อนที่รู้จักเรียนมัน 8 ตัว 8 เทอมกันเลยทีเดียว ทำไมต้องเรียนเกิน 2 ตัวล่ะ? นอกจากจะมีวิชาให้เลือกเกือบ 20 อย่าง ช่วงเวลาหลากหลายแล้ว ยังเป็นโอกาสได้พบเจอเพื่อนใหม่ๆ และได้ฝึกทักษะที่กีฬาที่ถ้าจบไปเป็นวัยทำงานแล้วจะหาเรียนได้ยาก มีกีฬาแปลกๆ หรือก็คิดซะว่าชีวิตนึงได้ลองสัมผัสอะไรแบบนี้ก็เป็นประสบการณ์ที่ดีเหมือนกัน เช่นพวก ยิงปืน ยิงธนู ไพ่บริดจ์ โบว์ลิ่ง ลีลาศ มวย ไอคิโด คาราเต้ นอกจากนี้ยังมีวิชาที่คนฮิตกันมากๆ คือ เวทเทรนนิ่ง ซึ่งเป็นวิชาที่เราว่าถ้าได้ต่อยอด สามารถสร้างอาชีพที่เดี๋ยวนี้ฮิตกัน เช่นพวกเทรนเนอร์ไรงี้ได้เลยนะ แม้ว่าจะต้องยอมรับว่าอุปกรณ์อำนวยความสะดวกของแต่ละกีฬาอาจจะไม่ได้มีมากมัก แต่ก็สามารถให้นิสิตทุกคนที่ลงเรียนเล่นเป็นได้ในระดับนึง รู้ทักษะพื้นฐานที่ดี

    24. กาแฟ Art of Coffee
    ร้านกาแฟที่ตั้งอยู่หลายสาขาในมอ สำหรับเราว่ารสชาตฺกาแฟเค้าดีไม่แพ้สตาบัคเลยนะ เนื่องจากพี่สาวเราชอบกินร้านนี้มาก เราเลยได้เข้าร้านบ่อยก็พลอยต้องกินไปด้วย ชอบการที่มันมีเครื่องดื่มใหม่ๆ อยุ๋เสมอ เป็นร้านของศฺษย์เก่าม.เกษตร ที่ใช้กาแฟคุณภาพดี แล้วก็ชงได้มาตรฐานนะ (ไม่ได้ค่าโฆษณาแต่อย่างใด เป็นความชอบส่วนบุคคล)

    25. Kaset Fair
    ไหนๆ ก็ข้อสุดท้ายของ Part แรกกันแล้ว ปิดกันด้วยงานที่เรียกได้ว่าเป็น
    งานที่สร้างชื่อเสียงให้ม.เกษตรกันเลยทีเดียว ต้องขออธิบายก่อนว่าเมื่อก่อนงานเกษตรแฟร์ หรือวันงานเกษตรแห่งชาติ จัดขึ้นปีละครั้ง ในช่วงสัปดาห์แรกของเดือนกุมภาพันธ์ โดยจะคร่อมวันสถาปนามหาวิทยาลัยเสมอ เมื่อก่อนนี่จัดแบบรอบมอคือรอบมอจริงๆ แบบเดินวันเดียวไม่หมด คือมันกว้างมากจีจี แต่เดี๋ยวนี้คือจัดทั้งหมด 3 ครั้ง คือเกษตรแฟร์ใหญ่ หรือวันงานเกษตรแห่งชาติเหมือนเดิมนั่นแหละ กับ เกษตรแฟร์เพื่อมูลนิธิต่างๆนาๆ ซึ่งมีปีละ 2 ครั้ง จัดช่วงเส้นทางประตุพหล
    โดยเกษตรแฟร์ใหญ่สำหรับเรามีสิ่งที่อยากแนะนำสำหรับทั้งบุคคลทั่วไป
    และเด็กเกษตรเองหลายอย่าง 555 อารมณ์ว่าถ้าใครมาแล้วหลงเดี๋ยวเราพาเดินให้เอง อิอิ นอกจากต้นไม้ สัตว์เลี้ยง ผลิตภัณฑ์ทางการเกษตร ยงมีร้านอาหารนิสิต นิทรรศการวิชาการบนอาคารจักรฯที่แนะนำให้ไปดูด้วย ขอเจาะลึกไปที่ร้านอาหารนิสิตจากคณะและองค์กรกิจกรรมต่างๆ งานเกษตรแฟร์เรียกได้ว่าเป็นงานที่ไว้หาตังสำหรับการทำกิจกรรมอีกงานหนึ่ง ทั้งยังช่วยให้คนในองค์กรสมัครสมานสามัคคีกันทำงานด้วย 
    โดยร้านอาหารจะมีทั้งจากบุคคลภายนอกและของนิสิต ร้านของนิสิตของแต่ละคณะจะมีความแตกต่างกันไป เช่นที่ดังๆก็จะมี 
    ประมงซ๊ฟู้ด(ประมง) อาหารทะเลสดๆ มีดนตรีฟัง ระบบจัดการร้านดี , 
    Indain Bar(วนศาสตร์) ตอนเย็นจะมีการแสดงควงไฟจากชุมนุมคนเล่นไฟในสังกัดคณะวนศาสตร์ให้ชมด้วย , 
    Vet Restaurant (สัตวแพทย์) เป็นคณะที่รักษาสัตว์แต่มีอาหารเป็นสัตว์น่ารักทั้งน้าน เนื้อจระเข้งี้ เนื้อกระต่ายงี้ โห่คุณหมอออ, 
    ร้านรวงข้าว (เกษตร) 
    นอกจากนี้ร้านที่น่าสนใจก็ยังมี 
    จิ้มจุ่มวิทยา (เพิ่งจะกลับมาเปิดปี2ปีนี้เอง) , 
    บัสสะบัดครก (บริหาร) ขายส้มตำ อาหารอีสาร , 
    ครัวอีนิวมิค (เศรษฐศาสตร์)ขายของกินเล่นแล้วข้าวไข่เจียวมั้ง 555 , 
    ร้านสบายปาก (เทคนิคสัตวแพทย์) ไก่อบโอ่งถือว่าเด็ด พนง. ทำสเต็กเด็ดทุกี 555
    have a seat (อุตสาหกรรมเกษตร แต่บางปีเหมือนจะเปลี่ยนชื่อร้านไม่ใช่ชื่อนี้) ขายพิซซ่า อาหารอิตาเลี่ยนและอื่นๆ ทั้งยังเป็นร้านที่มีต่อฮอร์โมนเป็น Presenter 555 
    แล้วก็ร้านที่เพิ่งมาปีนี้ของคณะมนุษ Humburger ร้านบางร้านก็มีชื่อเดิมมานาน บางร้านขายเหมือนเดิมแค่เปลี่ยนชื่อร้าน ส่วนบางร้านก็เป็นเหมือนการรวมตัวของคณะใหม่ๆ อีกร้านที่แนะนำให้ไปลอง (เราลืมร้านสโมไหนก็อย่าเพิ่งโกรธกัน ._.)

    ขอบคุณสำหรับการอดทนอ่าน Part 2 จะมาเมื่อขยัน

    To be continued……………………………………………..

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in